เอสเอ็มอี

ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในประเทศไทยกำลังเริ่มดำเนินการลงทุนด้านเทคโนโลยีในระบบคลาวด์ อัพเกรดฮาร์ดแวร์ไอที และไซเบอร์ซีเคียวริตี้…

highlight

  • SMEs ไทยเร่งเครื่องปรับตัวรับ “Digital Transformation” เน้น 3 เรื่อง ได้แก่ คลาวด์ อัพเกรดฮาร์ดแวร์ไอที และไซเบอร์ซีเคียวริตี้ อย่างไรก็ดียังคงมีอุปสรรคที่ SMEs ไทย ยังต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น การขาดแคลนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานและข้อมูลลูกค้า การขาดแคลนทักษะด้านดิจิทัล และบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัล และการขาดแคลนกระบวนการคิดที่เป็นดิจิทัล

เอสเอ็มอี ทั่ว APAC เร่งเครื่อง ทรานส์ฟอร์เมชัน

จากรายงานดัชนี ความพร้อมทางด้านดิจิทัลของเอสเอ็มอี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC SMB Digital Maturity Index) ที่จัดทำโดยบริษัทวิจัย ไอดีซี (IDC) พบว่าองค์กรธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ส่วนใหญ่เริ่มเริ่มโครงการดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันแล้ว

โดยการสำรวจดังกล่าวเป็นผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถาม 1,340 ราย ในภูมิภาคอาเซียน (ยกเว้นสิงคโปร์) เรื่องความพร้อมด้านดิจิทัลของเอสเอ็มอีใน 4 แง่มุมทางด้านธุรกิจ ได้แก่ การปรับใช้เทคโนโลยี และการประยุกต์ใช้แอปพลิเคชัน, กลยุทธ์ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันในองค์กร, กระบวนการ และการกำกับดูแล, ความสามารถในการจัดหา จัดการ และรักษาบุคลากรที่เหมาะสมเพื่อทำงานด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

โดยจำแนกตามความพร้อมทางด้านดิจิทัลในระดับ Digital Indifferent” ซึ่งหมายถึงการดำเนินการทางด้านดิจิทัลเพียงแค่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด แทนที่จะขับเคลื่อนด้วยแนวทางเชิงรุก (Proactive tactical approach)

ซึ่งผลสำรวจชี้ว่าองค์กรธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ของไทยได้พัฒนาสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง สู่การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี โดยเมื่อลงไปดูที่สิ่งที่ SMEs ไทยต้องการทั้ง 3 เรื่อง จะพบว่า เทคโนโลยีคลาวด์ คือเทคโนโลยีที่เป็นสิ่งที่ SMEs ไทยต้องใช้มากที่สุดโดยมีความต้องการใช้ถึง 13.3%

ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของการปรับใช้ระบบคลาวด์ทั่วภูมิภาคนี้ เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถปรับขนาดของระบบได้อย่างรวดเร็วตามความจำเป็น โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมากสำหรับโครงสร้างพื้นฐานไอที 

การมีโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่เหมาะสมนับว่าจำเป็นอย่างยิ่งต่อการตอบสนองความต้องการในการพัฒนาธุรกิจ SMEs ไทย และรองรับความสำเร็จในระยะยาว SMEs ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว ขณะที่เรื่องที่ต้องกรรองลงไปคือการงลงทุนในด้านการอัพเกรดซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ด้านไอที โดยมีความต้องการลงทุนถึง 12.1% 

ขณะที่เรื่องสุดท้ายที่ต้องการคือการเตรียมความพร้อมในการรับมือจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ที่อาจมาพร้อมกับความเสี่ยงทางไซเบอร์ โดย 11.7% ของ SMEs ในไทยมองว่าการลงทุนทางด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ถือเป็น 1 ใน 3 เทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในการลงทุน และถือเป็นหัวใจหลักของการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอย่างแท้จริง

ซิสโก้ จับมือ พาทเนอร์ เร่งพัฒนา SMEs ไทย

เอสเอ็มอี
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด.

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยของซิสโก้ กล่าวว่า ธุรกิจ SMEs ในไทยเร่งดำเนินการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน  ทั้งนี้ เอสเอ็มอีมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการสร้างจีดีพี (GDP) และแรงงานของไทย  

ซึ่งซิสโก้ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในการนำเสนอโซลูชันด้านไอทีให้แก่เอสเอ็มอี เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและศักยภาพของธุรกิจ ตั้งแต่โซลูชันบนระบบคลาวด์ไปจนถึงไฟร์วอลล์สำหรับไซเบอร์ซีเคียวริตี้

ซิสโก้ให้การสนับสนุนแก่เอสเอ็มอีที่ต้องการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลและขยายธุรกิจสู่ตลาดในระดับภูมิภาค  นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาช่องว่างทางด้านทักษะดิจิทัลในประเทศไทย

โดยโครงการ Cisco Networking Academy ได้จัดการฝึกอบรมความรู้ให้แก่ผู้เรียนเกือบ 50,000 คนในประเทศไทย และดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มพูนทักษะความเชี่ยวชาญให้แก่บุคลากรเพื่อรองรับความต้องการของโลกดิจิทัลในอนาคต

อย่างไรก็ดี เอสเอ็มอีในไทยยังคงประสบปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล หรือ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน โดยผู้ตอบแบบสอบถามระบุถึงอุปสรรคสำคัญๆ เช่น การขาดแคลนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานและข้อมูลลูกค้า (17.9%), การขาดแคลนทักษะด้านดิจิทัลและบุคลากร (15.7%) 

และการขาดแคลนกระบวนการคิดที่เป็นดิจิทัล (digital mind-set) หรือความท้าทายทางด้านวัฒนธรรมภายในองค์กร (14.0%) นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังชี้ว่า โครงการของรัฐบาลส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อเอสเอ็มอีไทยในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน

โดยผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (55.7%) ระบุว่าตนเองรับรู้ถึงโครงการภาครัฐที่ช่วยสนับสนุนเอสเอ็มอี และได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว ขณะที่ 32.9% รับรู้ แต่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการเหล่านั้น

เอสเอ็มอี
สุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและกลางและขนาดย่อม (สสว.)

ด้าน สุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจไทย ในปี 2561 ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามล้านรายในประเทศไทยสร้างงานให้กับคน 12.16 ล้านคน คิดเป็น 43.2%ของจีดีพีของประเทศ

ซึ่งการใช้ประโยชน์ของเศรษฐกิจดิจิทัล และการใช้ประโยชน์จากไอทีกับผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว หรือ Micro, Small & Medium Enterprise (MSME) นั้นมีความสำคัญและค่อยๆกลายเป็นรากฐานใหม่สำหรับผู้ประกอบการในปัจจุบัน

และจะสร้างประโยชน์ด้านนวัตกรรม ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลที่นำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มผู้ประกอบการรายใหม่จำนวนมากในตลาด พัฒนาความได้เปรียบในการแข่งขันและขจัดอุปสรรคทางการตลาดโดยเฉพาะจากภาค MSME ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจในประเทศส่วนใหญ่

เราช่วย MSME ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ประโยชน์และสร้างธุรกิจใหม่โดยเสนอโปรแกรมและรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงงานระดับภูมิภาค อันที่จริงสิ่งที่ท้าทายและสำคัญที่สุดสำหรับหลาย ๆ ประเทศในอาเซียนในขณะนี้คือ “ความจำเป็นในการนำดิจิทัลไปใช้ในวิสาหกิจขนาดเล็ก

ด้วยเหตุนี้เนื่องในโอกาสการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี 2562 สสว.จะจัดกิจกรรมอาเซียนภายใต้หัวข้อ การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันสำหรับผู้ประกอบการขนาดจิ๋ว (Micro Enterprises) ในภูมิภาคอาเซียน โดยมีจุดประสงค์ในการพัฒนาช่องทางการตลาดดิจิทัล และเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการขนาดจิ๋วในภูมิภาคอาเซียน

สรุปข้อแนะนำจาก APAC SMB Digital Maturity Index

  • ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเปรียบเสมือนการเดินทาง ไม่ใช่การวิ่งแข่งระยะสั้น แต่เป็นการวิ่งมาราธอนระยะทางไกล เอสเอ็มอีควรจะประเมินความพร้อมของตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณา แง่มุมหลักทางธุรกิจที่กล่าวเบื้องต้น และให้ความสำคัญกับโครงการสำคัญๆ เพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างที่เกิดขึ้น
  • ลงทุนเชิงกลยุทธ์ เอสเอ็มอีจำเป็นต้องมีกลยุทธ์การทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันและแผนพัฒนาที่ชัดเจน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการลงทุนด้านเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาท้าทายในเรื่องสำคัญๆ และใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่สำหรับการขยายธุรกิจให้เติบโต
  • ปรับใช้ระบบงานอัตโนมัติและระบบดิจิทัล เอสเอ็มอีควรมองหาหนทางที่จะเพิ่มประสิทธิภาพโดยอาศัยระบบงานอัตโนมัติ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง  นอกจากนี้ ควรจะกำหนดนโยบายเพื่อสร้างมาตรฐานสำหรับกระบวนการต่างๆ ขณะที่องค์กรดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ควรจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปรับปรุงกระบวนการ ผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรม และเพิ่มความคล่องตัว
  • กระตุ้นการมีส่วนร่วม การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเอสเอ็มอีจึงต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของพนักงานและผู้บริหารระดับสูง โดยจะต้องเฟ้นหาผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลภายในองค์กร และมอบหมายให้เข้ามาดูแลการดำเนินการแต่เนิ่นๆ และควรจะใช้ประโยชน์จากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญดังกล่าว เพื่อสร้างวัฒนธรรมของการเปลี่ยนแปลง โดยสนับสนุนการทำงานร่วมกัน แบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จ รวมถึงแบกรับความเสี่ยงตามที่คาดการณ์ไว้
  • ค้นหาพันธมิตรที่ไว้ใจได้ เอสเอ็มอีจำนวนมากประสบปัญหาในการดำเนินกลยุทธ์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ดังนั้นจึงควรมองหาพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ สามารถให้บริการคำปรึกษาและการจัดการโครงการ นอกเหนือไปจากความรู้ด้านเทคโนโลยี และควรมองหาพันธมิตรที่มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับเอสเอ็มอีและอีโคซิสเต็มส์ของเอสเอ็มอี
เอสเอ็มอี
ซิสโก้ จับมือ สสว. เร่งพัฒนาเอสเอ็มอีไทย

อย่างไรก็ดีจาก ความพร้อมทางด้านดิจิทัลของเอสเอ็มอี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พบว่า กว่า 60% ของเอสเอ็มอีในเอเชีย-แปซิฟิก เริ่มปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัล นั้นมีผลมาจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น และความแพร่หลายของสมาร์ทโฟน SME เหล่านี้กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์และความคาดหวังของลูกค้า การ ดิสรัป ของธุรกิจ และในบางกรณี อาจสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ขึ้นมา โดยใช้ประโยชน์จากการลงทุน และการระดมทุน

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่