บทสรุป 9 ข้อ จากโรดแมป 2019 ของ “คอยน์ แอสเซท” (Coin Asset) หลังพลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ เตรียมชักธงรบสู่สมรภูมิคริปโตเคอเรนซี (Crypto Currency) ระดับโลก
ปิดฉากลงไปอย่างดงามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ CAX SWAG : Coin Asset Meet Up งานประจำปีครั้งแรกของ บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล หนึ่งในที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
ประกาศให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ตามบทเฉพาะกาล ในระหว่างที่ ก.ล.ต. พิจารณาคุณสมบัติ ในการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
Coin Asset ชักธงรบสู่สมรภูมิ Crypto Currency
ศิวนัส ยามดี ผู้ก่อตั้งบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด กล่าวว่า ทางคอยน์ แอสเซท จะพลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ จากที่เน้นเรื่องความเข้าถึงง่ายและความง่ายในการใช้งาน เรากำลังมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายที่ Fast and simple.
เนื่องจากในปีที่ผ่านมีการเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าของคอยน์ แอสเซทเอง ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนวงการคริปโตเคอเรนซีของโลก เราพบว่าการปรับตัวให้เร็วในธุรกิจ ความเร็วของระบบการใช้บริการ และการสื่อสารที่ทันท่วงที ล้วนเป็นหัวใจหลักที่ทุกคนต้องการ
ขณะที่ยังต้องคงความเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถทำให้ผู้ใช้บริการของเราสามารถบรรลุความต้องการได้อย่างง่ายดายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งภายในปี 2019 จะเป็นปีที่เรานำแนวคิดเรื่อง Fast and simple. เข้ามาใช้ในทุกๆ จุดของธุรกิจ
เริ่มต้นตั้งแต่ทีมงานภายใน ไปจนถึงการส่งมอบคุณค่าไปยังผู้ใช้งานระบบของเรา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการก้าวสู่การแข่งขันในระดับเอเชียตะวันออกฉียงใต้ และในระดับโลกต่อไป
ในงานครั้งนี้ทางคอยน์ แอสเซท ยังได้เผยถึงการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2019 โดยรวบรวมมาเป็นบทสรุป 9 ข้อสำคัญ ดังนี้
1. Local to Global เพราะเชื่อว่าอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีของไทย จะขยายตัวตามตลาดโลก การแข่งขันของคอยน์ แอสเซทจึงไม่หยุดตัวเองไว้แค่ในประเทศ แต่มีการเรียนรู้และพัฒนาระบบตามกระดานเทรดสำคัญของๆ โลก เพื่อก้าวสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ
ในเบื้องต้นคอยน์ แอสเซทเอง มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาเว็บไซต์ ปรับปรุงฟังก์ชันและเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้งาน โดยเริ่มดำเนินการปล่อยเว็บไซต์โฉมใหม่แล้วและยังคงมีการปรับปรุงอยู่เป็นระยะ
เพื่อให้ใกล้เคียงกับคำว่าความสมบูรณ์แบบมากที่สุด จุดเด่นสำคัญคือการแสดงผลที่หลากหลาย ให้เจ้าของพอร์ตลงทุนสามารถมองพอร์ตของตนเองได้ในภาพกว้าง และเห็นได้ในหลากหลายมิติ จึงสามารถประเมินการซื้อขายได้อย่างแม่นยำขึ้น
2. Run Fast ปัจจุบันระบบของคอยน์ แอสเซท สามารถทำได้ 1,800 ธุรกรรมต่อนาที ในปี 2019 จะเพิ่มขีดจำกัดให้สามารถทำธุรกรรมได้เป็น 24 เท่า หรือ เท่ากับ 42,000 ธุรกรรมต่อนาที
3. Capacity Extended ปัจจุบันระบบของคอยน์ แอสเซท รองรับผู้ใช้งานพร้อมกันได้ราว 500
ยูสเซอร์ต่อวินาที ปี 2019 จะขยายขีดจำกัดเพิ่มอีก 10 เท่า ให้สามารถรองรับผู้ใช้งานพร้อมกันได้มากถึง 5,000 ยูสเซอร์ต่อวินาที
4. More Varity, More Opportunity จากปัจจุบันที่มีการลิสต์เหรียญดิจิทัลขึ้นกระดานประมาณ 2-3 สกุลต่อเดือน ในปี 2019 มีการเพิ่มทีมวิจัยและประเมินศักยภาพเหรียญ โดยตั้งเป้าให้มีการลิสต์ ให้ได้ 12 เหรียญต่อเดือน
ก้าวสู่การเป็นเว็บไซต์ของคนไทยที่มีตัวเลือกเหรียญให้กับลูกค้ามากที่สุด ซึ่งจะดึงดูดนักเทรดจากทั่วโลกและเพิ่มความหนาแน่นในการซื้อขายบนกระดาน โดยท้ายที่สุดแล้วจะนำโอกาสในการลงทุนมาสู่นักลงทุนในภูมิภาคได้อย่างมหาศาล
5. Fast Crypto-payment ปัจจุบันการทำธุรกรรมบนระบบของคอยน์ แอสเซท เร็วสุดอยู่ที่ 3 นาที โดยเป็นเว็บไซต์ที่สามารถฝากเงินเข้าระบบ ผ่าน QR Payment ได้เร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้เสร็จสิ้นในระยะเวลาเพียงแค่ 1 นาที ในปี 2019
6. Transparent Cloud & Hybrid Blockchain ปี 2019 คอยน์ แอสเซท จะใช้ระบบคลาวด์ในการเก็บข้อมูล 100% ซึ่งมีผลให้ระบบมีความโปร่งใสมากขึ้น สามารถตรวจสอบธุรกรรมได้ และจะเริ่มนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาบันทึกธุรกรรมไว้ เพื่อเตรียมเข้าสู่ยุคบล็อกเชนที่กำลังจะมาถึงอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
7. CAX Token คอยน์ แอสเซท อยู่ระหว่างการพัฒนาเหรียญดิจิทัลของตัวเองมาใช้ในระบบ ซึ่งจะเป็นสื่อกลางในการทำโปรโมชั่นหรือกิจกรรมทางการตลาด การมอบสิทธิพิเศษต่างๆ รวมทั้งเพื่อรองรับการซื้อขายผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ทางคอยน์ แอสเซทเตรียมจะปล่อยตามออกมาอีกหลายระลอก
8. Malee AI ท่ามกลางเทรนด์ปัญญาประดิษฐ์ที่หลายธุรกิจกำลังตื่นตัว คอยน์ แอสเซทจึงเริ่มพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า “มาลี” เข้ามาอยู่บนระบบ เพื่อช่วยสนับสนุนนักเทรดให้สามารถซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเฝ้าติดตามเหรียญหรือภาวะการซื้อขายที่กำลังสนใจอยู่แทนผู้ใช้ได้
และมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงจุดเหมาะสมในการซื้อขาย เสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้ใจนักเทรด โดยตั้งเป้าให้สามารถสั่งการมาลีได้ด้วยเสียงในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้การใช้บริการ ‘มาลี’ จะรับชำระค่าบริการด้วย CAX Token
9. Mobile Application เพื่อความสะดวกรวดเร็วและง่ายดายในการเข้าถึงการซื้อขายเหรียญดิจิทัล คอยน์ แอสเซท จึงมีประกาศพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่น ให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน เพราะพบว่าปัจจุบันผู้ใช้มากกว่า 60% เข้าถึงกระดานคอยน์ แอสเซท ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
Interview : เปิดอกคุย CEO Coin Asset หลังปล่อยตู้ Crypto ATM ให้บริการในไทย!! คลิก…!!
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว)
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่