ปัญญาประดิษฐ์นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเทรนด์ใหญ่ของโลก ซึ่งหลายประเทศเริ่มนำมาปรับใช้แล้ว แต่สำหรับประเทศไทย เราคงต้องเริ่มจากพืนฐานอย่าง Chatbot ก่อน
อย่าพึ่งวาดฝันประเทศเราจะมีการพัฒนาในมุมที่เหมือนกับต่างประเทศ (ใช้ AI เป็นที่ปรึกษากฎหมาย , เป็นครูที่ปรึกษา , แนะนำแนวทางการรักษาให้กับแพทย์ , และยังใช้ในอาวุธสงคราม) ซึ่งต้องยอมรับว่าในด้านเทคโนโลยีประเทศเรายังถือว่าพัฒนาได้ช้ากว่าประเทศอื่น
โดยปัญหาส่วนใหญ่ก็ยังคงมากจากปัญหาด้านเศรษฐกิจและปัญหาด้านการคอร์รัปชัน แต่ถึงกระนั้นในภาคเอกชนรายใหญ่ ๆ จะมีการเริ่มนำมา AI ในการให้ตอบสนองต่อการให้บริการกับลูกค้ามากขึ้น โดยหนึ่งในบริการนั้นคือ Chatbot ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหญ่ด้าน AI ของประเทศไทย
โดยในปัจจุบันแชทบอทประกอบไปด้วย 2 รูปแบบ คือ Base on rule การสร้างโปรแกรมแชตขึ้นมาและกำหนดค่าต่าง ๆ ในการตอบคำถามแก่ผู้ถาม ซึ่งวิธีนี้ก็มีวิธีจัดการที่ไม่ยุ่งยากมากนัก และอีกแบบคือการใช้ AI เข้ามาช่วย จึงมีความยากในการทำมากกว่า
เพราะอาจจะต้องมีการนำ Natural Language Processing (NLP) และ Natural Language Understanding (NLU) มาใช้เพื่อช่วยให้บอทของเราเข้าใจภาษามนุษย์ รูปประโยค ความหมายที่มนุษย์ต้องการสื่อได้ดีขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็มีบริษัทใหญ่ ๆ หลายเจ้าที่ได้พัฒนาเทคโนโลยี NLP-NLU ไม่ว่าจะเป็น IBM, Microsoft, Google หรือแม้กระทั่ง Facebook เองก็มีทีมที่พัฒนาเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
ด้วยความที่แชทบอทนั้น สามารถประยุกต์ให้เข้ากับหลาย ๆ แพลตฟอร์มและหลาย ๆ ธุรกิจได้ จึงเปรียบเสมือนตัวช่วยที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่จะคอยมาช่วยเราดูแลลูกค้าหรือผู้ใช้งานแพลตฟอร์มและธุรกิจของเรา เช่น คอยตอบปัญหาเกี่ยวกับการใช้งาน นำเสนอข่าวสาร โปรโมชัน จากร้านค้าหรือสำนักข่าวต่าง ๆ
หรือช่วยในการปิดการขายสินค้า คอยแนะนำลูกค้า สร้างบิล และหน้าจ่ายเงิน พร้อมกันนี้ยังให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆ โดยในอังกฤษมีบอตที่ให้คำปรึกษาทางกฎหมายเรื่องที่จอดรถและที่อยู่อาศัย ซึ่งร้านพิซซ่าชื่อดังอย่างโดมิโน่ พิซซ่ายังใช้ Chatbot รับออเดอร์จากทางลูกค้า และนอกจากนี้ช่วยดูแลลูกค้า อย่างเช่นในธุรกิจการบิน สามารถดูไฟต์ เช็กอิน เที่ยวบินและอื่น ๆ ได้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันธุรกิจส่วนใหญ่ที่ใช้แชทบอทในประเทศไทย ยังใช้เป็นระบบ Base of rule อยู่คือกำหนดค่ามารตฐานในการตอบคำถาม แต่ในอีกไม่นานผู้ให้การด้านแชทบอทจะปรับรูปแบบของแชทบอทให้เข้ากับแต่ละอุตสาหกรรมมากขึ้น พร้อมทั้งนำ AI มาทำให้มันมีความลำหน้าไปอีก
และธุรกิจที่จะนำมาปรับใช้เป็นธุรกิจแรกๆ คือ ธุรกิจด้านคมนาคม เพราะบริษัทเหล่านั้นต้องใช้ต้นทุนในการจ้างพนักงานหลายล้านบาทต่อปี ในการให้บริการตอบคำถามลูกค้า
chat bot จึงเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะสามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง และไม่มีต้นทุนที่สูงมาก โดยในปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการ chat bot อยู่หลายรายและก็มีค่าบริการที่ถูกมาก ๆ
ตัวอย่างของแชทบอทที่มีให้บริการแล้วในไทย
