3D NAND เป็นนวัตกรรมด้านสถาปัตยกรรมของหน่วยประมวลผล ซึ่งประยุกต์เอาเซลล์มาตรฐานแบบ floating gate ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มาจัดวางใน 3D NAND เป็นครั้งแรก เพื่อให้หน่วยความจำมีประสิทธิภาพ ความจุ และความเสถียรสูงขึ้น
บริษัท ไมครอน เทคโนโลยี อิงค์ ร่วมกับ อินเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวเทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลชแบบ 3D NAND ซึ่งมีความจุสูงที่สุดในโลก โดยปัจจุบัน หน่วยความจำแฟลชเป็นเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่นิยมใช้กันทั้งในแลปทอปน้ำหนักเบา ศูนย์ข้อมูลความเร็วสูง โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์พกพาแทบทุกเครื่องทั่วโลก
เทคโนโลยีล่าสุดนี้พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือของอินเทลและไมครอน เป็นการนำเอาเซลล์เก็บข้อมูลมาวางซ้อนกันหลายชั้นในแนวตั้ง จนเกิดเป็นหน่วยความจำที่มีความจุสูงกว่าเทคโนโลยี NAND แบบอื่นๆ ถึงสามเท่าตัว หน่วยความจำแฟลชที่ใช้เทคโนโลยี 3D NAND จะจุข้อมูลได้มากกว่า ในขนาดที่เล็กลง จึงทำให้สามารถลดต้นทุนและการใช้พลังงานลง
เทคโนโลยีหน่วยความจำแบบ 3D NAND รุ่นใหม่นี้เป็นการนำเอาเซลล์หน่วยความจำแฟลชมาจัดเรียงในแนวตั้งกว่า 32 ชั้น จนเกิดเป็นดาย (Die) ภายในแพ็กเกจเดียวแบบ MLC (multilevel cell) ความจุ 256 กิกะบิต และ TLC (triple-level cell) ความจุ 384 กิกะบิต คุณสมบัติเหล่านี้ จะทำให้เกิด SSD ขนาดเท่าแท่งหมากฝรั่งมีความจุได้สูงกว่า 3.5 เทราไบต์ และ SSD ขนาด 2.5 นิ้วที่ใช้กันทั่วไป และสามารถมีความจุได้เกินกว่า 10 เทราไบต์
คุณสมบัติเด่นของเทคโนโลยี 3D NAND :
· ความจุสูง – สามารถจุข้อมูลได้สูงกว่าเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบ 3D อื่นๆ ในปัจจุบัน ได้ถึงสามเท่าตัว หรือเท่ากับความจุ 48 กิกะไบต์ต่อหนึ่งดาย ซึ่งเท่ากับว่าอุปกรณ์หน่วยความจำที่มีขนาดเพียงปลายนิ้วจะสามารถจุข้อมูลได้กว่า ¾ เทราไบต์ (ราว 750 กิกะไบต์)
· ราคาต่อกิกะไบต์ที่ต่ำลง – หน่วยความจำแบบ 3D NAND ในรุ่นแรกนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีอัตราส่วนระหว่างราคากับความจุที่คุ้มค่ากว่าหน่วยความจำ NAND แนวราบทั่วไป
· ความเร็วสูง – โดดเด่นทั้งในด้านแบนด์วิธการอ่านและเขียนข้อมูล ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเข้าออก และการสุ่มหาข้อมูลในตำแหน่งต่างๆ ทั่วทั้งไดรฟ์
· ประหยัดพลังงาน – สามารถทำงานในโหมดใช้พลังงานต่ำได้ โดยตัดการจ่ายไฟเข้าสู่ดาย NAND ที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ (แม้ว่าดายตัวอื่นๆ ในแพ็กเกจเดียวกันยังคงทำงานอยู่) จึงสามารถลดการใช้พลังงานลงได้อย่างมากในขณะสแตนด์บาย
· นวัตกรรมอัจฉริยะ – เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ลดระยะเวลาในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งยังทำให้หน่วยความจำมีความทนทานสูง ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และยังช่วยให้การติดตั้งและวางระบบง่ายขึ้นอีกด้วย