AI นับเป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ แต่บางอย่างก็เข้ามาทำให้มนุษย์มีบทบาทน้อยเพื่อลดต้นทุน มาดูกันว่า AI ทำอะไรได้จริงแล้วในปัจจุบัน
1.ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
ROSS Intelligence ผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์สำหรับงานกฎหมาย ได้ประกาศเมื่อปีที่ผ่านมาว่า บริษัทที่ปรึกษากฎอย่าง Baker & Hostetler LLP ซึ่งมีที่ปรึกษากฎหมาย 940 คน ใน 14 สาขาทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ว่าจ้าง ROSS เป็นที่ปรึกษากฎหมายซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์คนแรกของโลก ซึ่งเป็นครั้งแรกบริษัทที่ปรึกษากฎหมายออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือให้คำปรึกษากับลูกค้า โดยใช้ ROSS ในคดีล้มละลายต่าง ๆ
2.นักข่าว
ปัจจุบันสำนักข่าวใหญ่ๆ อย่าง New York Times, Washington Post, CNN, NBC ได้ใช้ AI มานำเสนอข่าวแล้วทั้งสิ้นตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Washington Post ได้มีการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์แบบ Hybrid ที่มีชื่อว่า Heliograf ซึ่งได้ทำการติดตามการเลือกตั้งในเขตต่างๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา และนำข่าวสารมานำเสนออย่างต่อเนื่องแบบ Real-time พร้อมเปิดให้นักข่าวที่เป็นคนจริงๆ ได้เข้ามาทำการตกแต่งเนื้อหาเพื่อให้มีความน่าอ่านมากยิ่งขึ้น
3.ที่ปรึกษาด้าน Cyber security และหาช่องโหว่ในหน่วยงาน
นับว่าเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์หลายปีกว่าจะได้เป็นผู้เชี่ยวชาญได้ ในวันนี้ IBM Watson ถูกนำมาเพื่อช่วยวิเคราะห์และระบุความเสี่ยงจากภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์บนระบบเครือข่าย และช่วยลดช่องว่างความแตกต่างของสกิลด้านความปลอดภัยของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
หลักการทำงาน คือการจำลองกระบวนความคิดของมนุษย์ในรูปของโมเดลคอมพิวเตอร์ที่สามารถแปลงข้อมูลเป็นตัวเลขแล้วคำนวณออกมาได้ โดยเรียนรู้สิ่งต่างๆจากการทำ Data Mining, Pattern Recognition และ Natural Language Processing เพื่อเลียนแบบกระบวนการทำงานของสมองมนุษย์
4.พนักงาน Call Center
ในทีนี้รวมอยู่ในธุรกิจหลาย ๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร โรงพยาบาล ธุรกิจประกัน และอีกหลาย ๆ ธุรกิจที่จำเป็นต้องใช้ฝ่าย Custermer Service ไว้ตอบคำถามจุกจิกกับลูกค้า ซึ่งปัญญาประดิษฐ์สามารถทำได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับลูกค้า ให้คำแนะนำในสิ่งที่ดีที่สุดในหลาย ๆ รูปแบบ ทั้งการกรองเนื้อหาข้อมูล รูปแบบแชทบอท หรือการพูดโต้ตอบ ยกต้องน้อง มะลิ ของบริษัททรู ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการกรองเนื้อหาที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งหากเป็นปัญหาเชิงลึก ก็จะส่งข้อมูลให้ผู้เกีี่ยวข้องเป็นลำดับถัดไป
5.นักแปลภาษา
แน่นอนว่าอาชีพนี้จะโดนปัญญาประดิษฐ์ Disruption อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบัน ตัวปัญญาประดิษฐ์ ของ Google ที่เรียกว่า Google Brain สามารถสร้างภาษากลางขึ้นมาได้ โดยเรียกว่า Google Neural Machine Translation โดยปัญญาประดิษฐ์นี้จะแปลงจากอีกภาษาหนึ่ง มาเป็นภาษากลาง พร้อมกับแปลงไปเป็นอีกภาษาหนึ่งที่ผู้ใช้งานต้องการได้อย่างแม่นยำ
ซึ่งในปัจจุบัน GNMT นี้ถูกนำมาใช้ในระบบ Google Translate อย่างเต็มตัวแล้ว และรองรับการแปลข้ามภาษาแบบอิสระได้ถึง 10 คู่ภาษาจากทั้งหมด 16 คู่ภาษาที่มีในเวลานี้
6.พนักงงานเสิร์ฟอาหาร
ปัจจุบันมีร้านอาหารที่ชื่อ Robot.He ของอาลีบาบามีเป้าหมายจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดตุ้นทุนค่าจ้างพนักงานลงจึงใช้พนักงานเป็นหุ่นยนต์แทนมนุษย์ โดยเป็นหุ่นยนต์ที่คอยรับออเดอร์และคอยเสิร์ฟอาหาร ซึ่งจะเป็นรูปแบบคล้ายระบบสายพานในร้านอาหารญี่ปุ่น เมื่อลูกค้านั่งแล้วระบุเบอร์โต๊ะพร้อมออเดอร์เข้าระบบ อาหารจะถูกปรุงโดยเชฟมนุษย์ และจะมีหุ่นยนต์มารับอาหารและเคลื่อนที่ไปส่งที่ให้ถึงโต๊ะ
7.การวิเคราะห์ใบหน้าและหาคนร้าย
ปัจจุบัน กรมตำรวจจีนได้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการตรวจวิเคราะห์ใบหน้าคนร้าย โดยได้กลายเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ เคสดังกล่าวเคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมื่อ ผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งถูกจับได้ระหว่างหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปอยู่ในคอนเสิร์ตของนักร้องดังฮ่องกง Jacky Cheng ที่มีคนดูอยู่มากถึง 50,000 คน
8.การตรวจวิเคราะห์โรค
เมื่อเดือนที่ผ่านมานี้ มีรายงานของสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า ระบบปัญญาประดิษฐ์จากจีนได้เอาชนะทีมแพทย์ระดับท็อปของประเทศ 15 คนในการวินิจฉัยเนื้องอกในสมองและคาดการณ์การขยายตัวของภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อด้วยคะแนน 2 ต่อ 0
ระบบ AI BioMind ได้รับการพัฒนาโดย the Artificial Intelligence Research Centre for Neurological Disorders (ศูนย์วิจัยปัญญาประดิษฐ์เพื่อความผิดปกติทางระบบประสาท) ในโรงพยาบาล Beijing Tiantan และทีมวิจัยจาก the Capital Medical University โดยระบบสามารถวินิจฉัยได้ถูกต้องคิดเป็น 87 เปอร์เซ็นต์จาก 225 เคสในเวลาเพียง 15 นาที ในขณะที่ทีมแพทย์อาวุโสตรวจพบได้แม่นยำเพียง 66 เปอร์เซ็นต์
9.การตลาดเฉพาะบุคคล
การส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์และการสร้าง Customer Experience นับเป็นบทบาทสำคัญของ Digital Marketing แต่ปัจจุบันได้มีการนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาทำการเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าและนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น Under Armor แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาชื่อดังที่ใช้เทคโนโลยี Watson ซึ่งเป็น ปัญญาประดิษฐ์ของไอบีเอ็มในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Record เพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพของลูกค้าและยังทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้คำปรึกษาเรื่องการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารแก่ลูกค้าผ่านแอพอีกด้วย นั่นทำให้ลูกค้าประทับใจและเห็นว่า Under Armor ไม่ใช่แค่แบรนด์เสื้อผ้าอีกต่อไป
10.ยานพาหนะไร้คนขับ
ในหลายประเทศมีการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเพื่อตอบโจทย์ในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องของอุตสาหกรรมคือการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์มารับภาระคนขับรถส่งสินค้า เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานขจัดปัญหาความเหนื่อยล้าของคนขับ ซึ่งจะทำให้การขนส่ง รวดเร็ว และมีประสิิทธิภาพมากขึ้น