บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ยกระดับจากบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ขึ้นไปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พร้อมดันบริษัทลูก อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์MAI คาดสร้างรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท พร้อร่วมมือพันธมิตรลุยธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ 2 แห่ง รวมมูลค่า 1,200 ล้านบาท
สมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai มาตั้งแต่ปี 2547 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 400 ล้านบาท เพิ่มมาเป็น 6,762.22 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกปีนี้ โดยจุดเปลี่ยนดังกล่าวมาจาก บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ซึ่งเป็นบริษัทลูก มีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างรวดเร็ว จากทุนเริ่มต้น 80 ล้านบาท เป็นเงิน 300 ล้านบาท และมีกำไรทั้งที่ก่อตั้งมาได้เพียง 2 ปี การเติบโตของบริษัทลูกจึงทำให้เราปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 2,800 ล้านบาท เพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรเพิ่มถึง 20-25%
ส่งผลให้บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวเนิเคชั่น ได้ยกระดับขึ้นไปเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หรือ SET พร้อมด้วยบริษัทลูก บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ซึ่งขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว โดยดีเดย์เริ่มซื้อขายในวันที่ 19 สิงหาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่อีก 2 แห่ง ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัทแอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT มูลค่าการลงทุนแห่งละ 600 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในกลางปี 2559 ขณะที่แห่งที่ 2 อยู่ระหว่างหาสถานที่ในการก่อสร้าง เชื่อว่าในปี 2558 ผลการดำเนินงานจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยรายได้รวมอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท จากปี 2557 ที่มีรายได้รวมจะอยู่ที่ 2,694.76 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 300 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 280 ล้านบาท
โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับเลือกจากนิตยสารฟอร์บส์เอเซียให้ติดอันดับ 200 บริษัท ที่มีการเติบโตสูงสุดในเอเซีย ASIA 200 Best Under A Billion (นับบริษัทที่มูลค่าสินทรัพย์ต่ำกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) สะท้อนถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงโครงสร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเติบโต และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนในอัตราที่สูง เป็นที่ยอมรับในระดับสากล