เทคโนโลยีในอดีตนั้นก้าวไปเหมือนรถไฟบรรทุกสินค้า แต่ปัจจุบันมันวิ่งเร็วเหมือนกับรถไฟหัวกระสุนที่ความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง เปรียบเหมือนกับว่า แค่กระพริบตาก็เหมือนสมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุดไป
ด้วยเทคโนโลยีที่มาใหม่อย่างรวดเร็ว ข้อมูลการใช้งานที่ถูกแบบเก่า อาจจะไม่สามารถใช้ได้ในยุคปัจจุบัน และบางอย่างอาจจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และนี่จะแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีในตำนานที่คุณไม่ควรจะเชื่ออีกต่อไป
1.ไม่ควรชาร์ตแบตอุปกรณ์แบบข้ามคืน
หลายคนกลัวที่จะชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือแท็บเล็ตข้ามคืน เพราะคิดว่าจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว ซึ่งเจอคำถามแบบนี้ในกลุ่มผู้ที่ใช้โน๊ตบุ๊คแบบ 24 ชั่วโมงเหมือนกันว่า แบตจะเสื่อมหรือไม่ ซึ่งเลิกกังวลได้แล้ว เพราะเทคโนโลยีแบบใหม่ จะหยุดการชาร์ตทันทีเมื่อแบตเตอรี่คุณเต็ม ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อแบตเตอรี่คุณแน่นอน
2.อย่าใช้อุปกรณ์ชาร์ตที่ไม่ใช่ยี่ห้อเดียวกับอุปกรณ์
จริงๆ การใช้อุปกรณ์ชาร์ตยี่ห้ออื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นของ แอปเปิ้ลหรือแอนดรอยด์ ที่สามารถเข้ากันได้อย่าง Belkin หรือ Monoprice ก็สามารถใช้ได้ และมีราคาถูกกว่าด้วย ซึ่งอุปกรณ์ชาร์ตทั่วไปจะไม่ใช่แบรนด์เนมอย่าง Apple Samsung HTC หรืออื่นๆ แต่อุปกรณ์ชาร์ตพวกนี้ก็มีการรับประกันการเสียหายของอุปกรณ์จากการระเบิดหรือไฟใหม้ ฉะนั้น อุปกรณ์ชาร์ตแบบทั่วไปก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน
3.ต้องรอให้แบตเป็นศูนย์ก่อนถึงจะชาร์ตได้
แบตเตอรี่ลิเทียม ไออนน ไม่จำเป็นต้องรอให้หมด ก็ชาร์ตได้เลย กลับกัน ถ้ารอให้แบตเตอรรี่เป็นศูนย์จะทำให้แบตเกิดการเสื่อมได้อย่างรวดเร็ว
4.ทำการปิดคอมพิวเตอร์ในเวลากลางคืนเสมอ
นี่เป็นความเชื่อแปลกๆ ที่เชื่อกันมายาวนานมาก ซึ่งเชื่อว่า การปิดคอมพิวเตอร์ในเวลากลางคืน จะทำให้วันต่อสามารถ ฮาร์ดไดรฟ์สามารถบูตได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องแปลกและบางคนยังยึดมั่นในความเชื่อนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันชิ้นส่วนใดๆของคอมพิวเตอร์ถูกทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าถึงแม้คุณจะปิดตอนไหน หรือทำอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องปิดเฉพาะเวลากลางคืนอีกต่อไป
5.จำเป็นต้องจัดระเบียบฮาร์ดไดรฟ์ของคุณอยู่ตลอดเวลา
นี่เป็นความเชื่ออดีตที่เป็นเรื่องจริง แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง วิธีนี้จะใช้เป็นบางครั้งที่คุณจะต้องเรียกใช้ ยูทิลิตี้ด้วยตนเองเพื่อจัดระเบียบระบบของคุณ ซึ่งตอนนี้ฟังก์ชั่นที่มีใน Windows หรือ ระบบปฎิบัติการอื่นๆ ก็มีการจัดแบบไฟล์แบบอัติโนมัติอยู่แล้ว ทำให้คุณไม่ต้องจัดการอะไรทั้งนั้น
6.ลบไฟล์แล้วคือจบ
หวังว่าคุณคงรู้ว่า เมื่อคุณลยไฟล์ใดๆออกจากคอมพิวเตอร์ของคุณ มันไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่มันยังคงอยู่ในฮาร์ดไดรฟ์และสามารถกู้คืนกลับมาได้ ซึ่งนั่นคือปัญหา ถ้าคุณขาย หรือให้คอมพิวเตอร์ของคุณกับคนอื่นไป ซึ่งเขาสามารถดึงข้อมูลที่คุณลบทิ้งแล้วกลับมาได้
ในกรณีส่วนใหญ่นั้น ไม่มีใครมักจะให้ความสำคัญหากับข้อมูลที่ถูกลบทิ้งไปมากนัก แต่ถ้าคุณกังวลจริงๆ คุณสามารถ บล๊อคฮาร์ดไดรฟ์ของคอมพิวเตอร์คุณก่อนที่จะขายหรือให้คนอื่นไป
7.การค้นหาข้อมูลไม่ได้มีความเป็นส่วนตัวทั้งหมด
ทุกๆบราวเซอร์จะมีโหมดความเป็นส่วนตัว เมื่อเปิดขึ้น บราวเซอร์จะไม่บันทึกข้อมูลการเข้าเว็บของคุณ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิด ในความเป็นจริงแล้วถึงคุณจะเปิดโหมดความเป็นส่วนตัว แต่บราวเซอร์ก็ยังเก็บข้อมูลของคุณอยู่ ไม่ว่าคุณจะเข้าเว็บไซต์อะไรก็ตาม ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกเก็บเซิฟเวอร์ของบราวเซอร์นั้นๆ นี่ถึงเรียกว่าไม่มีความเป็นส่วนตัวจริงๆจากการคนหาข้อมูลใดๆ