Blendata ผนึก AIS เปิดตัวแพลตฟอร์ม Big Data ภายใต้ชื่อ “AIS Big Data as a Service” บนระบบ Cloud ชูจุดเด่น “ลดเวลา-ประหยัดต้นทุน-ปลอดภัยสูง”
Blendata (เบลนเดต้า) บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ ผนึกกำลัง AIS Business Cloud ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน Cloud Service Provider อันดับ1 ด้านบริการครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย เปิดตัว AIS Big Data as a Service แพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะสำเร็จรูปบน Cloud แพลตฟอร์ม ชูจุดแข็งช่วยให้องค์กรสามารถติดตั้งระบบอย่างรวดเร็วและมั่นใจในความปลอดภัยสูง ด้วยการออกแบบแพคเกจที่เหมาะสมสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ขนาดกลาง นับเป็นเครื่องมือช่วยให้สามารถประมวลผล และนำข้อมูลมาใช้งานได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กรของ AIS พุ่งเป้าเจาะกลุ่มธุรกิจประเภท ค้าปลีก โรงพยาบาล และกลุ่มธุรกิจประกันภัย มั่นใจแพลตฟอร์มฯ ช่วยลดต้นทุน และลดเวลาในการจัดทำระบบ เพิ่มศักยภาพธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พร้อมแข่งขันในโลกธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องแข่งกับเวลา
นายณัฐนภัส รชตะวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เบลนเดต้า จำกัด เผย Blendata ได้ร่วมมือกับ AIS Business Cloud ผู้นำทางด้าน Cloud Infrastructure as a Service หรือ IaaS ที่มีความปลอดภัยสูงในประเทศไทย ด้วยบริการที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS พัฒนา AIS Big Data as a Service แพลตฟอร์มวิเคราะห์ Big Data อัจฉริยะ แบบสำเร็จรูปบนคลาวด์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มภายใต้เทคโนโลยี VMWare ผู้ช่วยทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการ Big Data ได้อย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัยสูงสุด ช่วยลดความซับซ้อนและลดต้นทุนได้ถึง 2 ใน 3 จากเดิม และยังช่วยลดเวลาการทำงานลงได้ 3 เท่า ช่วยสร้างประสิทธิภาพในการนำ “ข้อมูล” มาใช้วางแผนธุรกิจให้เติบโต มีผลการดำเนินงานที่ดีในภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดและรวดเร็ว โดยได้ออกแบบรูปแบบค่าบริการที่ยืดหยุ่น เหมาะสมกับขนาดของธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง เพื่อให้แต่ละองค์กรสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม และในอนาคตอาจจะพัฒนาบริการพร้อมออกแบบค่าบริการเพื่อให้ธุรกิจขนาดย่อมสามารถเข้าถึงได้อีกด้วย
ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม AIS Big Data as a Service ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองเทรนด์ของเทคโนโลยีและมุ่งขานรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า Enterprise ของ AIS ที่มีการเก็บข้อมูลไว้จำนวนมหาศาลและมีข้อมูลเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในแต่ละวัน แต่ยังขาดเครื่องมือช่วยบริหารจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ สอดคล้องกับแผนดำเนินงานของ Blendata ในการมุ่งขยายตลาด พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยภาพรวมธุรกิจปัจจุบันอยู่ท่ามกลางยุคการปรับตัว และการแข่งขันที่เข้มข้น เร่งให้หลายองค์กรเปิดเกมรุกพัฒนาธุรกิจ ด้วยการหยิบข้อมูลมหาศาลมาวิเคราะห์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนองค์กร ตัวอย่างเช่น การเร่งปฏิวัติการจัดเก็บข้อมูลถาวร (Data Archiving) เพื่อให้ค้นหาข้อมูลมหาศาลย้อนหลัง 10 ปี ได้ในไม่กี่วินาที จึงเป็นเรื่องที่หากองค์กรใดสามารถบริหารจัดการได้ก่อน ถือเป็นข้อได้เปรียบ ซึ่งรายงานของการ์ทเนอร์ ชี้ว่า Composable Data and Analytics นั้นเป็นเทรนด์ที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งในปี2021 และถือเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เข้าสู่การทำ Digital Transformation
“การจับมือระหว่างแพลตฟอร์มบริหารจัดการ Big Data สำเร็จรูป กับผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีบริการครอบคลุมและมีความปลอดภัยมากที่สุดนั้น ก็เพื่อมุ่งพัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูล เป็นตัวกลางสำคัญในการกำจัดความยุ่งยากที่เกิดขึ้นระหว่างข้อมูลที่ซับซ้อนกับผู้ใช้งาน (End-User) ผ่าน 4 กระบวนการ ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล (Integrate) การจัดการข้อมูล (Manage) การประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล (Process) และการนำข้อมูลไปใช้ (Utilize) โดยถูกรวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียวที่ง่าย มีความสะดวกรวดเร็ว บนต้นทุนที่ต่ำกว่า และช่วยให้ผู้ใช้งานบริหารจัดการข้อมูลได้ง่ายขึ้น” นายณัฐนภัส อธิบาย
ด้านนายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวเสริมว่า ท่ามกลางการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น เป็นตัวเร่งให้องค์กรเกิดความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลให้องค์กรมองหาโมเดลธุรกิจ หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเป็นเครื่องมือช่วยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ แต่หลายองค์กรกลับประสบปัญหา (Pain Point) ในขั้นตอนการวางระบบ (Implement) ที่ต้องใช้ระยะเวลานานและมีต้นทุนสูงด้านบุคลากร การจัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ บวกกับขั้นตอนที่ซับซ้อน ส่งผลให้โครงการหยุดชะงัก ลดโอกาสทางการแข่งขันของธุรกิจ การร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์ม AIS Big Data as a Service ช่วยแก้ Pain Point ขององค์กรด้วยขั้นตอนการติดตั้งแบบ All-in-one ที่รวดเร็วขึ้น ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์ในการจัดเตรียมระบบให้พร้อมใช้งาน ช่วยลดต้นทุนการวางระบบลงได้อีกหลายเท่าตัว รวมทั้งตัวแพลตฟอร์มยังสามารถใช้งานได้ง่าย โดยบุคลากรเดิมในแผนกที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด แพลตฟอร์มดังกล่าวเข้ามาเสริมทัพจุดแข็ง ฺAIS Business Cloud ในการนำเสนอแพลตฟอร์มตัวช่วยให้องค์กรต่าง ๆ มีทางเลือกในการนำเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพบนเครือข่ายคลาวด์ขนาดใหญ่ที่มีความปลอดภัยในประเทศ มาใช้ในการบริหารธุรกิจให้เติบโต แข่งขันได้ในต้นทุนที่เหมาะสม นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งและมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่อไป
ซึ่งการขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคนั้น จำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งาน หรือบุคลากรในแต่ละส่วนงานขององค์กรธุรกิจที่มีความจำเป็นในการใช้ข้อมูล สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจและการวางแผนธุรกิจจากการนำ Big Data มาใช้ได้มากยิ่งขึ้น