ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการพูดถึงคำว่า Industry แบบภาพกว้าง ๆ ในวงการไอที นั่นเพราะความหมายของมันอาจจะสื่อไปในมุมมองของธุรกิจ ภาคการผลิต หรือเครื่องจักรมากกว่าจะเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์หรือการสื่อสารข้อมูล
แต่สำหรับ Industry 4.0 อาจจะเป็นคำที่คนไอทีได้ยินกันอย่างหนาหูตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันจะเข้ามาเป็นเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงหรือถึงขั้นผลิกโฉมอุตสาหกรรมในหลาย ๆ ด้าน และจะเกี่ยวกับไอทีอย่างไร จะปฏิวัติเรื่องของการผลิตไปในทิศทางใดบ้าง ฉบับนี้เรามีคำตอบครับ
การเปลี่ยนผ่าน Industry ยุคสู่ยุค
การมาของคำว่า Industry 4.0 ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า แล้วยุคที่ผ่านมานั้นมีอะไรกันบ้างที่เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น แล้วมีที่มาที่ไปอย่างไร อยู่ดี ๆ ทำไมมาโผล่ที่ 4.0 เลย?
ย้อนกลับไปในสมัยที่เริ่มมีการคิดค้นเครื่องจักรไอน้ำ นั่นถือว่าเป็นยุคเริ่มแรกที่มนุษยชาติได้เข้าสู่โลกของอุตสาหกรรม ด้วยการนำเอาเครื่องจักรมาใช้ในการผลิตสินค้า แทนการใช้งานแรงงานคนล้วน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าการนำเครื่องจักรมาใช้ย่อมสามารถทุ่นแรง เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และที่สำคัญคือด้วยกำลังของเครื่องจักร ทำให้เราสามารถผลิตสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ด้วยแรงงานคนเพียงอย่างเดียว
ต่อเนื่องมาถึงยุคที่ 2 เมื่อเครื่องจักรได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น ไม่ได้จำกัดกันอยู่เพียงแค่เครื่องจักรไอน้ำในยุคแรกอีกต่อไปแล้ว การพัฒนาเข้าสู่ยุคของ Mass Production ที่เริ่มมีการสร้างสายการผลิตเพื่อผลิตสินค้าออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อให้ทันต่อการตอบสนองความต้องการของตลาดที่มีอยู่มหาศาล ในยุคนี้เราจึงพูดถึงการตั้งโรงงานขนาดใหญ่ที่ใช้ผลิตสินค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งออกมาเป็นจำนวนมากซึ่งเรายังคงเห็นรูปแบบนี้อยู่ในปัจจุบัน
ยุคที่ 3 อาจจะถือว่าเป็นการอัพเกรดจากยุคที่ 2 ที่มีการสร้างสายการผลิตเพื่อผลิตสินค้าออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าในสายการผลิตยังคงต้องใช้แรงงานคนเป็นจำนวนมากอยู่ แต่เมื่อมีการนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยมากขึ้น ความยืดหยุ่นของเครื่องจักรที่สามารถทำงานได้ละเอียดอ่อนมากขึ้นจึงถูกนำมาใช้ทดแทนแรงงานคน ซึ่งเราเรียกมันว่า “Robot” หรือหุ่นยนต์ ที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมหลายอย่างในปัจจุบัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนักอย่างการผลิตรถยนต์
ในยุคนี้อาจจะเรียกได้ว่าอุตสาหกรรมมีการพัฒนาอย่างมาก และด้วยความแข็งแรง แม่นยำ และการทำงานแบบอัตโนมัติของหุ่นยนต์ในการผลิตก็ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมถูกขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ยังไม่สามารถขาดได้ก็คือคนที่มีหน้าที่คอยควบคุมเครื่องจักรอีกทอดหนึ่ง หรือต่อให้เครื่องจักรทำงานอัตโนมัติอย่างไร ก็ยังต้องอาศัยคนคอยป้อนคำสั่งเบื้องต้นว่าต้องการให้ผลิตอย่างไร จำนวนเท่าไหร่อยู่ดี
