๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พระบรมราชินี ประกอบกับวันที่ 5 มิถุนายน 2566 เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) ในนามกลุ่มธุรกิจในเครือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย บริษัท คอสมอส บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรม “รักษ์โลก” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ ถวายความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศล ในการจัดกิจกรรมปล่อยปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นดูแลระบบนิเวศทางธรรมชาติในชุมชน เพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้คงอยู่อย่างถาวรสืบไป โดยการปล่อยพันธุ์ปลา อาทิ ปลาตะเพียนขาว ปลากระแหทอง ปลาตะโกก ปลาสร้อยขาว ซึ่งเป็นปลาพื้นเมืองของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมจำนวน 50,000 ตัว ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมปรับสภาพน้ำด้วยการโยน EM Ball เพื่อบำบัดน้ำในลำคลอง แหล่งน้ำธรรมชาติให้กลับสู่สภาพปกติและปลูกต้นราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ วัดลาดทราย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายพิเชษ เชษฐาพงศาพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน บริษัท คอสมอส บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด (กลุ่มธุรกิจในเครือไทยเบฟ) ผู้นำในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมแก่ชุมชนรอบบริเวณโรงงาน ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมเพื่อชุมชนว่า
“ วัตถุประสงค์หลักในการจัดกิจกรรมในวันนี้ สิ่งสำคัญคือเพื่อร่วมรณรงค์และส่งเสริมการใช้หลักธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และโรงงานอุตสาหกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ อีกทั้งการทำให้ชุมชน และเยาวชนที่อยู่รายรอบได้เรียนรู้ในด้านความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ ได้เรียนรู้ในเรื่องสภาพแวดล้อมของชุมชน โรงงานมีส่วนร่วมอย่างไรให้กับชุมชนที่สามารถพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้ กลยุทธ์หลักขององค์กรคือ ความยั่งยืน สิ่งสำคัญคือการที่เราจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่องในทุกปีเพื่อเพิ่มความสามารถในทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนให้สามารถที่จะนำไปใช้ในการดำรงชีพ ไปใช้ประกอบธุรกิจ การค้าได้ด้วย ในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นการดูแลระบบนิเวศ แหล่งน้ำธรรมชาติซึ่งทางบริษัทได้ดูแลทั้งต้นน้ำและปลายน้ำซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ชุมชนสามารถที่จะดำรงชีพอยู่ได้ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมประจำชุมชน ในเรื่องการปลูกต้นไม้ก็เป็นเรื่องความสำคัญในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เราได้มีการสำรวจชุมชนว่าสภาพแวดล้อมของชุมชนเป็นอย่างไร โดยเฉพาะระบบทางภูมิศาสตร์ ระบบการระบายน้ำ เหมาะสมในการปลูกต้นไม้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชุมชน การทำกิจกรรมโยน EM ball ลงแม่น้ำเพราะเราต้องการให้ชุมชนได้มีคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ดี สามารถนำมาอุปโภค บริโภคได้ครับ” นายพิเชษ กล่าวจุดยืนขององค์กร
ในงานได้รับเกียรติจาก นายธีรเมธ เทพวิชัยศิลปกุล นายอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมเป็นประธานในการเปิดงาน ทั้งนี้นายอำเภอวังน้อยได้แสดงทัศนคติต่องานเพื่อชุมชนว่า
“ผมว่าเป็นกิจกรรมที่ดีนะครับ ถือว่าตอบโจทย์ทุกฝ่าย เช่นการปล่อยพันธ์ปลาเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ในแหล่งน้ำ ชุมชนสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวต่อไปได้ และเป็นการเพิ่มจำนวนพันธ์ปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งตรงนี้เราต้องขอขอบคุณ ประมงอำเภอ ที่ได้สนับสนุนพันธุ์ปลาจำนวน 50,000 ตัวเพื่อกิจกรรมนี้ ในด้านกิจกรรมปลูกต้นไม้ยืนต้น
หลายฝ่ายตระหนักว่าพื้นที่สีเขียวอันเป็นปอดของเมืองหลวงได้ลดน้อยไปทุกขณะ กิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้คนตื่นตัวหันมาดูแลรักษาต้นไม้เพื่อสร้างความร่มรื่นให้กับพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเก่า และอากาศที่เราสูดอยู่จะบริสุทธิ์และร่มเย็นครับ”
เมื่อมีชุมชนก็ต้องมีโรงเรียนคู่กัน คณะครูและนักเรียนโรงเรียนวัดลาดทราย จำนวน 80 คนได้เข้าร่วมกิจกรรมปล่อยปลาลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ โยน Em Ball และปลูกต้นไม้ ในวันดังกล่าว วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน คุณครูนุชนาฎ ไตรพรหม ในฐานะรองผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดลาดทราย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้บอกความรู้สึกที่โรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมว่า
“จากที่ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ มีความรู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีที่โรงเรียนมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อที่จะได้สร้างความตระหนักแก่นักเรียนว่าแหล่งน้ำธรรมชาติที่อยู่ในหมู่บ้านเรามีคุณค่าอย่างไร และเด็กได้เรียนรู้ว่าการรักษาสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร เช่น โดยปกติแล้วธรรมชาติของเด็กจะมีการตกปลา แต่เด็กไม่รู้ว่าการที่จับปลาแต่ไม่มีการปล่อยปลาจะทำให้สมดุลของธรรมชาติลดน้อยลง ถ้าวันนี้มีกิจกรรมการปล่อยปลา ให้เด็กได้รู้ว่าเมื่อมีการจับก็ต้องมีการปล่อย ปล่อยเพื่อให้เขาสร้างขยายจำนวนและมีการช่วยทำความสะอาดโดยการโยนลูก Em Ball เพื่อให้แหล่งน้ำมีความใสมากยิ่งขึ้น จึงมีความรู้สึกว่าเหมือนเป็นโอกาสให้เด็กนักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เด็กได้เกิดการเรียนรู้ เพราะปกติแล้วเด็กอาจจะไม่ได้ทำกิจกรรมแบบนี้กับชุมชน เมื่อพาเขามามีส่วนร่วมกับชุมชนทำให้เขาได้เรียนรู้ที่จะรักษาและดูแลธรรมชาติบ้านของพวกเขาได้มากขึ้น โดยปกติแล้วไทยเบฟได้มีส่วนร่วมในการทำ CSR กับโรงเรียน มีส่วนช่วยในการดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนสอนการปลูกผักในครัวเรือน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่พานักเรียนออกจากห้องเรียนมาเรียนรู้กับชุมชนว่าไทยเบฟได้มาช่วยเหลือชุมชนอย่างไร และทำให้เด็กได้รับรู้ว่า ไทยเบฟรักษ์โลก รักสภาพแวดล้อม ที่ผ่านมาโรงเรียนได้รับเครื่องทำน้ำดื่มสะอาดโดยที่ไทยเบฟได้มีการจัดหามาให้ ทำให้นักเรียนได้มีน้ำสะอาดดื่มและบริโภค โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้มีความชำนาญมาดูแลอย่างต่อเนื่องในเรื่องของเครื่องกรองน้ำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำให้นักเรียนมั่นใจว่าเรามีน้ำสะอาดดื่มค่ะ” แม่พิมพ์ของชาติกล่าว
ไทยเบฟมีเจตนารมย์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน โดยจะให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องนำมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสภาพแวดล้อมของชุมชนที่อยู่รอบบริเวณโรงงาน เพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างเอกชน ชุมชน และหน่วยงานราชการในภูมิภาค ดังเช่นกิจกรรม “รักษ์โลก” ในครั้งนี้ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนาที่จะเป็นประโยชน์ในการสร้างความเข้มแข็ง เกิดความสามัคคี อีกทั้งได้ยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข….