First Lt. Aaron Smith uses a computer inside Marine Air Support Squadron 1’s Direct Air Support Center during a Marine Air Command and Control System Integrated Exercise, at Marine Corps Air Station Cherry Point, N.C., Feb. 3, 2015. The purpose of the exercise was to conduct readiness enhancing integrated training to ensure 2nd Marine Aircraft Wing maintains a high state of aviation command and control. Smith is the helicopter director for MASS-1.

นาวิกสหรัฐฯ เตรียมเปิดรับสมัครทหารเพื่อต่อสู้ใน สงครามไซเบอร์ ตอบรับยุคไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ 

สงครามไซเบอร์

เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการรบกันของมหาอำนาจในอนาคตกำลังจะเปลี่ยนรูปแบบไป ซึ่งจะเป็นการขับเขี้ยวกันด้วยการโจมตีทางไซเบอร์ซะส่วนใหญ่ ทำให้อเมริกาต้องเตรียมความพร้อมเพื่อสู่ภัยไซเบอร์เหล่านี้

Robert Neller ผู้บัญการทหารของกองทัพสหรัฐ ได้กล่าวในที่ประชุมประจำปีของกองทัพว่าเขากำลังพิจารณาเพิ่มจำนวนกำลังพลจาก 182,000 ขึ้นเป็น 185,000 นาย ในกฎหมายกลาโหมฉบับต่อไป โดยกองกำลังที่เพิ่มขึ้นนี้จะเน้นความสามารถพิเศษด้านการป้องกันภัยทางไซเบอร์เป็นหลัก

ซึ่งหน่วยบัญชาการกองกำลังทางไซเบอร์ของนาวิกโยธิน จะมีทั้งกำลังพลและพลเรือนทำงานกว่า 1,000 คน และการเพิ่มจำนวนในครั้งนี้เป็นการเพิ่มจำนวนมากกว่าที่เคยมีมาก่อน

Robert กล่าวต่อว่า เขาอาจต้องดึงกำลังพลจากแนวหน้าที่มีทักษะมาฝึกอบรมการรบทางไซเบอร์ด้วย เพราะทหารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ทำงานด้านการสื่อสารหรือเป็นสายลับอยู่ก่อนหน้านี้

ปัจจุบันหน่วยนาวิกโยธินไม่ได้มีตำแหน่งทหารที่มีทักษะพิเศษสำหรับทำสงครามไซเบอร์โดยเฉพาะ นั่นคือ ทหารยังไม่ได้รับการอบรมให้สามารถจู่โจมและเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ของศัตรูได้ ทำได้เพียงแค่วิเคราะห์หาข้อมูล และป้องกันเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของตัวเองเท่านั้น และการเพิ่มกำลังพลในหน่วยกองกำลังไซเบอร์ครั้งนี้จึงมีการมองหาพลเรือนภายนอกที่เป็นแฮกเกอร์หมวกขาว และผู้ที่ทำงานด้านความปลอดภัยมาทำงานเพิ่มด้วย เนื่องจากการเปิดรับผู้ที่มีทักษะโดยตรงจะง่ายกว่าการฝึกอบรมทหารตั้งแต่ต้น