BMW ได้ทำการวิจัยและส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อรองรับ Industry 4.0 ทั้งการพัฒนาในองค์กรคือระบบ Dual System และการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน 

โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์การทำงานของเครื่องจักรให้สอดคล้องและสนับสนุนกับศักยภาพของมนุษย์ในโรงงานอุตสาหรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านการผลิต การใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบ และการประหยัดพลังงานอย่างสูงสุด รวมทั้งตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลในการผลิตสินค้าจำนวนมากในโรงงาน

1.การใช้หุ่นยนต์ในโรงงานผลิต

แม้ว่าการใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์จะเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน แต่หุ่นยนต์ที่ BMW ได้พัฒนาผลิตขึ้นล่าสุด และให้ชื่อเล่นว่า โอลาฟ (Olaf) นี้ มีความพิเศษต่างจากหุ่นยนต์ที่มีอยู่ทั่วไป กล่าวคือ ที่ผ่านมาการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการผลิตระบบอุตสาหกรรมในเยอรมนีมีข้อกำหนดในส่วนของความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

โดยเฉพาะการกำหนดระยะห่างในระหว่างการผลิตระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์ จึงทำให้เป็นข้อจำกัดและเพิ่มขั้นตอนในการทำงาน รวมทั้งเสียพื้นที่ใช้สอย

นอกจากนี้ BMW ยังเล็งเห็นจุดสำคัญที่จะนำสมรรถภาพของหุ่นยนต์มาสนับสนุนการทำงานของมนุษย์ในการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การยกของหนัก การทำงานที่บั่นทอนสุขภาพในระยะยาว เช่น การก้มหรือเอี้ยวตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น

จึงเป็นการผลักดันให้คิดค้นผลิตหุ่นยนต์เพื่อแก้ไขข้อจำกัดดังกล่าว ตลอดจนสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และผลิตหุ่นยนต์โอลาฟที่สามารถติดตั้งและทำงานร่วมกับมนุษย์ได้โดยไม่ต้องมีระยะห่างได้สำเร็จ ทั้งนี้ กฎหมายของเยอรมนียังมีข้อจำกัดในระหว่างการทดลองโครงการ BMW จึงผลิตและทดลองใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวครั้งแรกในโรงงาน Spartanburg ของสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน BMW สามารถนำหุ่นยนต์โอลาฟมาใช้ในโรงงานเพื่อทำฉนวนกันความชื้นด้านในประตูรถยนต์ ซึ่งต้องใช้แรงกดอย่างสม่ำเสมอที่เกินประสิทธิภาพของมนุษย์ และทำงานร่วมกันมนุษย์ไปพร้อม ๆ กัน ปัจจุบัน BMW ใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวที่โรงงานดิงโกลฟิง (Dingolfing) จำนวน 4 ตัว และที่สตุทการ์ท (Stuttgart) 2 ตัว และจะเพิ่มจำนวนอีก 2 ตัวที่โรงงานดิงโกลฟิงในเร็วๆ นี้

2 .Carsharing (DriveNow)

เป็นโครงการรถเช่าที่สนับสนุนการใช้รถยนต์เฉพาะกิจในเมืองใหญ่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว โดยใช้รถ MINI ซึ่งอยู่ในเครือของ BMW เป็นส่วนใหญ่ กติกาการใช้รถยนต์ในโครงการคือ ผู้ที่จะใช้บริการรถยนต์ในโครงการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกโดยเสียค่าธรรมเนียม 29 ยูโร

จากนั้นจะได้รับการ์ดที่สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเพื่อการจองรถยนต์ที่ใกล้ที่สุดและตรวจจุดจอดรถยนต์ที่ว่างพร้อมให้เช่าได้ อัตราการเช่ารถปัจจุบันอยู่ที่ 31-34 ยูโรเซนต์ต่อนาที และค่าที่จอดรถ 15 ยูโรเซนต์ต่อนาที ขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ (ราคานี้รวมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง บัตรที่จอดรถ ประกันอุบัติเหตุ และภาษี) หรือสามารถเหมาจ่ายเป็นวันได้ ผู้ใช้สามารถจอดรถยนต์หลังจากเสร็จภารกิจไว้ที่ใดก็ได้ตามที่อนุญาต นอกจากนี้ยังนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในโครงการอีกด้วย