ดีแทคเล็งเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยพลักดันให้สตาร์ทอัพอีโคซีสเต็ม ของไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคสตาร์ทอัพคนไทย สามารถสร้างธุรกิจที่เติบโตได้ในระดับภูมิภาค สามารถแข่งขันเหนือผู้ประการจากประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อต่อยอดสู่ระดับประเทศไปสู่ระดับสากลในอนาคตอันใกล้นี้

demo_day_01

 

รายชื่อ 6 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายและผลงาน dtac Accelerate batch 3
1. Tech Farm อุปกรณ์เล่นน้ำ(Len-Nam) เป็นเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพน้ำสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ที่ต้องการลดความเสี่ยงของปัญหาต่างๆที่เกิดจากน้ำที่ไม่เหมาะสมต่อสัตว์น้ำที่เลี้ยงและเพิ่มคุณภาพของผลผลิตมากขึ้น เป็น all in one device และสามารถดูคุณภาพน้ำได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีฟังก์ชั่นการแจ้งเตือนเมื่อคุณภาพน้ำมีแนวโน้มจะอันตรายต่อสัตว์น้ำของเกษตรกรอีกด้วย

2. Skootar บริการเรียกแมสเซ็นเจอร์ ส่งเอกสาร วางบิล เก็บเช็ค ผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ และ แอพพลิเคชั่นมือถือ ทั้ง Android และ iOS สำหรับ บริษัท SME, ร้านอาหาร, และ ธุรกิจ E-commerce สะดวก รวดเร็ว ประหยัด สามารถเรียกได้จากทุกๆ ที่ในกรุงเทพฯ มีระบบติดตามความคืบหน้าและประเมินความพึงพอใจในพนักงานในทุกๆ ชิ้นงาน

3. Super RFQ คือระบบออนไลน์ที่ช่วยให้การจัดซื้อวัสดุก่อสร้างง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย Super RFQ ช่วยให้ “ผู้รับเหมาก่อสร้าง” หาราคาวัสดุได้ง่ายขึ้นผ่านการออกใบ RFQ (Request for quotation) หรือ “ใบขอราคา” ผ่านระบบ โดยที่ระบบจะทำการจับคู่คำสำคัญในใบขอราคานั้นๆเช่น ประเภทของวัสดุที่ต้องการซื้อ เข้ากับผู้ค้าวัสดุในระบบ และแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อพบผู้ค้าวัสดุที่ต้องการเสนอราคา ซึ่งจะทดแทนกับวิธีปัจจุบันที่ผู้รับเหมาต้องออกใบขอราคา ค้นหาร้านค้า และติดต่อขอราคาจากผู้ค้าวัสดุแต่ละรายด้วยตนเอง

4. Zmyhome เป็นเว็บไซต์ขายและให้เช่าที่อยู่อาศัยที่ผู้ลงประกาศเป็นเจ้าของทรัพย์สินเท่านั้น (ตัวแทนไม่สามารถลงประกาศได้) เพื่อให้การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องมากขึ้น รวมทั้งทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้ราคาที่ดีขึ้นเนื่องจากไม่มีค่านายหน้า นอกจากนี้ ZmyHome ยังมีเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ซื้อผู้ขายเห็นภาพรวมของตลาดและลดความเสี่ยงในการซื้อขายหรือลงทุน

5. GIZTIX เป็นตลาดซื้อขายบริการขนส่งและโลจิสติกส์ออนไลน์ พร้อมทั้งมีบริการครบวงจรสำหรับการขนส่ง เช่น รถบรรทุก เฟรท และ พิธีการศุลกากร ทั่วโลก ช่วยให้ผู้ที่ต้องการขนส่งสินค้า (Shipper) สามารถเช็คราคาได้ทันทีพร้อมทั้งสามารถเปรียบเทียบราคาและชำระเงิน ออนไลน์ และช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่ง (Transporter) สามารถมีช่องทางขายออนไลน์เพื่อให้ได้ลูกค้ามากขึ้น พร้อมยังมีโปรแกรมช่วยขายให้ใช้ฟรี!

6. Take Me Tour เทคมีทัวร์เป็นแพลตฟอร์มตลาดกลางออนไลน์ สำหรับทัวร์หนึ่งวัน( One day tour) ซึ่งเป็นทัวร์ที่สร้างขึ้นโดยคนในท้องถิ่น หรือเรียกได้ว่าเราเป็น Airbnb สำหรับ One day tour ซึ่งเราเป็น marketplace สำหรับ One day tour ในประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุด
ความสำเร็จอย่างสวยงามในปีที่ผ่านมาของสตาร์ทอัพทั้ง 5 ทีม
• เคลมดิ (Claim di) ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ 14 บริษัทประกันภัยชั้นนำในประเทศไทย ถือเป็นกว่า 50% ของตลาด และเซ็น MOU ขยายธุรกิจสู่ประเทศมาเลเซีย และโรมาเนีย และได้รับเงินทุน seed round จากกลุ่ม 500.co และกำลังจะมีข่าวดีในการร่วมลงทุนกับ VC ระดับโลกในรอบ SeriesA เร็วๆนี้
• ไดรฟ์บอท (Drivebot) ประสบความสำเร็จในการระดมทุนจากเว็บไซด์ cloud funding อย่าง Indiegogo.com ภายในเวลาเพียง 6 วันและได้รับเงินทุนทั้งสิ้น 3 เท่าของเป้าที่ตั้งไว้
• พิกจิโปะ (Piggipo) ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก angel investor และเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับธนาคารกสิกรไทยและธนาคาร MAYBANK ประเทศมาเลเซีย
• ฟาสต์อินโฟล (Fast in flow) สามารถสร้างรายได้ได้จริงและเป็นพันธมิตรกับบริษัทเอเจนซี่ชื่อดังในเมืองไทยหลายบริษัทและนำไปใช้ได้จริงกับหลายๆแบรนด์ดังในประเทศไทย
• สตอรี่ล็อค (Storylog) สามารถสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนในประเทศอยู่หลายๆเจ้าและอาจจะมีข่าวดีเร็วๆนี้

ผลงานของดีแทค แอ็คเซเรเลท ใน 3 ปีที่ผ่านมา คือ
• ให้เงินลงทุนเริ่มต้นแต่ละทีม ตั้งแต่ 5 แสน – 1.5 ล้านบาท ด้วยมูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท ในทั้งหมด 6 ทีม และเงินสนับสนุนในการทำตลาดมากกว่า 20 ล้านบาทในปีนี้
• จัดบูธแคมป์ทุกปี ระยะเวลานาน 4 เดือน จำนวน 30 เวิร์คช้อป จากผู้เชี่ยวชาญในวงการสตาร์ทอัพและกูรูที่มีชื่อเสียงระดับโลก 40 คน บินตรงจากซิลิคอน วัลลีย์ จากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาอบรมแบบรายบุคคลในแต่ละทีม และร่วมพิชชิ่ง ช่วยในการแนะนำสร้างประสบการณ์ให้คนใช้งานมากขึ้น และช่วยให้คำปรึกษาทำแผนธุรกิจ business model และการทำตลาด
• สร้างสรรค์ Co-working space ให้สตาร์ทอัพทีมได้ทำงานสะดวกสบายในใจกลางย่านธุรกิจ
• ได้รับเครดิตจาก Amazon Web Service มูลค่า 30,000 บาท พร้อมการฝึกอบรมและทางทีมงานวิศวกรจาก Amazon
• ได้รับที่ปรึกษา (mentor) แบบ 1:1 จากผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จ 5 ท่าน
• ได้รับการสนับสนุนและให้คำปรึกษาจากฝ่ายกฎหมายในการก่อตั้งบริษัท และเชื่อมต่อระหว่างVCบริษัทที่ร่วมลงทุนทั่วโลก
• ได้โอกาสในการทำตลาดไปสู่กลุ่มลูกค้าดีแทค รวมถึงลูกค้าในเทเลนอร์กรุ๊ปทั้ง 200 ล้านคนซึ่งมีอยู่ 13 ประเทศทั่วโลก
• โอกาสในการ Pitch กับตัวแทนจาก Venture Capitals ชั้นนำทั้งในระดับเอเชีย และระดับภูมิภาค ที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการ และมีความสนใจการลงทุนในประเทศไทย อาทิ 500TukTuk กองทุนตั้งขึ้นเพื่อสตาร์ทอัพไทยกองทุนแรก, KK Found และ CyberAgent จากญี่ปุ่น, Golden Gate Venture จากสิงค์โปร์ และอีกมากมาย

• ผู้ชนะ 2 ทีมจะได้รับโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทย ในการเข้าร่วมงาน Telenor Digital Winner 2015 ที่ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โอกาสในการสร้าง business partnership กับ business units ต่างๆ ในเทเลนอร์กรุ๊ปและพบปะสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในซิลิคอน วัลลีย์