ซีดีจี (CDG) คาดตลาดไอทีสดใสกระตุ้นสังคมไทยเดินหน้าทรานส์ฟอร์เมชั่นฯชู Big Data, IoT และSecurity ส่งภาครัฐสู่ Smart Government…
กลุ่มบริษั
ย้ำจุดยืนความเป็นผู้นำด้
และให้การสนับสนุ
คือ Blockchain, Artificial Intelligence (AI), Augmented Reality (AR) and Virtual Reality (VR) และGlobal Internet of Things (IoT) security breach ตั้งเป้าเติบโต 10% โดยยั
CDG ชี้ตคลาดไอทีไทยส่อแววฟื้นตัว ด้วย 3 เทคโนโลยี
นาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ซีดีจี กล่าวว่า จากข้อมูลของ IDC คาดใน 2-3 ปีจากนี้ ประเทศไทยจะมีเงินหมุนเวียนในตลาดไอที สูงถึง 470,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเดินหน้าดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ขององค์กรของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน
โดยมี คลาวด์ เซอร์วิส (Cloud Service) ยังคงเป็นส่วนที่ได้รับความสนใจ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำรายได้ให้ตลาดไอทีได้สูงกว่า 48,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ตัวเลขจากงานวิจัยของ IDC ยังระบุว่า ภายในปี 2563
โดยมากกว่า 20%ขององค์กรจะปรับเปลี่ยนรูปแบบองค์กรให้เป็นดิจิทัลเพื่อเสริมศักยภาพ และพร้อมแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งซีดีจียังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบ System Integrator เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เร็วและใหม่ขึ้นทุกวัน
ด้วย 3 จุดเด่นโซลูชั่นที่จะเข้ามาสนับสนุนการทำงาน ให้กับองค์กรภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ Big Data and Data Analytics, IoT และ Privacy/ Security โดยในส่วนของ Big Data และ Data Analytics ทั้งภาครัฐและเอกชนจะพบว่า ข้อมูลที่มีอยู่มหาศาลยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในขณะที่ข้อมูลเหล่านั้นเองคือโอกาสที่สามารถนำมาจัดการและรวบรวมให้เป็นหมวดหมู่ ให้ง่ายต่อการวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ในขณะเดียวกัน เทรนด์ในการพัฒนาเมืองของภาครัฐสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart city) จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง IoT ในการบูรณาการเข้ากับระบบ
เสริมด้วยงาน e-citizen services เพื่อการบริการประชาชนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเมื่อข้อมูลกลายเป็นหัวใจของการทำงาน Privacy/ Security หรือการจัดการระบบการเข้าถึงข้อมูลและการปกป้องข้อมูล จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกหน่วยงาน
โดยทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้การผลักดันให้เกิดเป็นโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการให้ลูกค้า ตั้งเป้าเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมาโดยยังคงสัดส่วนหลักจากภาครัฐที่ 90% โดยทิศทางดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับการคาดการณ์ของ Gartner
ในบทความ Gartner Top 10 Strategic Technology Trends for 2019 ซีดีจี พบ technology trends ที่น่าจับตามองและมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อภาคธุรกิจหลัก ๆ คือ
Blockchain, Artificial Intelligence (AI), Augmented Reality (AR) and Virtual Reality (VR) และ Global Internet of Things (IoT) security breach
- เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) คือการนำมาใช้ให้เป็นรูปธรรมสำหรับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพเรื่องของความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลและความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่เสริมการทำงานร่วมกันระหว่างแผนก หน่วยงาน และองค์กร เช่น เอกสารสำคัญ โฉนดที่ดิน และการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ เป็นต้น
- Artificial Intelligence หรือ AI ปัญญาประดิษฐ์ที่ยังคงเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ การเกษตร และทางการแพทย์ หากจะมองให้แคบลงอีก สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจนในปีนี้คือ การนำแมชชีนเลิร์นนิงและ AI มาใช้สร้างแพลตฟอร์มทางธุรกิจ และขับเคลื่อนการกระบวนการทำงาน หรือแม้แต่การนำchatbot เข้ามาใช้โต้ตอบกับลูกค้าเพื่อการบริการ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ chatbot ยังถูกนำมาใช้ในองค์กร เพื่อลดจำนวนงานและขั้นตอนการทำงานให้กระชับยิ่งขึ้น คาดปลายปี 2562 กว่า 40% ขอธุรกิจขนาดใหญ่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานภายในองค์กรด้วยการนำ Chatbot มาประยุกต์ใช้
- Augmented Reality (AR) and Virtual Reality (VR) แม้ในปีที่ผ่านมา กระแสของ VR จะยังมาไม่แรงเท่า AR แต่การตื่นตัวของภาคธุรกิจทั่วโลกที่อยากผลักดันเทคโนโลยีนี้ เราจึงเห็นความพยายามในการนำเสนอต้นทุนอุปกรณ์ที่ต่ำลงเพื่อให้เข้าถึงคนทั่วไปได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ขณะเดียวกันเทคโนโลยีMixed Reality (MR) ซึ่งเป็นส่วนผสมของ AR และ VR เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมทับซ้อนพื้นที่จริงแบบเรียลไทม์ และยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานเข้าถึงวัตถุเสมือนได้ ได้รับความสนใจมากขึ้นจากกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์
- Global Internet of Things (IoT) security breach แนวโน้มของการเกิดความไม่ปลอดภัยหรือการรั่วไหลของข้อมูลจากการเชื่อมต่อของอุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มมากขึ้น จากการพัฒนาและนำมาใช้อย่างแพร่หลายของอุปกรณ์ IoT ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ Gartner คาดการณ์ว่า จากนี้จนถึงปี 2563 จะมีการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกถึง 20.4 ล้านชิ้น จึงเกิดกระแสการตื่นตัวจากผู้ผลิตชิ้นส่วน IoT ที่เริ่มมองหาการรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ที่รัดกุมขึ้น
จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ทำให้ทุกภาคส่วนมีการปรับตัวเพื่อสอดรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยปัจจุบันจะเห็นได้จากการ transform ของหน่วยงานทั้งภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจที่ต่อเนื่องและชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการร่วมกันผลักดันของทุกภาคส่วนตามแผนยุทธศาสตร์ประเทศสู่Thailand 4.0
จากข้อมูลของ BOI ระบุว่า ภาครัฐมีการเดินหน้าโครงการต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้เกิดความพร้อมในการใช้ระบบ e-documents โดยตั้งเป้าในปี 2564มากกว่า 80% ของหน่วยงานภาครัฐ ต้องเข้าสู่ เปเปอร์เลส ออฟฟิศ (Paperless Office)
ซึ่งหมายถึงโอกาสในการบริการประชาชนที่มีศักยภาพมากขึ้น และในปี 2563สัดส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะเติบโตถึง 10% ซึ่งเป็นผลมาจาก mobile payment โดยหากมองจากเทรนด์นี้ โอกาสที่น่าจับตามองในการเติบโตของธุรกิจIT คือเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงถึงโซลูชั่นในการรองรับความปลอดภัย ที่เป็นอีกหนึ่งโอกาสเช่นกัน
ซึ่งเราในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเดินหน้างานดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยนำจุดแข็งด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานสนับสนุนภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ สร้างการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกัน
รวมทั้งผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ก้าวสู่ความเป็น Smart Government และให้การสนับสนุนในด้าน e-citizen service solutions เพื่อการบริการประชาชนที่ดีขึ้นผลักดันประเทศผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสังคมที่ดีขึ้น และเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ เป็นหลักสำคัญ
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่