NIA เดินหน้าต่อยอดแพลตฟอร์ม “นวัตกรรมประเทศไทย” ระดมความร่วมมือหน่วยงานชั้นนำของประเทศจากทุกภาคส่วน ร่วมกันสร้าง “เครือข่ายนวัตกรรมประเทศไทย” ล่าสุดมีเครือข่าย 73 องค์กร ตอบรับและพร้อมจะขับเคลื่อนให้ไทยก้าวสู่อันดับ 1 ใน 30 ของประเทศที่มีความสามารถด้านนวัตกรรมของโลก ภายในปี 2573 และนำประเทศไทยก้าวเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม
วันนี้ (6 กันยายน 2564) ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัว “เครือข่ายนวัตกรรมประเทศไทย” (Innovation Thailand Alliance) โดยระบุว่า “จากวิกฤตปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็น กับดักรายได้ปานกลาง ต้นทุนการผลิตสูง การแข่งขันทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่ห่วงโซ่อุปทานของโลกกำลังเปลี่ยนไป ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทั้งการเข้าถึงบริการของรัฐ การเข้าถึงด้านดิจิทัล ด้านการศึกษา และปัญหาสิ่งแวดล้อม ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”
“NIA เชื่อว่า นวัตกรรม จะเป็นทางออกในการพลิกฟื้นประเทศจากวิกฤต จึงต่อยอดแพลตฟอร์ม นวัตกรรมประเทศไทย ภายใต้แนวคิด ‘พลิกฟื้นประเทศ…ด้วยนวัตกรรมไทย’ โดยมุ่งเน้นให้คนไทยเห็นความสำคัญในการร่วมกัน พลิกธุรกิจให้รอด จากการนำนวัตกรรมมาพลิกโมเดลธุรกิจ พลิกชีวิตให้สุข จากการนำนวัตกรรมมาพลิกแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางสังคม และ พลิกสิ่งแวดล้อมให้ดี จากการนำนวัตกรรมมาพัฒนากระบวนการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อม” ดร.พันธุ์อาจ กล่าว
แพลตฟอร์ม นวัตกรรมประเทศไทย มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น “ชาติแห่งนวัตกรรม” โดยวางกรอบการดำเนินงานใน 4 ด้าน ได้แก่
- จุดยืนนวัตกรรมประเทศไทย ที่มีเป้าหมายให้ประเทศไทยอยู่ใน 30 อันดับแรกของดัชนีนวัตกรรมโลก ภายในปี 2573 เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศด้านนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
- ดีเอ็นเอนวัตกรรมประเทศไทย ที่มุ่งสร้างให้เกิดอัตลักษณ์ไทยรังสรรค์คุณค่าใหม่เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นใน 7 ด้าน และ
- เครือข่ายนวัตกรรมประเทศไทย ด้วยการสร้างให้เกิดพันธมิตรนวัตกรรมไทยสู่ตลาดโลกผ่านความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชั้นนำของประเทศทั้งหน่วยงานรัฐ บริษัทเอกชน สถาบันการศึกษา และสมาคมธุรกิจ
- แดชบอร์ดนวัตกรรมประเทศไทย โดยมีเป้าหมายให้เกิดข้อมูลนวัตกรรมประเทศไทย ที่มีการรวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลนวัตกรรมของประเทศที่มีความหลากหลายจากทุกภาคส่วน
การเปิดตัว “เครือข่ายนวัตกรรมประเทศไทย” ในวันนี้ มีเป้าหมายในการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้านนวัตกรรม และทำให้คนไทยและชาวต่างชาติรับรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมฝีมือคนไทยที่เป็น นวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่ประณีต โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งขณะนี้มีองค์กร 73 แห่ง ที่ตอบรับเข้าร่วมเป็นเครือข่าย แบ่งเป็นหน่วยงานรัฐ 24 องค์กร, บริษัทเอกชน 18 องค์กร, สถาบันการศึกษา 20 องค์กร และสมาคมธุรกิจ 11 องค์กร รายละเอียดมีดังนี้
- หน่วยงานรัฐ 24 องค์กร มีดังนี้
- กลุ่ม 1 หน่วยงานเชื่อมโยงองค์ความรู้ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 15 องค์กร ได้แก่
- กรมวิทยาศาสตร์บริการ
- สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
- สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
- สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
- สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ
- สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
- องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
- สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
- สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
- สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน)
- สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
- สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)
- ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน)
- กลุ่ม 2 หน่วยงานเชื่อมโยงอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จำนวน 3 องค์กร ได้แก่
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
- สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
- สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
- กลุ่ม 3 หน่วยงานเชื่อมโยงแหล่งทุนภาครัฐ จำนวน 5 องค์กร ได้แก่
- สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
- สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
- สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- กลุ่ม 4 หน่วยงานเชื่อมโยงฐานข้อมูล จำนวน 1 องค์กร ได้แก่
- สถาบันอาหาร
- กลุ่ม 1 หน่วยงานเชื่อมโยงองค์ความรู้ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 15 องค์กร ได้แก่
- บริษัทเอกชน 18 องค์กร แบ่งเป็น
- กลุ่ม 1 บริษัทขนาดใหญ่ SET Top 100 จำนวน 12 องค์กร ได้แก่
- บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
- บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด
- บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- กลุ่ม 2 บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน 4 องค์กร ได้แก่
- บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด
- ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ
- บริษัท มาร์ซัน จำกัด (มหาชน)
- บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด
- กลุ่ม 3 บริษัทสื่อสารเทคโนโลยี จำนวน 1 องค์กร ได้แก่
- บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด
- กลุ่ม 4 บริษัทข้ามชาติ จำนวน 1 องค์กร ได้แก่
- บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด
- กลุ่ม 1 บริษัทขนาดใหญ่ SET Top 100 จำนวน 12 องค์กร ได้แก่
- สถาบันการศึกษา 20 องค์กร มีดังนี้
- กลุ่ม 1 เครือข่ายสถาบันการศึกษา จำนวน 3 องค์กร ได้แก่
- ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (ทปอ.มรภ.)
- ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.)
- สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.)
- กลุ่ม 2 มหาวิทยาลัยส่วนกลาง จำนวน 9 องค์กร ได้แก่
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
- มหาวิทยาลัยศิลปากร
- มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา
- มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
- กลุ่ม 3 มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค จำนวน 8 องค์กร ได้แก่
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- มหาวิทยาลัยบูรพา
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- สถาบันวิทยสิริเมธี
- มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
- กลุ่ม 1 เครือข่ายสถาบันการศึกษา จำนวน 3 องค์กร ได้แก่
- สมาคมธุรกิจ 11 องค์กร แบ่งเป็น
- กลุ่ม 1 สมาคมการค้า จำนวน 8 องค์กร ได้แก่
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
- สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย
- สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม
- สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย
- สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย
- สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย
- สมาคมฟินเทคประเทศไทย
- กลุ่ม 2 สมาคมส่งเสริมนวัตกรรม จำนวน 3 องค์กร ได้แก่
- สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
- สมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย
- สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมและการประดิษฐ์ไทย
- กลุ่ม 1 สมาคมการค้า จำนวน 8 องค์กร ได้แก่
โดยทั้ง 73 องค์กร จะร่วมมือกันใน 3 ด้าน ได้แก่
- เป็นผู้แทนประเทศในการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้านนวัตกรรม ผ่านกิจกรรมความร่วมมือกันในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การลงนาม ความร่วมมือ การจัดสัมมนานวัตกรรม การจัดแสดงผลงานนวัตกรรม
- สร้างการรับรู้และความตื่นตัวด้านนวัตกรรมขึ้นในประเทศไทย ผ่านการสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างให้เกิดความตื่นตัวและสนใจนำนวัตกรรมฝีมือคนไทยมาใช้หรือต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
- แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความชำนาญระหว่างกัน ผ่านความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรม การพัฒนาบุคลากร การแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ด้านนวัตกรรมทั้งแนวกว้างและแนวลึกระหว่างหน่วยงานในเครือข่ายนวัตกรรมประเทศไทย
ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า การขับเคลื่อนประเทศให้เป็นประเทศพัฒนาแล้ว จำเป็นต้องอาศัยความรู้และความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนากำลังคนที่เหมาะสม การกำหนดทิศทางและนโยบายการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่ชัดเจน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และยืดหยุ่นในการปฏิบัติ โดยหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติได้ระบุวาระการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-driven Economy) โดยการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมที่เอื้อต่อการสร้างและแปลงนวัตกรรมสู่มูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม ไม่ได้จำกัดอยู่ในส่วนกลาง แต่ยังขยายโอกาสการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไปยังภูมิภาค นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานด้านนวัตกรรมเพื่อสังคมอีกด้วย
“สำหรับแพลตฟอร์ม นวัตกรรมประเทศไทย ที่ NIA ได้ริเริ่มขึ้นนี้ เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการพลิกฟื้นประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤต และเปรียบเสมือนเครื่องมือในการ สร้างมุมมองใหม่ของประเทศไทยที่แตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 ที่มุ่งนำนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม และกิจกรรมการสร้าง เครือข่ายนวัตกรรมประเทศไทย ในครั้งนี้ ถือเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้การกำหนดนโยบาย การดำเนินงาน และการสื่อสารด้านนวัตกรรมไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็น ชาติแห่งนวัตกรรม (Innovation Nation)” ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก กล่าว
ผู้สนใจดูนวัตกรรมไทยที่น่าภาคภูมิใจได้ที่ www.innovationthailand.org หรือ Facebook Page : Innovation.THA และสามารถดูข้อมูลความรู้ การให้บริการนวัตกรรมจากหน่วยงานต่าง ๆ ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างและใช้ประโยชน์นวัตกรรมอย่างแพร่หลาย ได้ที่ data.nia.or.th