ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) เผยโฉม Galaxy VS ระบบพลังงานสำรองใหม่ล่าสุด ที่รองรับบริหารการจัดการพลังงานในโครงสร้างพื้นฐาน และเอดจ์แอพพลิเคชั่น…
highlight
- Schneider Electric Galaxy VS ระบบพลังงานสำรอง (UPS) ใหม่ล่าสุดที่ออกแบบกระทัดรัด และมอบประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพลังงานสูงถึง 99% และมาพร้อมทางเลือกจากการใช้งานจาก แบตเตอรี่ลิเทียม ไอออน ที่ช่วยให้มีน้ำหนักเบา ทำให้สามาถออกแบบในการติดตั้งได้ง่าย อีกทั้งยังมาพร้อมกับ โซลูชั่น EcoStruxure Ready ช่วยให้ตรวจสอบค่าต่าง ๆ ได้ผ่านแอพพลิเคชั่น บนสมาร์ทโฟนจากทุกที่ทุกเวลา ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์เทคโนโลยี
Schneider Electric Galaxy VS ระบบพลังงานสำรองสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน และเอดจ์แอพพลิเคชั่น
จากยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยีทีทันสมัยทำให้องค์กรเปลี่ยนไปใช้โซลูชั่น และเทคโนโลยี ในการดำเนินธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ ทั้งเพ่ือการใช้ข้อมูลต่าง ๆ ในแง่มุมของการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น หรือการสั่งงานให้เครื่องจักรดำเนินงานแทนมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดการใช้งานศูนย์คอมพิวเตอร์มากขึ้น
ทั้งในรูปแบบของการเช่าใช้ และองค์กรลงทุนเอง ซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญต่อการจัดการด้านพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อน เน่ืองจากไม่สามารถปล่อยให้เกิดเหตุไม่คาดฝันในเรื่องของพลังงานขาดช่วง หรือสะดุด เพราะหมายถึงโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจเสียหายได้อย่างมหาศาล
แม้ว่าในปัจจุบันหลายธุรกิจเองเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และมีการลงทุนในการสร้างระบบพลังงานที่ปลอดภัยมากขึ้น และลดความเสี่ยงลง แต่ก็มัปัญหาในเรื่องของการจัดการได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการออกแบบให้เหมาะสมกับการสร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดต้นทุนสิ้นเปลื้องเกิดขึ้น
โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีศูนย์คอมพิวเตอร์ภายในองค์กร และมีตู้แร็คตั้งแต่ 1-10 ตู้แร็ค ซึ่งโดยปกติห้องที่เป็นศูนย์คอมพิวเตอร์ภายในในองค์กรในลักษณะนี้มักจะใช้ไฟฟ้าประมาณ 20-22Kw ต่อความสูง 40U ซึ่งเป็นจำนวนการใช้พลังงานไฟฟ้าพื้นฐานที่ใช้ในศูนย์คอมพิวเตอร์
ล่าสุด ทาง ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เล็งเห็นถึงความต้องการขององค์กรต่าง ๆ ที่มีศูนย์คอมพิวเตอร์ภายในในองค์กรของตนเอง และมีความกังวลในการใช้พลังงาน รวมถึงการออกแบบห้องให้เหมาะสม จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ระบบสำรองไฟ (UPS) แบบ 3 เฟส ที่สามารถให้พลังงานประมาณ 20-100Kw แต่มีขนาดกระทัดรัด
ในชื่อ “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กาแล็กซี วีเอส“ และใช้งานได้แบบ Intelligence Module ทำให้สามารถปรับเปลี่ยน ซ่อมแซ่ม ได้ง่าย และด้วยการออกแบบให้มีขนาดกระทัดรัดทำให้ฝ่ายไอทีภายในองค์กร สามารถออกแบบจัดวางได้แม้มีพื้นที่จำกัด และช่วยให้องค์กรที่ต้องการทำให้อุปกรณ์ทำหน้าที่เป็น Edge Computing
หรือสร้าง เดต้าเซ็นเตอร์ ขนาดเล็ก (Small Data Center) ได้เหมาะกับความต้องการขององค์กร โดยสาเหตุหลักที่องค์กรต้องการทำการประมวลผลข้อมูลที่อยู่ใกล้กับแหล่งข้อมูลให้มากที่สุด (Edge Computing) มักจะเป็นเรื่องของการการวิเคราะห์ข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลเชิงสถิติ ได้สะดวกที่สุด
ซึ่งแทนที่จะเอาข้อมูลจำนวนมหาศาลขึ้นไปประมวลผลบน Cloud ก็เอาข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลผลที่ต้นทางที่ใกล้กับแหล่งข้อมูลมากที่สุด ทำให้เวลาในการรับส่งข้อมูล (Latency) ได้เร็วมากกว่า การดึงข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ อีกเครื่องที่อาจอยู่คนละฝั่งโลกผ่าน Cloud
ซึ่งวิธีการแบบนี้จะช่วยมอบประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพลังงานสูงถึง 99% นอกจากนี้ในตัว กาแล็กซี วีเอส ยังได้พัฒนาปรับปรุงในเร่ืองของแบตเตอรี่ ให้เป็นแบบ ลิเทียม-ไอออน ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าแบตเตอรี่ แบบเดิม ถึง 2 เท่า และช่วยให้ตัว UPS มีน้ำหนักเบามากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ นวัตกรรมและความแข็งแกร่งของ กาแล็กซี วีเอส ยังถูกออกแบบให้อยู่บนความเป็น EcoStruxure Ready ช่วยให้ผู้จัดการไซต์งาน หรือบุคลากรฝ่ายเทคนิค สามารถมอนิเตอร์สถานะของระบบ กาแล็กซี วีเอส จากระยะไกลได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยแอปพลิเคชั่นจากสมาร์ทโฟน
มร.โรมาริก เอินส์ท รองประธาน กลุ่มธุรกิจไอที สำหรับองค์กร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยการออกแบบ และพัฒนาทำให้ กาแล็กซี วีเอส มีความพร้อมในการใช้งาน และช่วยแก้ปัญหาให้แก่การออกแบบ และสร้างศูนย์คิมพิวเตอร์ภายในองค์กร โดยช่วยให้ลูกค้า ที่ต้องการใช้ศุนย์ข้อมูลในการสร้าง
เอดจ์ และทำงานคลาวด์ (Edge & Cloud) สามารถนำโซลูชั่นมาปรับใช้งาน ในระบบนิเวศแบบไฮบริดได้ง่าย ด้วยความกระทัดรัด และโมดูลาร์ดีไซน์ ทำให้สามารถปรับใช้ กาแล็กซี วีเอส ได้อย่างรวดเร็ว ใช้พื้นที่น้อยกว่ายูพีเอสแบบดั้งเดิม ช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลาของผู้ใช้งาน ซึ่งในภายรวมช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ลงได้
ประโยชน์ของ กาแล็กซี วีเอส
- ประหยัดต้นทุน ให้ประสิทธิภาพสูงถึง 99% เมื่อดำเนินการในโหมด ECOnversion และ 97% ในโหมด Double Conversion
- ประหยัดพื้นที่ การออกแบบที่กระทัดรัดแต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่อัดแน่น เหมาะอย่างยิ่งโดยเฉพาะสำหรับพื้นที่ที่จำกัด เข้าถึงส่วนประกอบภายในทั้งหมดได้จากด้านหน้า เพื่อความง่ายและรวดเร็วในการเชื่อมต่อและให้บริการ
- เก็บพลังงานได้ยาวนาน เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน ช่วยฟื้นฟูระยะเวลาในการสำรองไฟได้อย่างรวดเร็ว ปกป้องโหลดแม้ระหว่างเกิดไฟดับซ้ำๆ และยังให้อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าโซลูชั่นแบตเตอรี่แบบดั้งเดิม
- เพิ่มความพร้อมใช้งานและบำรุงรักษาได้ง่าย ส่วนประกอบของระบบหลักสร้างขึ้นแบบโมดูล ด้วยการออกแบบในลักษณะ Fault-Tolerant ที่ช่วยให้ระบบสามารถทำงานต่อได้แม้มีองค์ประกอบภายในบางอย่างเสียหาย มีการทำ Redundancy หรือการเตรียมระบบสำรองภายใน เวลาที่ระดับของโหลดลดลงและให้เวลาเฉลี่ยในการซ่อมเร็วขึ้น
- EcoStruxure Ready ช่วยให้บริหารจัดการได้ง่าย ให้ความสามารถในการมองเห็นประสิทธิภาพและสถานะของการทำงานของอุปกรณ์ได้ทั่วโลก ผ่านเซอร์วิส บูโร (service bureau) ที่ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกวัน
- Green Premium Certified การออกแบบที่ให้สมรรถนะทางธุรกิจที่ยั่งยืน
กาแล็กซี วีเอส สามารถให้พลังงานได้ตั้งแต่ 20 kW ถึง 100 kW (400V) ด้วยแพลตฟอร์มเพียงแพลตฟอร์มเดียว ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นการปกป้องพลังงานของ Galaxy VS และ Galaxy V ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เยี่ยมชมได้ที่ Galaxy VS product page.
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่