เดลล์ อีเอ็มซี เปิด Dell EMC AI Experience Zones ใหม่ หวังช่วยเร่งการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ให้เกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และญี่ปุ่น…
highlight
- ปัจจุบัน Dell EMC AI Experience Zones เปิดดำเนินการแล้วในประเทศออสเตรเลีย อินเดีย เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ โดยพื้นที่ปฏิบัติการในประเทศญี่ปุ่นจะเปิดในเดือนมิถุนายน
- AI Experience Zones ให้ความรู้สำหรับการเริ่มต้น การจำแนกเป้าหมาย และการนำโครงการด้าน AI ไปดำเนินการให้ประสบผลสำเร็จ
- ลูกค้าและพันธมิตรที่อยู่ในพื้นที่สามารถเข้าถึงเครื่องมือและเทคนิคด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลได้โดยตรงเพื่อช่วยให้กลยุทธ์การปฏิรูปไปสู่ดิจิทัล (digital transformation) เกิดขึ้นได้
- สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยที่สุด การสาธิตโซลูชันต่างๆ ตลอดจนถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้าน AI ที่พร้อมแบ่งปันกรณีการใช้งาน (use cases) ด้าน ปัญญาประดิษฐ์ และเป็นพันธมิตรร่วมกับองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในโครงการด้านการปฏิรูปไปสู่ดิจิทัล
Dell EMC เอไอ Experience Zones
เดลล์ อีเอ็มซี ประกาศการเป็นพันธมิตรร่วมกับอินเทล ในการเปิดตัว Dell EMC AI Experience Zones ในบังกาลอร์ กรุงโซล สิงคโปร์ ซิดนีย์ และโตเกียว ด้วยพื้นที่ที่อุทิศให้กับการแบ่งปันความรู้ โซนต่างๆ จะทำให้ผู้เยี่ยมชมดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ด้าน “เอไอ“ พร้อมทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดความเข้าใจ
ในด้าน ปัญญาประดิษฐ์ และการนำมาใช้งานภายในองค์กรต่างๆ ทั้วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และประเทศญี่ปุ่น จาก ดัชนีชี้วัดการปฏิรูปไปสู่ดิจิทัล (Digital Transformation Index) เทคโนโลยีเอไอ คือ 1 ใน 10 ลำดับความสำคัญสูงสุด ด้านการใช้จ่ายสำหรับผู้นำองค์กรธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
ผู้นำ 1 ใน 2 คนวางแผนที่จะลงทุนในด้านเอไอ ในอีกหนึ่งถึงสามปีข้างหน้าในฐานะส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการปรับเข้าสู่ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม 95% ของบริษัทต่าง ๆ ยังคงประสบปัญหาอุปสรรคในการปฏิรูปองค์กร ซึ่งในนั้นคือความล้าหลังในด้านความเชี่ยวชาญ และชุดทักษะความรู้ภายในองค์กร
โดย ภายในศูนย์ Dell EMC Customer Solution Centres ตัว AI Experience Zones จะเปิดกว้างสำหรับลูกค้า และพันธมิตรที่ต้องการความเข้าใจที่สมบูรณ์กี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ และความก้าวหน้าทางด้าน ปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงการได้รับประสบการณ์อย่างใกล้ชิดในด้านการออกแบบ
และการใช้งานโซลูชัน “เอไอ” ทั้งนี้ Experience Zones ยังจัดแสดงให้เห็นว่าระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High-Performance Computing หรือ HPC) และระบบนิเวศทางด้าน ปัญญาประดิษฐ์ สามารถนำมาใช้ในการจัดการกับความท้าทาย และโอกาสต่างๆ ในเชิงธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในวงกว้างได้อย่างไร
โดยจะแสดงให้เห็นว่าชุดข้อมูลตัวอย่างจะได้รับการประมวลผลและวินิจฉัยอย่างไร และตัวโซลูชันสแตคชั้นนำอุตสาหกรรมของ เดลล์ อีเอ็มซี ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังของตัวประมวลผล Intel Xeon Scalable จะร่วมกันมอบประสบการณ์อันทรงพลังทางด้าน ปัญญาประดิษฐ์ อย่างไรบ้าง
การสร้างศูนย์การแสดงเทคโนโลยี เป้าหมายที่ต้องการมอบช่องทางในการเข้าถึงความเชี่ยวชาญด้าน ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีของเดลล์ อีเอ็มซีให้กับทั้งภูมิภาค ซึ่ง Experience Zones ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการทำให้การใช้งาน ปัญญาประดิษฐ์ เป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้า ด้วยการฝึกอบรมในระดับมาสเตอร์คลาส
การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญ และโอกาสในการทำงานร่วมกันภายในสถานที่ ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำให้ผ่านขั้นตอนต่างๆ ที่สำคัญต่อการริเริ่มทางด้าน ปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงการออกแบบ การติดตั้ง การบำรุงรักษา และที่สำคัญที่สุดการส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สามารถจับต้องได้ให้กับองค์กรของตนเอง
“การนำเอา ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามาใช้ในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบที่แข็งแกร่งทางธุรกิจโดยถ้วนทั่วให้กับทุกอุตสาหกรรม และทุกรูปแบบการทำงานทางธุรกิจ”
คริส เคลลี่ รองประธาน อินฟราสตรัคเจอร์ โซลูชัน กรุ๊ป เดลล์ อีเอ็มซี ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า บริษัทต่างๆ ที่มองหาโอกาสการเติบโตในยุคที่ทุกสิ่งขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจำเป็นที่จะต้องเข้าใจว่าการลงทุนใน “เอไอ” ไม่ได้ถือว่าเป็นทางเลือกอีกต่อไป หากแต่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวดต่อธุรกิจ
ในขณะที่มีความซับซ้อนโดยธรรมชาติ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บริษัทต่าง ๆ ต้องเริ่มที่จะเปลี่ยนจากกลยุทธ์เชิงทฤษฎีด้าน ปัญญาประดิษฐ์ ไปสู่การใช้งานอย่างจริงจังเพื่อให้ยังคงอยู่ล้ำหน้าคนอื่น ๆ ในธุรกิจ
การใช้จ่ายในระบบ ปัญญาประดิษฐ์ ทั่วโลก
ด้าน มาเรียนน์ ดาควิลา ผู้จัดการการวิจัย Customer Insights & Analysis จากไอดีซี กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายที่มีนัยยะสำคัญของระบบปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลกสามารถมองเห็นได้ในทุกภาคอุตสาหกรรมเนื่องจากแนวคิดริเริ่มด้าน “เอไอ” ยังคงเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงช่วยเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้า
และสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการรูปแบบใหม่ขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งจากรายงานล่าสุดของไอดีซี แสดงให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายในระบบ ปัญญาประดิษฐ์ ทั่วโลกถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 35.8 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 44% จากจำนวนการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปี 2561
“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคกำลังสร้างองค์กรอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ ถักทอเข้าไปในแผนงานดิจิทัลของพวกเขา”
ขณะที่ แอนดรูว์ อันเดอร์วูด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยี ฝ่ายคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (HPC) และปัญญาประดิษฐ์ เดลล์ อีเอ็มซี ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า “Dell EMC AI Experience Zones” จะมอบพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะที่ซึ่งลูกค้าและพันธมิตรสามารถสำรวจ ทดสอบ
และเรียนรู้เกี่ยวกับความต่างทางของส่วนประกอบทางกายภาพ และส่วนประกอบเสมือนที่ประกอบขึ้นเป็นระบบนิเวศของปัญญาประดิษฐ์ การริเริ่มดังกล่าวคือจุดศูนย์รวมของคำมั่นของเราในการเสริมสร้างการแบ่งปันความรู้ระหว่างผู้บริหารระดับสูงส่วนงานสารสนเทศ (CIOs) ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของเรา
และพันธมิตรอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร็วในการตอบรับการใช้งานและการพัฒนานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ ภายในภูมิภาค ซึ่งทั้ง 5 แห่ง พร้อมให้การสาธิตในส่วนของตัวผลิตภัณฑ์ การให้การฝึกอบรม และนำร่องให้กับทั้งลูกค้าของเดลล์ อีเอ็มซี และระบบนิเวศพันธมิตรทั่วทั้งภูมิภาค
และภายใน Experience Zones ได้รวมเอาเซิร์ฟเวอร์เดลล์ PowerEdge เจนเนอเรชันล่าสุดเข้าไว้กับซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ ที่ล้ำสมัยบนโอเพ่นซอร์สของอินเทล อาทิ ชุดเครื่องมือ OpenVINO ตลอดจนระบบเครือข่ายของเดลล์ อีเอ็มซี และเทคโนโลยีด้านสตอเรจต่าง ๆ
เพื่อให้ ปัญญาประดิษฐ์ โซลูชันที่ทำให้การออกแบบระบบทำได้ง่ายขึ้น เพิ่มความเร็วในการเข้าสู่เส้นทางของเอไอ ด้วยความเชื่อมั่นในการออกแบบที่สามารถปรับขยายตัวระบบ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ทั้งในแล็บของเรา และทั้งผ่านการใช้งานของลูกค้า เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการในด้านเวิร์กโหลด และผลลัพธ์ของลูกค้า
ด้าน ลิซ่า สเปลแมน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป Intel Xeon Processors และ Data Centre Marketing ที่อินเทล กล่าวว่า เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ ล่าสุดของอินเทลได้ถูกปรับ และเพิ่มขีดความสามารถสูงสุดด้วยโครงสร้างพื้นฐานของเดลล์ อีเอ็มซี
จะช่วยเพิ่มสมรรถนะระดับสูงในการประมวลผล บิ๊ก ดาต้า (Big Data), การวิเคราะห์ (Analysis) และความสามารถด้านต่าง ๆ ของ ดีพ เลิร์นนิ่ง (Deep Learning) จากดาต้าเซ็นเตอร์ไปสู่อุปกรณ์ปลายทาง (Edge) AI ได้ถูกปรับเพื่อให้นำทางไปสู่ยุคใหม่ของเครื่องจักรอัจฉริยะ (Machine Intelligence)
และเราปรารถนาในการเข้าถึงเครื่องมือที่ถูกต้องในการที่จะปลดล็อคลำดับชั้นทางความรู้ต่างๆ และข้อมูลเชิงลึกให้กับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) นักพัฒนา และลูกค้าทุกคน
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่
