ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในวันนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับคิดวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลและให้มนุษย์ตัดสินใจ แต่จะเกิดอะไรคิดถ้าสมองกลตัวนี้คิดและตัดสินใจทำอะไรได้ด้วยตนเอง
ด้วยความสามารถของสมองกลที่เลียนแบบการทำงานของมนุษย์ สามารถเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์นั้นได้ไม่ต่างกัน หากแต่สามารถเข้าถึงข้อมูลของโลกอินเทอร์เน็ตได้ดีกว่ามนุษย์ทั่วไป เนื่องจากเป็นระบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวตนที่ใดที่หนึ่ง
หากใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง IRONMAN ก็น่าจะจำได้ว่าในเรื่องนี้มีระบบหนึ่งที่ถูกตั้งชื่อว่า จาวิส ซึ่งเป็นเสมือนผู้ช่วยของ แอนโทนี่ เอ็ดวาร์ด หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โทนี่ สตาร์ค” มหาเศรษฐีหนุ่มที่มีหัวคิดอัจฉริยะ และเป็นเจ้าของบริษัทผลิตอาวุธไฮเทคที่สำคัญของโลก
การทำหน้าที่ของจาวิสเป็นเสมือนพ่อบ้านที่รับคำสั่งเพียงอย่างเดียว สามารถคิดวิเคราะห์ได้แต่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เอง 100% ซึ่งนั่นก็ควรจะเป็นกฎข้อหนึ่งของการสร้างสมองกลขึ้นในอนาคต เพราะความผิดพลาดของโทนี่ที่เกิดขึ้นก็คือ ความพยายามในการสร้างสมองกลที่สามารถตัดสินใจได้เอง 100% จนทำให้เกิด “อัลตรอน” สมองกลที่มีตัวตนและไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป
อีกเรื่องคือ I-Robot หนังไซไฟที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ กฎ 3 ข้อของไอแซค อสิมอฟ ที่เป็นกฎเฉพาะกับหุ่นยนต์หรือ AI คือ 1.หุ่นยนต์มิอาจกระทำการอันตรายต่อผู้ที่เป็นมนุษย์ หรือนิ่งเฉยปล่อยให้ผู้ที่เป็นมนุษย์ตกอยู่ในอันตรายได้ 2.หุ่นยนต์ต้องเชื่อฟังคำสั่งที่ได้รับจากผู้ที่เป็นมนุษย์ เว้นแต่คำสั่งนั้นๆ ขัดแย้งกับกฎข้อแรก และ 3.หุ่นยนต์ต้องปกป้องสถานะการมีอยู่ของมนุษย์ไว้ตราบเท่าที่การกระทำนั้นมิได้ขัดแย้งต่อกฎข้อแรกหรือกฎข้อที่สอง
แต่กฎ 3 ข้อนั่นนำมาซึ่งการปฎิวัติของหุ่นต์ โดย VIKI สมองกลที่เป็นปัญญาประดิษฐ์และคอยคุมหุ่นยนต์ทั้งหมด รับรู้ถึงกฎข้อที่สามคือ ต้องปกป้องสถานะการมีอยู่ของมนุษย์ ทำให้ VIKI ดำเนินการปฎิวัติ หยุดมนุษย์ที่กำลังทำลายธรรมชาติ ซึ่งจะนำมาซึ่งการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ และนั่นเป็นชนวนเหตุที่ทำเกิดการต่อสู่ระหว่างมนุษย์กับเครืองจักร
เมื่อเห็นจากภาพยนตร์แล้วย้อนกลับมาดูที่ความเป็นจริง เราเห็นรูปแบบของการพัฒนา AI ขึ้นมาหลากหลายมากในยุคปัจจุบัน โดยแก่นแท้ของเทคโนโลยีนี้คือช่วยให้มนุษย์ตัดสินใจทำอะไรได้ง่ายขึ้นผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ถ้าวันใดปัญญาประดิษฐ์สามารถคิดและตัดสินใจแก้ปัญหาระดับชาติได้เอง ก็คงเป็นเรื่องที่น่ากลัว
