เดลล์ เปิดตัวละติจูด คอมเมอร์เชียลพีซี เจนเนอเรชันที่ 10 จากเดลล์ เทคโนโลยีส์ โดยรุ่นนี้ให้ความบางยิ่งขึ้น กะทัดรัดมากขึ้น พกพาไปมาได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ผมมีโอกาสได้ไปลองสัมผัสผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ของ Dell โดยในงานแถลงข่าว คุณอโณทัย เวทยากร ผู้บริหารของเดลล์กล่าวว่า ละติจูด จนเนอเรชันที่ 10 นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดใหม่ทำใหม่โดยสิ้นเชิง  นั่นก็เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนทำงานในยุคปัจจบุัน  และร่นนี้ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงแผนกไอทีเป็นหลัก เพื่อที่จะช่วยย่นระยะเวลาในการเซ็ตอัพเครื่องก่อนถึงมือ user

โดย เดลล์จะให้ลูกค้าระบุความต้องการต่าง ๆ มายังเดลล์ เช่น สเปคเท่าไหร่ ต้องการใช้วินโดว์อะไร ต้องการลงซอฟต์แวร์อะไรบ้าง  ซึ่งวันที่เครื่องมาส่งที่สำนักงาก ผู้ใช้งานสามารถนำเครื่องไปใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอฝ่ายไอทีมาเข้ามาเซ็ตอัพ

ทั้งนี้ Latitudes ตัวใหม่นี้ได้ใส่เทคโนโลนี Fast Charge ในชื่อ ExpressCharge เช้ามาด้วย ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว

นอกจากนี้บางระบบยังมีฟีเจอร์นวัตกรรมของเดลล์ คือ ExpressConnect ซึ่งจะตรวจจับสัญญาณได้อย่างฉลาดและเชื่อมต่อกับไวไฟที่แรงที่สุดเพื่อให้ throughput ที่เร็วกว่าเสาสัญญาณแบบเดิมถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สัญญาณหลุดน้อยลง ส่งผ่านไฟล์ได้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้นและ syncs อีเมลได้เร็วขึ้น

และเพื่อตอบโจทย์ในยุค Mobility ที่คนต้องจำรหัสต่างๆ มากมาย ซึ่งมักพบปัญหาว่า User ลืม Password บ่อยครั้ง และเดลล์เข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดี ทำให้โน้ตบุ๊ครุ่นนี้ได้ระบบรักษาความปลอดภัยในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซที่ช่วยลดความยุ่งยากของผู้ใช้ในการจำพาสเวิร์ด และช่วยให้ sign-on เข้าใช้งานได้รวดเร็วและปลอดภัย

โดย Latitude รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นปัจจุบันมีระบบอ่านลายนิ้วมือฝังมากับปุ่มพาวเวอร์ และกล้องวงจรปิดอินฟาเรด (IR Camera) ที่สามารถใช้ร่วมกับ Windows Hello ในการล็อกอินเพื่อยืนยันตัวตนทางไบโอเมตริกไฃ

ในเรื่องของ Spec หมดห่วงได้เพราะมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 8th Gen Intel® Core™ vPro และโซลูชัน Intel® Wi-Fi 6 (Gig+) ช่วยให้บุคลากรเชื่อมต่อได้เร็วยิ่งขึ้น ด้วย Latitude ใหม่สำหรับคนทำงานนอกสถานที่ (remote worker) คนที่ต้องประชุมตลอดเวลา (corridor worker) หรือมืออาชีพที่ต้องทำงานในขณะเดินทาง (on-the-go pro)

ทั้งนี้ Latitude เจนเนอเรชันที่ 10 เปิดตัวมา 3 รุ่น คือ  Latitude 7000 series ,5000 series และ 3000 series  ลองไปดูคำอธิบายแต่ละรุ่นกัน

Latitude 7000 series

ด้วยฟอร์มแฟกเตอร์ในขนาด 13 และ 14 นิ้ว ทำให้ Latitude 7000 เป็นโน้ตบุ๊คระดับพรีเมียมเพื่อธุรกิจที่เล็กที่สุดในโลกเท่าที่มี ห่อหุ้มด้วยวัสดุไฟเบอร์คาร์บอน หรืออลูมิเนียมใหม่ที่ให้ความทนทานในระดับเครื่องจักร เป็นแล็ปท็อปที่ออกแบบบานพับให้พับลงได้สุด (drop-hinge) และบิดได้รอบ ใช้ง่ายเพียงนิ้วเดียวก็สามารถเปิดจอดิสเพลย์ขอบบางป้องกันแสงสะท้อนได้ ออกแบบมาเพื่อลดการใช้งานแบตเตอรี่ในระหว่างที่ใช้งาน โดยนวัตกรรมเทคโนโลยี digital SafeScreen จะให้มุมมองจอที่แคบลงเพื่อความปลอดภัยในขณะใช้งานในที่สาธารณะ

สายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ยังรวม Latitude 7200 2-in-1 ซึ่งมาในรูปโฉมการออกแบบที่บางลง เบาขึ้น มีพื้นผิวที่เป็นวัสดุพรีเมียม เป็นอลูมิเนียมเคลือบแบบขัดเงาพร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสง ซึ่งอุปกรณ์ขนาด 12 นิ้ว ที่ให้บริการด้านไอทีอย่างเต็มรูปแบบนี้ คือ Latitude ของเดลล์ ที่ให้ความสามารถในการบริหารจัดการและให้ความปลอดภัยมากที่สุดสามารถถอดจอออกได้ อัดฟีเจอร์แน่น อีกทั้งเป็นแล็ปท็อปที่เล็กที่สุดของเดลล์ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้งานในรูปของแท็ปเล็ตได้ด้วย

แล็ปท็อปทั้งหมดมาพร้อมหน่วยความจำมากถึง 32GB และรองรับการใช้งานได้ยาวนานอย่างน่าประทับใจถึง 20 ชั่วโมง อยู่ที่การเลือกตั้งค่า ซึ่งนานกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และในความเป็นมืออาชีพด้านโมบายอย่างแท้จริง Latitude 7000 ยังให้เสาสัญญาณเซลลูลาร์ CAT16 ที่ขอบบาง 4×4 พร้อมการจูนสัญญาณแบบไดนามิคเป็นรายแรกของอุตสาหกรรมพีซี ให้ความเร็วในระดับ gigabit LTE ระหว่างใช้งานเพื่อการดาวน์โหลดที่เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

Latitude 5000 series

เป็นโน้ตบุ๊คเพื่อธุรกิจเป็นหลัก โดยมีขนาดเล็กที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊คในระดับเดียวกัน และยังให้ฟีเจอร์ด้านธุรกิจที่ครอบคลุมรวมถึงให้ความสามารถในการตั้งค่าการใช้งานได้ครอบคลุมเช่นกัน Latitude 5000 series มี form factors (13, 14 และ 15 นิ้ว) ภายใต้แชสซีใหม่ที่เสริมความแกร่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ และมี run time ซึ่งอยู่ในระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรมโดยมุ่งเป้าอยู่ที่เกิน 20 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถรื่นรมย์กับการโฟกัสใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจอ HD และ Full HD ขอบบาง หรือการตั้งค่าจอดิสเพลย์แบบทัชสกรีน และระบบประมวลผลอันทรงพลัง 8th Gen Intel® Core™ processors พร้อมทางเลือกการ์ดจอแยก เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลสูงสุด

นอกจากนี้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ยังได้เปิดตัว Latitude 5300 2-in-1 ใหม่ ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊ค 2-in-1 เพื่อธุรกิจหลักที่เล็กที่สุดในโลกด้วยขนาด 13 นิ้ว โดยมีน้ำหนักเริ่มต้นเพียงแค่ 3.15 ปอนด์ หรือในราว 1.43 กิโลกรัม โดย Latitude 5300 สามารถปรับบานพับได้ 360 องศา ดิสเพลย์ทัชสกรีนทำจาก Corning Gorilla Glass จากขอบจรดขอบ ให้ภาพ Full HD เคลือบ coating anti-glare ป้องกันแสงแยงตา ช่วยให้ดูหน้าจอได้ง่ายขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ 2-in-1 นี้สามารถตั้งค่าการใช้งานหน่วยความจำสูงถึง 32GB และสตอเรจสูงถึง 1TB

Latitude 3000 series

Latitude 3000 Series ใหม่ กำหนดมาตรฐานสำหรับโน้ตบุ๊คเพื่อธุรกิจในระดับเริ่มต้น ที่มาพร้อมความสามารถในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซเพื่อมอบผลลัพธ์ที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ ในขณะที่บริษัทขนาดใดก็ตามสามารถเข้าถึงคุณสมบัตินี้ ด้วยความเป็นแล็ปท็อปที่มีการอัพเดตรูปลักษณ์ในปัจจุบันให้ใช้พื้นที่ได้เล็กลงกว่าเดิมจึงมาใน form factors ขนาด 14 และ 15 นิ้วเท่านั้น อีกทั้งยังมีรุ่นใหม่ขนาด 13 นิ้วที่ให้ความโดดเด่น โดยเป็นโน้ตบุ๊คเพื่อธุรกิจในขนาด 13 นิ้วซึ่งบางที่สุดและเล็กที่สุดในโลก

สามารถติดตามลายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> Dell Latitude