วีเอ็มแวร์ (VMware) เร่งทรานส์ฟอร์มองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจในยุคอุตสาหกรรม 4.0 หวังสร้างการเติบโตในเอเชีย…
บริษัท วีเอ็มแวร์ เปิดตัวการพัฒนาอีกขั้นของเทคโนโลยีสำหรับ วีเอ็มแวร์ คลาวด์ โดยนำเสนอการลงทุนและสร้างรากฐานทางดิจิทัล (Digital Foundation) เพื่อสนับสนุนองค์กรที่ต้องการขยายธุรกิจให้เติบโตในยุคอุตสาหกรรม 4.0
พร้อมเริ่มแผ่ขยายในเอเชีย การพัฒนาดังกล่าวครอบคลุมการอัพเดต วีเอ็มแวร์ คลาวด์ Foundation, วีเอ็มแวร์ วี คลาวด์ Director และ CloudHealth by วีเอ็มแวร์ คลาวด์ และการขยายการให้บริการบนCloud Foundation ผ่านบริการ วีเอ็มแวร์ คลาวด์ ในสิงคโปร์
รวมถึงการขยายเครือข่ายพาร์ทเนอร์ วีเอ็มแวร์ คลาวด์ Verified เพิ่มเติมทั่วโลกโดยการควบรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับระบบเครื่องจักรอัตโนมัตินับเป็นการเปิดศักราชใหม่สำหรับโรงงานอัจฉริยะในเอเชีย ขณะที่อุตสาหกรรม 4.0 จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคนี้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ทั้งนี้คาดว่าอุตสาหกรรม 4.0 จะก่อให้เกิดผลกระทบที่มูลค่าราว 216 พันล้านดอลลาร์ ถึง 637 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2568 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พร้อมแนะองค์กรต่าง ๆ ดำเนินการพัฒนาระบบมัลติคลาวด์ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางด้านธุรกิจ ควบคู่ไปกับการขยายกิจการในภูมิภาคนี้ ด้วย 2 กลยุทธ์หลักทางด้านคลาวด์ นั่นคือ ไฮบริดคลาวด์หรือคลาวด์ลูกผสม (Hybrid Cloud) และคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) แบบเนทีฟ
โดยทั้งสองแนวทางมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับองค์กรธุรกิจในลักษณะที่แปลกใหม่ และแตกต่าง ช่วยให้องค์กรเหล่านี้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วในภูมิภาคนี้
VMware เปิดตัว Cloud on AWS หวังสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในเอเซีย
ซันเจย์ เค. เดชมุคห์ รองประธานและกรรมการผู้จั
เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์
รวมถึงการเปิดตัว วีเอ็มแวร์ คลาวด์ on AWS ที่สิงคโปร์ จะช่วยอัดฉีดพลังให้กับกลยุทธ์
นำเสนอไฮบริดคลาวด์ด้วย VMware Cloud Foundation
VMware Cloud Foundation เป็นโซลูชั่นระดับชั้นนำสำหรับไฮบริดคลาวด์ ซึ่งขยายคำจำกัดความของโครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวอร์จ (Hyperconverged Infrastructure หรือ HCI) ด้วยการผสานรวมความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่จำเป็น
ทั้งในส่วนของพลังประมวลผล สตอเรจ ระบบเครือข่าย และการจัดการคลาวด์แบบครบวงจร ทั้งนี้ Cloud Foundation เป็นโซลูชั่นแบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวที่นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินงานที่สอดคล้องกัน เพื่อช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัย
รวมทั้งโยกย้ายแอปพลิเคชั่น และดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดไปสู่แพลตฟอร์มคลาวด์ ปรับขนาดตามความต้องการเพื่อรองรับการกู้คืนระบบ การขยายธุรกิจทั่วโลก และยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันตามฤดูกาล และติดตั้งแอปพลิเคชั่นรุ่นใหม่ในสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัย
วันนี้ วีเอ็มแวร์ได้เปิดตัว วีเอ็มแวร์ Cloud Foundation 3.7 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมใช้งานบน Dell EMC VxRail ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 ของวีเอ็มแวร์ นับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่มีการนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ที่บูรณาการเข้ากับสถาปัตยกรรม HCI ที่ยืดหยุ่นของวีเอ็มแวร์ ครอบคลุมทุกสแต็ก
พร้อมสำหรับแอปพลิเคชั่นทางด้านธุรกิจ Cloud Foundation บน VxRail แสดงถึงการบูรณาการอย่างใกล้ชิดระหว่างเทคโนโลยีของเดลล์ อีเอ็มซี และวีเอ็มแวร์ โดยประกอบด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่น ได้รับการออกแบบร่วมกันอย่างเหมาะสม ช่วยเพิ่มความสะดวกและความคล่องตัวในการดำเนินงาน
และนำเสนอการจัดการวงจรการใช้งานแบบครบวงจร โดยอาศัยการจัดการแบบอัตโนมัติ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ฮาร์ดแวร์เรื่อยไปจนถึงซอฟต์แวร์ Cloud Foundation บน VxRail ได้รับการปรับแต่งสำหรับประสิทธิภาพ การปรับขนาดอย่างเหมาะสม ประสบการณ์ผู้ใช้ และการประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบ (TCO)
โดยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนและการดำเนินงาน พร้อมทั้งมอบความยืดหยุ่นที่เหนือชั้น และความสะดวกในการติดตั้งใช้งาน ความยืดหยุ่น และความสมบูรณ์ของระบบเครือข่าย รวมถึงตัวเลือกที่หลากหลายในการปรับใช้ เช่น ในรูปแบบของอุปกรณ์และแร็ค ช่วยให้ลูกค้าเลือกใช้ Cloud Foundation บน VxRail ได้อย่างยืดหยุ่น
จิล ชนอร์สัน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่
ซึ่งแตกต่างจากโครงสร้างพื้
นอกจากนี้ Cloud Foundation 3.7 รองรับการติดตั้ง วีเอ็มแวร์ Horizon 7 virtual desktop infrastructure (VDI) ที่เป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมด โดย Cloud Foundation ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอคุณประโยชน์ของ Horizon 7 ด้วยการจัดหาระบบงานโครงสร้างพื้นฐานอัตโนมัติสำหรับสภาพแวดล้อมHorizon 7
รวมถึงการติดตั้ง Horizon 7, App Volumes, User Environment Manager และ Unified Access Gateway ยิ่งไปกว่านั้น Cloud Foundationผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานแบบสำเร็จรูปเข้ากับการติดตั้งแอปพลิเคชั่นทางด้านธุรกิจ
ช่วยให้ลูกค้าสามารถนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชั่นให้แก่ลูกค้าองค์กรด้วยความรวดเร็วในระดับคลาวด์ Cloud Foundation เป็นรากฐานสำหรับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ในรูปแบบของบริการ (cloud infrastructure as a service) จากวีเอ็มแวร์ และพาร์ทเนอร์ วีเอ็มแวร์ คลาวด์ Verified
รวมไปถึงบริการ SDDC as-a-service ภายใต้การจัดการของวีเอ็มแวร์สำหรับการติดตั้งระบบภายในองค์กรและส่วนรอบนอกของเครือข่าย พร้อมกันนี้ วีเอ็มแวร์ได้ขยายการให้บริการบน Cloud Foundation เพิ่มเติมทั่วโลกจากวีเอ็มแวร์และพาร์ทเนอร์ ซึ่งครอบคลุมถึง
บริการ วีเอ็มแวร์ Cloud on AWS ในภูมิภาคต่างๆ เพิ่มเติม: วีเอ็มแวร์ Cloud on AWS ขับเคลื่อนด้วย Cloud Foundation และได้รับการนำเสนอ จำหน่าย และซัพพอร์ตโดยวีเอ็มแวร์และพาร์ทเนอร์ ด้วยการเพิ่มเติมเขตพื้นที่ APJ (สิงคโปร์) ของ AWS บริการ VMware Cloud on AWS
จึงพร้อมใช้งานใน 13 เขตพื้นที่ทั่วโลกที่ AWS เปิดให้บริการ ทั้งนี้ วีเอ็มแวร์และ AWS ยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอบริการดังกล่าวไปยังเขตพื้นที่หลักๆ ที่ AWS เปิดดำเนินงานในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2562
บริการเพิ่มเติมจากพาร์ทเนอร์สำหรับ วีเอ็มแวร์ Cloud on AWS: มีพาร์ทเนอร์กว่า 60 รายที่สร้างหรือนำเสนอบริการภายใต้การจัดการสำหรับ วีเอ็มแวร์ Cloud on AWS และมีพาร์ทเนอร์กว่า 280 ราย
ที่ได้รับการรับรองความเชี่ยวชาญ วีเอ็มแวร์ Cloud on AWS Solution Competency โดยทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากที่เปิดตัวโครงการพาร์ทเนอร์ วีเอ็มแวร์ Cloud on AWS
เพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์ วีเอ็มแวร์ Cloud Verified: ตอนนี้วีเอ็มแวร์มีพาร์ทเนอร์ 35 รายภายใต้โครงการ VMware Cloud Provider Program ที่ได้รับสถานะการรับรอง Cloud Verified ทั้งนี้ พาร์ทเนอร์ VMware Cloud Verified คือพาร์ทเนอร์รายสำคัญที่นำเสนอบริการ VMware SDDC as a service
แบบครบถ้วนสมบูรณ์ รวมไปถึงบริการเสริม และบริการสนับสนุนจากดาต้าเซ็นเตอร์ของพาร์ทเนอร์โดยผ่านทาง Cloud Foundation เครื่องหมายรับรอง Cloud Verified ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ มั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการคลาวด์รายนั้น ๆ
นำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของวีเอ็มแวร์อย่างครบวงจรมากที่สุด พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานและการดำเนินงานที่สอดคล้องกันบนระบบคลาวด์ทั้งหมด
ขับเคลื่อนบริการใหม่ๆ จากผู้ให้บริการของวีเอ็มแวร์
โดยรวมแล้ว พาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ให้บริการคลาวด์ของ วีเอ็มแวร์ (VCPP) ทำหน้าที่ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 150,000 รายที่ติดตั้ง VM หลายล้านเครื่อง ลูกค้าเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากระบบคลาวด์ระดับองค์กรที่แข็งแกร่ง
โดยใช้นวัตกรรมล่าสุดของวีเอ็มแวร์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการปรับใช้และจัดการระบบไฮบริดคลาวด์ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกัน และบริการคลาวด์ใหม่ ๆ ซึ่งวีเอ็มแวร์ vCloud Director 9.7 เป็นรีลีสใหม่ล่าสุด จะช่วยให้ผู้ให้บริการคลาวด์สร้างความแตกต่างที่เหนือกว่าให้กับบริการไฮบริดคลาวด์ที่นำเสนอ
พร้อมทั้งจัดหาบริการใหม่ๆ ผ่านการจัดการคลาวด์ทั่วโลกในลักษณะรวมศูนย์ การปรับขนาดของระบบที่กว้างขวางมากขึ้น และเฟรมเวิร์กการต่อขยายที่ปรับปรุงดีขึ้น แพลตฟอร์ม vCloud Director จะผสานรวมการจัดการระบบคลาวด์ภายในองค์กรและระบบคลาวด์แบบผู้เช่าหลายราย
โดยครอบคลุมสภาพแวดล้อมทั่วโลกทั้งหมดของผู้ให้บริการคลาวด์ที่ใช้เทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ จึงช่วยเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบดูแลและการจัดการ ตั้งแต่สภาพแวดล้อม vSphere ที่ติดตั้งภายในองค์กร ไปจนถึงระบบคลาวด์ของผู้ให้บริการที่รองรับผู้เช่าหลายราย
นอกจากนี้ เฟรมเวิร์กการต่อขยายที่ได้รับการปรับปรุงจะช่วยให้ผู้ให้บริการคลาวด์สามารถนำเสนอบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างบนแพลตฟอร์มที่รองรับผู้เช่าหลายราย โดยอาศัยโซลูชั่นชั้นนำจากบริษัทอื่นๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์ เช่น Cohesity, Dell EMC และ Rubrik
วีเอ็มแวร์ vCloud Availability 3.0 จะผนวกรวมบริการโอนย้ายข้อมูล โยกย้ายระบบ และกู้คืนระบบไปยังและระหว่างระบบคลาวด์ที่มีผู้เช่าหลายราย ช่วยให้ผู้ให้บริการประหยัดต้นทุนในการนำเสนอบริการด้านความพร้อมใช้งานของระบบ (Availability)
การผนวกรวมแบบเนทีฟเข้ากับ vCloud Director และอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ทันสมัย จะมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกง่ายดายให้แก่ลูกค้าสำหรับการจัดหาและจัดการบริการอย่างรวดเร็ว
สร้างความสำเร็จด้านระบบคลาวด์ รวดเร็วขึ้นด้วย CloudHealth
องค์กรต่างๆ หันมาใช้ระบบคลาวด์ เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ความปลอดภัย และเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด แต่มีหลายๆ กรณีที่ปัญหาท้าทายเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายบั่นทอนความพยายามดังกล่าว และส่งผลให้องค์กรธุรกิจไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์
เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานได้อย่างเต็มศักยภาพ ด้วยลูกค้ากว่า 4,000 ราย CloudHealth by วีเอ็มแวร์ ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการ ดำเนินงาน และปกป้องสภาพแวดล้อมแบบมัลติคลาวด์ได้ดียิ่งขึ้น โดย CloudHealth ช่วยให้ลูกค้าประสานงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
เพื่อรองรับการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับการจัดการค่าใช้จ่าย การรักษาความปลอดภัย และการกำกับดูแล ควบคู่ไปกับการปรับขนาดสภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์อย่างเหมาะสม CloudHealth มอบความสามารถที่เหนือชั้นด้านการจัดการค่าใช้จ่าย
ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนในระบบคลาวด์ โดยจะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่ามีการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนใดบ้าง แอปพลิเคชั่นใดใช้ทรัพยากรมากที่สุด รวมถึงวิธีการปรับขนาดสภาพแวดล้อมอย่างเหมาะสม แม้กระทั่งในกรณีที่มีการปรับเพิ่มขนาดอย่างรวดเร็ว
โดยฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน CloudHealth จะพัฒนาต่อยอดจากฟังก์ชั่นการจัดการค่าใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม และจะครอบคลุมการรายงานเกี่ยวกับมัลติคลาวด์ที่ปรับปรุงดีขึ้น การรายงานแบบหลายมิติ การรายงานเกี่ยวกับพื้นที่ทำงาน การตัดจำหน่ายที่ดีกว่าเดิม ระบบอัตโนมัติในการแลกเปลี่ยนอินสแตนซ์แบบเหมาจ่าย
ที่เปลี่ยนแปลงได้ (Convertible Reserved Instance) การตรวจสอบคลัสเตอร์ของคอนเทนเนอร์ และการปรับขนาดที่เหมาะสมโดยครอบคลุมบริการหลายแบบของ Amazon EC2 นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม CloudHealth ยังผนวกรวมเข้ากับ Wavefront by วีเอ็มแวร์
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการวิเคราะห์และตรวจสอบดูแลระบบคลาวด์ การผนวกรวมดังกล่าวช่วยให้ลูกค้าที่ใช้ CloudHealth สามารถเข้าถึงดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพคลาวด์ใน Wavefront ผ่านทางแพลตฟอร์มCloudHealth
เพื่อดำเนินการปรับขนาดอย่างเหมาะสมและปรับปรุงประสิทธิภาพผ่านทางมุมมองด้านธุรกิจ การใช้งาน CloudHealth และ Wavefront ร่วมกันจะทำให้ CloudHealth สามารถใช้ประโยชน์จากดัชนีชี้วัด
การใช้งานโครงสร้างพื้นฐานแบบมัลติคลาวด์ (AWS, Azure, GCP) ซึ่งแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์อย่างละเอียด ทั้งยังให้คำแนะนำที่มีประสิทธิภาพสำหรับการประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้า
ข้อมูลเพิ่มเติม
- อ่านบล็อกนี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ ใน VMware Cloud on AWS
- อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ VMware vCloud Director และ vCloud Availability 3.0 ในบล็อกเหล่านี้
- อ่านบล็อก CloudHealth เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอัพเดตล่าสุด
- บุ๊คมาร์คเพจ VMware Cloud Communities เพื่อรับทราบข่าวคราวล่าสุดเกี่ยวกับ VMware Cloud
- ติดตามข่าวคราวล่าสุดเกี่ยวกับ VMware Cloud บน Facebook, LinkedIn, Twitter และ YouTube
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่