depa ตั้งเป้างาน Big Bang 2019 คนเดินไม่ต่ำกว่า 5 แสนราย หวังพาทเนอร์ขนนวัตกรรมใหม่ร่วมงาน

• Facebook
• Twitter
• Line

ดีป้า (depa) ตั้งเป้าหมายใหม่  Digital Thailand Big Bang 2019 ก้าวสู่งานโชว์นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เชื่อคนสนใจร่วมชมไม่ต่ำกว่า 5 แสนราย…

highlight

• สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยความการจัดงาน “Digital Thailand Big Bang 2019” พร้อมเตรียมสร้างปรากฏการณ์ “รวมพลคนดิจิทัล” ภายใต้แนวคิด Asean Connnectivity ผ่าน 3 โซนเด่น Digital Economy, Digital Society และ Creativity

DE วางเป้าใหม่ Digital Thailand Big Bang ต้อง Big สมชื่อ

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยความการจัดงาน “Digital Thailand Big Bang 2019” พร้อมเตรียมสร้างปรากฏการณ์ “รวมพลคนดิจิทัล” ภายใต้แนวคิด Asean Connnectivity ผ่าน 3 โซนเด่น Digital Economy, Digital Society 

และ Creativity มุ่งสร้างประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมเชื่อมโยงประชาชนไทยให้ใกล้ชิดเทคโนโลยีดิจิทัลมากยิ่งขึ้น หวังเป็นสะพานเชื่อมที่ทำให้ประชาชนได้เข้าถึงและสัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น เปิดทางเลือกใหม่ ๆ ในการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนา

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า หน้าที่ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คือการผลักดันให้เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้าถึงประชาชนทุกระดับชั้น และทุกพื้นที่ของประเทศไทยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แต่วันนี้ก็ต้องยอมรับด้วยว่าประชาชนคนไทยทุกคนไม่ได้มีโอกาสเข้าถึง

เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง และเท่าเทียม ประชาชนในบางกลุ่มยังคงห่างไกลกับเรื่องของเทคโนโลยีอย่างมากทำให้โอกาสในการยกระดับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ เป็นได้ช้า แม้ว่าประชาชนบางส่วนจะเข้าถึงเทคโนโลยี แต่ก็ยังไม่สามารถปรับตัวในยุคดิจิทัลได้

ซึ่งการจัดงาน Digital Thailand Big Bang จะเป็นสะพานเชื่อมที่ทำให้ประชาชนได้เข้าถึงและสัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น เปิดทางเลือกใหม่ ๆ ในการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งการแสดงให้ต่างประเทศได้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยที่จะก้าวสู่ยุคดิจิทัล

ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่น และนำไปสู่การลงทุนในประเทศในที่สุด แต่ในปีนี้ภายในงาน Digital Thailand Big Bang 2019 ทากระทรวงมีเป้าหมายที่จะให้ทาง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า (depa) สร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นในวงกว้างมากกว่าที่เคยทำมา

เพราะเรื่องเทคโนโลยีนั้นไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เรื่องของเทคโนโลยี หรือเเค่เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องรวมไปถึงเรื่องของสังคมด้วย เราจะไม่ตีกรอบว่าคนที่จะเข้ามาร่วมงานจะเป็นแค่ “คนเทค” หรือคนในวงการเทคโนโลยี แต่หมายถึงทุกคนที่สนใจเรื่องเทคโนโลยีที่อยากจะนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิต หรือแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ

สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในงานนี้คือการที่จะเจ้าของเทคโนโลยีที่ได้เข้ามาร่วมงาน Digital Thailand Big Bang 2019 นำเอาเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลน์ หรือเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุด หรือเป็นเทคโนโลยีที่จะเปิดตัวมาโชว์ในงาน เพราะเราเชื่อว่าหากเจ้าของเทคโนโลยีเหล่านั้นนำเทคโนโลยีใหม่มาโชว์ จะสะท้อนกลับไปหาคนที่เดินชมงาน

ให้เกิดความเชื่อมั่น ว่าต่างชาติที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยียังเชื่อในศักยภาพของประเทศไทย แล้วทำไมเราถึงจะไม่คว้าโอกาสในการลงทุนใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับธุรกิจ หรือแม้ยกระดับวิถีการทำงานของธุรกิจของตน วันนี้การจัดงานระดับนี้จะต้องไม่ใช่แค่การจัดแล้วคนรู้ว่าก็งาน Big Bang 2019 เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้ว

แต่การจัดงานจะต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ก้าวไปสู่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในอาเซียน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ได้ แต่หากว่าเราไม่สามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลน์ หรือเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุดมาจากเจ้าของเทคโนโลยีมาสร้างความเชื่อมั่นได้ก็ไม่เหมาะสมที่จะเรียกว่างาน Big Bang 2019 

“งานนี้จะต้องไม่ใช่งานโชว์เพื่อมาหาลูกค้า หรือเปิดตัวสินค้า แต่ต้องเป็นงานแสดงศักยภาพของไทยให้ในอาเซียนเห็น“

ส่วนตัวเเล้วผมเชื่อว่างานนี้จะมีคนเดิน และร่วมชมนัวตกรรมทางเทคโนโลยีได้ไม่น้อยกว่า 500,000 คน เพราะจากเดิมที่จัดในครั้งก่อน ๆ ก็มีคนเดินเฉลี่ย  200,000 ถึง 300,000 คน แล้ว ซึ่งด้วยตรีมงาน การเชื่อมโยงอาเซียนเข้าหากัน หรือ Asean Connnectivity เชื่อว่าจะมีคนมาร่วมงานไม่น้อยกว่าที่เคยมี

depa พร้อมเปลี่ยนงาน Big Bang 2019 สู่งานโชว์นวัตกรรมใหม่ของโลก

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ในปีนี้ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมอาเซียนจึงได้จัดภายใต้แนวคิด “Asean Connectivity” เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของการ รวมพลคนดิจิทัลทั้งในไทย และระดับนานาชาติ บนพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร

เพื่อเตรียมความพร้อมยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น Asean Digital HUB ซึ่งภายในงานจะมีการรวมตัวของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล กว่า 300 บูธ เน้นการนำเสนอรูปแบบการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัล และในงานได้แบ่งพื้นที่เป็น 3 โซนหลัก ได้แก่

การพัฒนาเมืองสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ซึ่งจะเป็นพื้นทีในการนำเสนอเทคโนโลยีที่จะเป็นตัวกำหนด Trend ของโลกอนาคต อาทิ เทคโนโลยี AI, Internet of Things (IoT), และ Big Data ผ่านผู้ประกอบการที่มาร่วมจัดแสดง

รวมถึงเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน ASEAN Smart Cities Network: ASCN จาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และพลาดไม่ได้กับ Showcase เทคโนโลยียานยนต์อนาคต หรือFUTURE MOBILITY ที่จะให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับรูปแบบการเดินทางในอนาคตก่อนใคร

พื้นที่แสดงถึงความสำคัญเกี่ยวกับทักษะด้านดิจิทัล (Digital Society) ซึ่งจะเป็นโซนที่จะแสดงถึงทักษะทางด้านดิจิทัลที่จำเป็นต่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน ด้วยการเตรียมบุคลากรดิจิทัลเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม

โดยเฉพาะสังคมเกษตรกรรมที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมสัมผัสกับการนำอากาศยานไร้คนขับ หรือ Drone มาประยุกต์ใช้ในหลากหลายรูปแบบเพื่อประโยชน์เชิงสังคมในด้านต่าง ๆ

พื้นที่ที่รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อการสร้างสรรค์ (Creativity) ซึ่งจะเป็นที่ร่วมเอาผลงานจากเหล่านักพัฒนา (สตาร์ทอัพ) สัญชาติไทย ในหลากหลายรูปแบบของ เกม และ เทคโนโลยีต่าง ๆ และจะนำเสนอในรูปแบบของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกับการอัพเดทเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตมนุษย์หลากหลายมิติ

นอกจากนี้ภายในงานยังได้รวบรวมวิทยากรชั้นนำผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในหลากหลายแขนงทั้งในไทยและต่างประเทศ มาร่วมเป็น Speaker อาทิ Ray Chan ผู้ก่อตั้ง 9GAG.com, Mark Adams Senior Vice President and Head of Innovation จาก VICE Media,

Ben Hammersley นักพูด และ นักเขียนเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล จาก Wired UK และ BBC, Mich Goh Head of Public PolicyAirbnb, Inés Caldeira Managing DirectorL’Oréal ประเทศไทย, Roland Folger ประธานบริหาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย), 

คุณนริสา ลิมปนาทร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจาก Zilingo, คุณเหว่ง-ภูศณัฎฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ จากเพจ Little Monster Family และ เทพลีลา และอีกกว่า 100 คน สับเปลี่ยนมาแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์ตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน รวมถึงกิจกรรมเสวนากลุ่มน้อยใหญ่หลากเซสชั่น

และยังมีกิจกรรมเสริมทักษะด้านดิจิทัล ผ่านเกมหมูป่า เกมโค้ดดิ้งสัญชาติไทย, กิจกรรมHACKATHON, การแข่งขันหุ่นยนต์ (Robot Fighting) และ อีกมากมาย 

“งาน Digital Thailand Big Bang 2019 เป็นมหกรรมดิจิทัลที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลจากทั่วโลก มาแสดงให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่หลากหลายรูปแบบพร้อมให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และ เกิดการนำไปปรับประยุกต์ใช้ได้จริง และนำไปสู่การขับเคลื่อนประเทศเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยื่น ตามหัวใจหลักที่ยึดมาตลอด 3 ปี คือ โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน”  ดร.ณัฐพล กล่าว

สำหรับความคาดหวังทีจะมีคนเข้าร่วมชมงาน Digital Thailand Big Bang 2019 ว่าจะถึง 500,000 คน หรือไม่นั้นส่วนตัวผมคิดว่าเป็นไปได้ เพราะเราย้ายสถานที่จัดงานไปอยู่ในสถานที่ใหม่ ซึ่งสามารถรองรับการจัดงานขนาดใหญ่ได้ อีกทั้งยังอยู่ในทำเลที่ดี และสะดวกในการเดินทางอีกด้วย 

*สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชม ได้ในระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม 2562 ณ ฮอลล์ EH98-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com, VMware Blogs

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่

• Facebook
• Twitter
• Line