ปัจจุบันองค์กรธุรกิจในทุกตลาดต่างเร่งลงทุนในเทคโนโลยี IoT โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รายงานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ของโครงการต้องหยุดชะงักที่ขั้นตอนของการทดสอบความเป็นไปได้ (proof-of-concept – POC)
ในปัจจุบัน บริษัทต่างๆ ยังคงประสบปัญหาท้าทายที่สำคัญ เช่น ความจำเป็นในการเพิ่มความยืดหยุ่น การปรับปรุงความปลอดภัย และความสามารถในการรองรับกรณีการใช้งานใหม่ๆ ซึ่งเพื่อให้องค์กรธุรกิจสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินการปรับใช้เทคโนโลยี IoT บริษัท ซิสโก้ หนึ่งในผู้นำทางเทคโนโลยีจึงได้ออกแฟลตฟอร์มใหม่ออกมา
โดยแฟลตฟอร์มดังกล่าวมีชื่อว่า “Cisco Jasper Control Center” ซึ่งได้มีองค์กรธุรกิจได้ทดลองใช้แล้วกว่า เป็น 11,000 ราย ซึ่งขยายตัวเพิ่มจากเดิมที่มีผู้ใช้เพียง 3,500 ราย โดยการเติบโตเกิดขึ้นเพียงแค่ในช่วงปีที่ผ่านมาเท่านั้น และเพื่อสนอง่ต่อแนวโน้มดังกล่าวทาง ซิสโก้ จึงได้พัฒนา ซิสโก้ แจสเปอร์ โดยเพิ่มความสามารถให้มีความยืดหยุ่น โดยพัฒนาแพลตฟอร์มแบบหลายระดับชั้น
ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ มีทางเลือกที่หลากหลายในการตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจง ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใดของการปรับใช้เทคโนโลยีอินเทอรเน็ตในทุกสิ่ง หรือที่เรียกว่า “ไอโอที” นั่นเอง โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้ยังจับคู่กับชุดบริการระดับพรีเมียมที่รองรับความต้องการใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้จากไอโอที และการรักษาความปลอดภัย
จาฮันกีร์ โมฮัมเหม็ด ผู้จัดการทั่วไปฝ่าย IoT ของซิสโก้ เปิดเผยว่า Control Center เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยองค์กรธุรกิจสามารถ จัดการการเชื่อมต่อ ไอโอที ของเราออกสู่ตลาดเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว และนับจากนั้นเป็นต้นมา Control Center ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มไอโอที ที่ใหญ่ที่สุด
โดยปัจจุบันทำหน้าที่จัดการอุปกรณ์กว่า 43 ล้านเครื่อง และมีการเพิ่มเติมอุปกรณ์ใหม่กว่า 1.5 ล้านเครื่องในแต่ละเดือน สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการสร้างความสำเร็จด้านไอโอที ให้แก่ลูกค้ากว่า 11,000 รายก็คือ บริษัทแต่ละแห่งมีความต้องการที่แตกต่างกันและอยู่ในขั้นตอนที่ต่างกันสำหรับการพัฒนาไอโอที
ด้วยเหตุนี้เราจึงเปิดตัวพัฒนาการที่สำคัญที่สุดของแพลตฟอร์ม Control Center ไอโอที ด้วยการจัดหาโมเดลที่ยืดหยุ่นและบริการระดับพรีเมียมที่จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ขั้นตอนและด้วย ซิสโก้ แจสเปอร์ เวอร์ชั่นใหม่ (7.0) ลูกค้าและผู้ให้บริการที่เป็นพันธมิตรจะสามารถเลือกและปรับแต่งความสามารถและบริการต่างๆ ที่เหมาะสมตามการเติบโตของธุรกิจ
แพลตฟอร์มเพิ่มความยืดหยุ่น เร่งความสำเร็จให้ธุรกิจ
ความสามารถขั้นสูง (Advanced Capabilities): ระดับชั้นใหม่ของแพลตฟอร์ม นั่นคือ Control Center Advanced ช่วยให้ลูกค้าดำเนินการติดตั้งในระดับขั้นสูง ซึ่งต้องการความสามารถที่เหนือกว่า เช่น โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยที่ก้าวล้ำ ระบบงานอัตโนมัติ และระบบวิเคราะห์ข้อมูล
บริการพรีเมียม (Premium Services): การเปิดตัวบริการพรีเมียม 2 บริการแรกสุด รองรับการใช้งานร่วมกับ Control Center ช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาสำหรับความต้องการด้านธุรกิจไอโอที ที่ในอดีตไม่สามารถตอบสนองได้
โดยบริการ Threat Protection & Smart Security (TPSS) จัดหาโซลูชั่นที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ IoT เพื่อป้องกันมัลแวร์และภัยคุกคามทางไซเบอร์อื่นๆ และสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Cisco Umbrella
ส่วนบริการที่สองคือ Traffic Segmentationเป็นการจัดหาโซลูชั่นใหม่เพื่อรองรับรูปแบบการสร้างรายได้ประเภทต่างๆ ผู้ให้บริการของซิสโก้ แจสเปอร์ จะสามารถปรับแต่งบริการพรีเมียมให้เหมาะกับความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า
การสนับสนุน LPWAN: Control Center 7.0 ขยายขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม รวมถึงขอบเขตการเข้าถึงทั่วโลกของแพลตฟอร์ม ด้วยการสนับสนุนสำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์ โดยครอบคลุมอุปกรณ์พลังงานต่ำ ผ่านการสนับสนุนสำหรับเทคโนโลยี LPWAN ที่หลากหลาย รวมไปถึง NB-IoT และ LTE-M
พัฒนาการก้าวถัดไปของ IoT คือความสามารถของแพลตฟอร์ม
ด้าน คริส เพนโรส ประธานฝ่ายโซลูชั่นไอโอที ของ AT&T ซึ่งเป็นผู้ให้บริการของซิสโก้ แจสเปอร์ กล่าวว่า เราทำงานร่วมกับบริษัททุกขนาดในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก AT&T Control Center – Advanced พร้อมบริการพรีเมียมเพิ่มเติม คือพัฒนาการก้าวถัดไปในการจัดหาความสามารถของแพลตฟอร์มและโซลูชั่นที่แตกต่างสำหรับลูกค้าไอโอที ของเรา
การปรับปรุงในเรื่องความปลอดภัย ระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบงานอัตโนมัติช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถจัดการโซลูชั่นไอโอที ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ด้วยเหตุนี้ Control Center 7.0 จึงช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายสำคัญที่สุดที่บริษัทต้องเผชิญในปัจจุบันด้วย
ระบบรักษาความปลอดภัยแบบหลายเลเยอร์ (Multi-layer Security): ด้วยการขยายขีดความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยของ Control Center ผู้ใช้จะสามารถควบคุมการรักษาความปลอดภัยได้หลายระดับ รวมถึงกลุ่มผู้ใช้แบบปิด การตรวจสอบยืนยันสองขั้นตอน การจัดทำรายการที่ปลอดภัย และอื่นๆ เพื่อระบุและแก้ไขปัญหาที่รู้จัก
การทำงานร่วมกัน (Collaboration): การผนวกรวมกับ Cisco Spark ช่วยให้ผู้ใช้ประสานงานร่วมกันอย่างง่ายดายเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ จึงลดเวลาที่ต้องใช้ในการแก้ปัญหาและจัดการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม
ระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ปรับปรุงดีขึ้น (Enhanced Analytics): รายงานใหม่ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มพฤติกรรมและการใช้งานอุปกรณ์ในอดีตช่วยให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่าย และความปลอดภัย
การสนับสนุนสำหรับอุปกรณ์พลังงานต่ำ (Support for Low Power Devices): Control Center 7.0 เป็นแพลตฟอร์มไอโอที ที่วางจำหน่ายเชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่สนับสนุนการจัดการอุปกรณ์ IoT บนเครือข่ายเซลลูลาร์, NB-IoT และ LTE-M จึงรองรับกรณีการใช้งานที่หลากหลาย
โรวาน ทรอลโลป รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายไอโอที และแอพพลิเคชั่นของซิสโก้ กล่าวเสริมว่า Control Center 7.0 เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำของซิสโก้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับโซลูชั่นไอโอที ทั้งยังสามารถผนวกรวม Connection Management, Data Delivery และ Fog Computing
สำหรับโซลูชั่นแบบครบวงจร นับเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยี Cisco DNA ซึ่งนำเสนอเครือข่ายรุ่นอนาคตที่ยกระดับความปลอดภัย การวิเคราะห์ข้อมูล และระบบงานอัตโนมัติ เพื่อรองรับประสบการณ์แปลกใหม่ในส่วนของไอโอที , คลาวด์ และโมบายล์ ดังนั้นลูกค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมจึงสามารถจัดการไอโอที ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่เครือข่ายจนถึงระบบคลาวด์