พีเอ็นพี ผนึก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ จับมือรัฐบาลเกาหลีผุดไอเดียจัดงาน Startup: Let’s Explore the ASEAN ขยายโอกาสการลงทุนสตาร์ทอัพไทย-เกาหลี คาดเม็ดเงินลงทุนสะพัดกว่า 100 ล้านบาท
บริษัท พีเอ็นพี แมนเนจเม้นท์ จำกัด (PNP) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาการค้าการลงทุนในด้านเทคโนโลยีสัญชาติไทย-เกาหลี และมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลของประเทศเกาหลี เร่งเครื่องจับมือสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) จัดงาน Startup by PNP: Let’s Explore the ASEAN
โดยเป็นงานเพื่อขยายโอกาสให้กับกลุ่มนักลงทุนและสตาร์ทอัพระหว่างไทยและเกาหลีได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์แชร์แนวคิดในการดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพที่ประสบผลสำเร็จและสร้างเน็ตเวิร์กกิ้งให้ระหว่าง 2 ประเทศ รวมถึงเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เจรจาธุรกิจเป็นพันธมิตร
พีรพงษ์ ศรีอินทราวานิชกรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอ็นพี แมนเนจเม้นท์ จำกัดเปิดเผยว่า “ในฐานะผู้ก่อตั้ง PNP ซึ่งมีประสบการณ์ในการร่วมลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพ เล็งเห็นว่าประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกประเทศที่มีศักยภาพในการส่งเสริมสตาร์ทอัพได้อย่างน่าสนใจ
โดยเกาหลีเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมในการนำพาประเทศ มีงบประมาณในการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่ค่อนข้างสูงด้วยสัดส่วน 3.74% ของ GDP ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ 0.37% ของ GDP
สัดส่วนของการจดสิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาของเกาหลีในด้านนวัตกรรมสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก, มีการวางกรอบนโยบายจากภาครัฐ ตั้งแต่การสนับสนุนการลงทุนในสตาร์ทอัพและการเข้าถึงเงินทุน มีการบ่มเพาะไอเดียนวัตกรรมตั้งแต่ในระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงรัฐบาลเกาหลียังร่วมสนับสนุนเงินในลักษณะ Matching Fund ผ่านโครงการ Tech Incubator Program for Startup (TIPS) อีกด้วย
จึงถือเป็นโอกาสอันดีในการสร้างคอนเนคชั่นระหว่างสตาร์ทไทยและเกาหลีในงาน Startup by PNP: Let’s Explore the ASEANซึ่งถือเป็นอีกกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนสตาร์ทอัพไทยก้าวสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น
โดยงานนี้ถือเป็นโครงการนำร่องระหว่างไทยและเกาหลี โดย PNP ได้รับการร่วมมือจากหน่วยงาน Korea Business Angels Association ซึ่งมี Acceleratorจำนวน 29 บริษัท และ Startup อีก 250 บริษัทที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีรวมถึงมีนักลงทุน VC จากภาคเอกชนที่เข้าร่วม อย่าง Coolidge Corner, K2 Venture Capital และTrueincube และสตาร์ทอัพกว่า 15 ทีม อาทิ Buzzebees, Taxi Beam และ Fixzy Auto เป็นต้น โดยงานนี้ สามารถจับคู่ทางธุรกิจได้ประมาณ 5 คู่ ด้วยเม็ดเงินร่วมทุน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท