AIS เผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2564 รายได้รวมอยู่ที่ 42,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ลดลง 6.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร โต 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน ย้ำ “ดิจิทัลเทคโนโลยีคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูประเทศได้ไม่ว่าจะอยู่ในเงื่อนไขใด”
วันนี้ (3 สิงหาคม 2564) นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 มีรายได้รวม อยู่ที่ 42,757 ล้านบาท ใกล้เคียงเมื่อเทียบกับปีก่อน ในส่วนกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ของปีนี้ อยู่ที่ 7,041 ล้านบาท
ซึ่งบทวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร AIS ประจำไตรมาส 2/2564 เปิดเผยเพิ่มเติมว่า รายได้รวม ถือว่าเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ลดลง 6.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ในขณะที่กำไรสุทธิลดลง 0.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน พบว่าลดลง 6%
บทวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร AIS ประจำไตรมาส 2/2564 ชี้ว่า รายได้และกำไรที่ลดลงมาจากผลของการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมทั้งสภาวะการแข่งขันในตลาดและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำ
นายสมชัย เปิดเผยต่อว่า ทางด้านธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 1.5% เทียบกับปีก่อน และลดลง 0.9% เทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค AIS จึงมีแพ็กเกจมือถือในราคาต่ำลงเพื่อให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อน้อยเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น
สำหรับการเติบโตของผู้ใช้บริการ 5G ปัจจุบัน AIS มีผู้ใช้บริการ 5G แล้วกว่า 1 ล้านราย โดยปรับเป้าหมายฐานลูกค้า 5G ใหม่สู่ 2 ล้านรายภายในปีนี้
ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เติบโต 21% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6.2% เทียบกับไตรมาสก่อน ด้วยความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ โดยในไตรมาสที่ 1/64 เอไอเอสไฟเบอร์มีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นสุทธิ 104,000 ราย ปัจจุบัน “เอไอเอส ไฟเบอร์” มีลูกค้ารวม 1,535,900 ราย
ในส่วนของธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร AIS ระบุว่าในส่วนนี้ยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง คิดเป็น 13% เทียบกับปีก่อน จากความต้องการของภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่ปรับการดำเนินธุรกิจ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างการเข้าถึงลูกค้าในรูปแบบใหม่ๆ โดยมีความต้องการใช้บริการโซลูชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Cybersecurity และ ICT solution เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“สิ่งสำคัญขององค์กรในการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องในภาวะวิกฤติและเกิดความยั่งยืน คือ การบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบและรักษาสถานะทางการเงินให้มีความมั่นคงรองรับวิกฤติและความท้าทาย” นายสมชัย กล่าว
เมื่อดูบทวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร AIS ประจำไตรมาส 2/2564 จากตลาดหลักทรัพย์ประกอบ จะพบว่า ความร่วมมือระหว่าง Microsoft เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจ Cloud และ Disney+ Hotstar ถือเป็นไฮไลท์ความร่วมมือสำคัญในครึ่งปีแรกปีนี้
“ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา AIS ยังคงเดินหน้ามุ่งสร้างความเป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยประกาศความร่วมมือกับ Microsoft ในฐานะ Exclusive Strategic Partner ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการให้บริการ Cloud ด้วยนวัตกรรมที่ดีที่สุดเพื่อธุรกิจ พร้อมยกระดับความเชี่ยวชาญด้านคลาวด์ของ AIS ในเชิงลึก” นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ นายสมชัยระบุว่า การร่วมมือระหว่าง AIS กับ Disney+ Hotstar เพื่อขายแพ็กเกจรายเดือนในการรับชม ถือเป็นเป้าหมายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าของ AIS อีกด้วย
“สำหรับ AIS เรายังคงมีความเชื่อว่า ดิจิทัลเทคโนโลยีคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูประเทศได้ไม่ว่าจะอยู่ในเงื่อนไขใดก็ตาม เพราะฉะนั้นภายใต้สถานการณ์ที่มีข้อจำกัดมากมายและแม้ผลประกอบการของปี 2564 จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่ AIS ยังคงไม่หยุดที่จะลงทุนเพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เข้าถึงและครอบคลุมภาคส่วนต่างๆ พร้อมที่จะเชื่อมต่อภาคส่วนต่างๆ ให้สามารถทรานฟอร์มตัวเองสู่โลกใหม่ได้ตลอดเวลา” นายสมชัย กล่าว