คำพูดที่ที่ว่าไม่มีใครแก่เกินที่จะเรียนรู้ถ้าจะจริงเสียแล้ว หลังล่าสุดวงการ สตาร์ทอัพ ต้องสะเทิอนด้วยสุดยอดแนวคิดจากพลังคนรุ่นใหญ่วัย 50+ ที่โดดเข้าวงการโชว์ศักยภาพพลังของวัยเก๋า แต่จะเป็นอะไรกันบ้างลองไปอ่านกันเลย…
highlight
- นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ไม่ใช่เรื่องของคนรุ่นใหม่ เท่านั้น เพราะเพียงแค่มีแนวคิด และใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามารวมผสานกันก็จะได้สิ่งใหม่ ๆ เหมือนเช่นเดียวกับสิ่งที่ สตาร์ทอัพ 3 ราย ที่ไม่ปล่อยให้อายุท่ีเกิน 50 มาเป็นสิ่งกีดขวางในการสร้างสรรค์จนออกมาเป็น ธุรกิจ ได้
สตาร์ทอัพ วัย 50+ มาแล้ว!! รุ่นเล็กหลีกทางหน่อย
เอาจริง ๆ หลังจากที่ได้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวนี้ทำเอาผู้เขียนถึงกลับอดใจไม่ไหวว่า มีคนอายุ 50 อัพ สนใจในวงการ “สตาร์ทอัพ” (Start-Up) มากขนาดไหนกันเชี่ยว แต่หลังจากที่ได้พูดคุย ก็ถึงต้องเปลี่ยนความคิด เพราะแต่ล่ะท่านไม่ธรรมดาจริง ๆ
ก่อนอื่นเราคงต้องงยอมรับว่ายุคนี้เป็นยุ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังผั
ซึ่งในยุคที่พลเมืองสูงวัยกำลั
สตาร์ทอัพแดนใต้วัยเก๋า ผู้พัฒนาระบบเพาะพันธุ์ตัวอ่อนปลิงขาวบนบก พร้อมการจ้างงานกว่า 200 อัตรา
เริ่มจาก ระบบเพาะพันธุ์ตัวอ่
โดย ลือพงษ์ อ๋องเจริญ เล่าว่า ได้พัฒนานวัตกรรมระบบปิดสำหรับการเพาะพันธุ์และเลี้ยงตัวอ่อนปลิงขาวบนบกแบบครบวงจรขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการลดลงของปลิงขาวซึ่งเป็นทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญของจังหวัดสตูล พังงา ระนอง และตรัง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤติ ปริมาณที่ชาวประมงจับได้ลดลงไปถึง 90%
เมื่อเทียบกับในอดีต สาเหตุมาจากทั้งขาดการอนุรักษ์ การเก็บมาจำหน่ายแบบไม่ควบคุม เนื่องจากราคาขายที่สูงถึงกิโลกรัมละ 2,500 บาท รวมถึงความต้องการในกลุ่มผู้บริโภคต่างชาติทั้งจีน ฮ่องกง เกาหลี และไต้หวัน ที่นิยมบริโภคเพราะความเชื่อเกี่ยวกับการรักษาโรคบางชนิด และการเพิ่มสมรรถทางเพศ
บริษัทจึงได้พัฒนานวัตกรรมดังกล่าวมาทั้งสิ้น 2 ปี โดยใช้วิธีการกระตุ้นให้เกิดการวางไข่ตามเวลาที่ต้องการการกระตุ้นด้วยความร้อน การใช้ความกดดันน้ำ การใช้วิธีทำให้แห้ง และการกระตุ้นโดยใช้อาหาร ซึ่งควบคุมปัจจัยด้าน ความเค็มของน้ำ อุณหภูมิ แสง อาหาร และวัฏจักรของดวงจันทร์
ซึ่งการเลี้ยงในระบบนี้จะเพิ่มอัตราการรอดของลูกปลิงขาวจากไข่ถึงลูกปลิงวัยอ่อนประมาณ 50% เมื่อเปรียบเทียบกับอัตรารอด 0.01%-0.05% ในแหล่งน้ำทะเลธรรมชาติ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมการปล่อยคืนสู่ทะเลเพื่อเพิ่มปริมาณปลิงขาวในทะเล เป็นทรัพยากรประมงพื้นถิ่นให้กับชาวประมงในพื้นที่ในอนาคต
ก่อให้เกิดการจ้างงานได้กว่า 200 อัตรา และยังทำให้มูลค่าของปลิงขาวเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ถึง 7,000 บาท ต่อกิโลกรัม เลยทีเดียว และแม้จะดำเนินกิจการดังกล่าวมาได้เพียง 2 ปี แต่ท่านได้ใช้องค์ความรู้ประสบการณ์จากการรับราชการกรมป่าไม้ ที่รู้ถึงจุดเด่นจุดด้อย
ปัจจัยสิ่งแวดล้อม และปัญหาของชุมชนในจังหวัดสตูลทั้งหมด 10 ปี มาบริหารจัดการธุรกิจอย่างเป็นระบบ นำนโยบายรัฐบาลยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเพราะรู้ว่าชุมชนเราประสบปัญหาด้านใด อย่างเช่น ก่อนที่จะส่งเสริมให้เพาะปลิงขาวทะเล ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำบ่อกุ้งกัน ผลผลิตและงบประมาณที่ใช้ก็มีเยอะกว่า
ความเสี่ยงด้านการตลาดก็มีมากกว่า จากการที่ได้อยู่กับชาวบ้านและทำงานเชิงพื้นกับชุมชนเราจึงได้ดึงศักยภาพปรับเปลี่ยนให้ชาวบ้านหันมาเพาะพันธุ์ปลิงทะเลขาวกันมากขึ้นเนื่องจากใช้เวลาน้อยกว่า เลี้ยงง่าย และสร้างมูลค่าได้มากกว่า
Buildon โปรแกรมประเมินศักยภาพพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน
เราอาจจะเคยได้ยินกันว่ามรดกทางวัฒนธรรม นั้นมีมูลค่า และประเมินค่าไม่ได้ แต่ใครจะคิดว่ามีคนคิดว่ามันสามารถประเมินมูลค่าให้กับศิลปะวัฒนธรรมได้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนหันมาอนุรักษ์ และยอมลงทุนบำรุงรักษา เพื่อรักษาสิ่งที่เป็นมรดกของชาติเอาไว้
โดยท่านที่กล่าวคือ ฟูปัญญา ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวดอน จำกัด ซึ่งในวัย 50 ปี ท่านเล่าว่า จุดมุ่งหมาย หรือเป้าหมายคือการ ตอบโจทย์การปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นกว่าแพลตฟอร์มของหน่วยงานภาครัฐที่ใช้ในปัจจุบัน
โดยอาศัยเทคโนโลยี Web/Mobile application มาช่วยคิดวิเคราะห์ระดมความคิด ประเมิน และระดมการลงทุนเพื่อยกระดับแหล่งโบราณคดี โดยได้นำร่องไปที่ เมืองเก่าศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ศาลากลางเดิม จังหวัดลำพูน และเมืองน่าน จังหวัดน่าน
และนำเม็ดเงินที่ได้ไปแก้ไขปัญหา และปรับปรุงให้เกิดประโยชน์จากอัตลักษณ์ วัฒนธรรมของชุมชน โดยการใช้นวัตกรรมในการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถใช้สำหรับประเมินศักยภาพในเชิงพื้นที่ การระดมความคิดเห็นพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและสังคมและระดมทุนเพื่อหากำไรในอนาคต
โดย ฟูปัญญา ว่องไววิทย์ ยังให้ความเห็นอีกว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ซึ่ง 30 ปีที่ตนทำงานด้านนี้มา ได้เอาประสบการณ์โดยตรงจากการเป็นสถาปนิกอนุรักษ์มาปรับกับการพัฒนาธุรกิจให้ตอบสนองต่อความต้องการทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะถ้าไม่ใช่คนที่ทำงานด้านนี้โดยตรงก็จะไม่เข้าใจ และไม่เข้าถึงแก่น
หรือไปถึงปัญหาในระดับที่จะสามารถตอบโจทย์ของโครงการได้จริงๆ นอกจากนี้ ข้อได้เปรียบของการเป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหญ่ที่ต่างจากสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ก็คือ การมีประสบการณ์ที่ตรงและยาวนานจะช่วยให้มองเห็นถึงปัญหาต่างๆ และนำมาแก้ไข
ซึ่งแน่นอนว่าคนรุ่นใหม่จะต้องอาศัยเวลาในการ หาประสบการณ์ต่างๆ การเรียนรู้ที่มีการผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าจะมีความเชี่ยวชาญ ส่วนคนที่เป็นรุ่นใหญ่หรือมีประสบการณ์แล้วก็จะสามารถจัดระเบียบ วางแผนการทำงานหรือการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
ประสบการณ์ Recruit คนกว่า 20 ปี สู่ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม The Job ช่วยหางานง่ายเพียงปลายนิ้ว
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของการใช้ประสบการณ์ มาผสานรวมเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัล ทำให้ คนหางาน และบริษัทฯ หาคน เจอกันอย่างง่าย ๆ แต่เพียงปลายนิ้ว โดย วิยะดา ฐานวีร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะจ็อบ จำกัด วัย 50 ปี เล่าว่า The Job เป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้คุ
แตกต่างจากแต่ก่อนที่เราต้องมานั่งเซิร์ชหางานเอง เพียงลงประวัติไปในระบบก็สามารถจับคู่งานที่เราต้องการ ไม่ใช่แค่คนที่หางาน แต่คนที่กำลังหาลูกจ้างก็สามารถหาลูกจ้างได้เช่นกัน โดยจะระบบจะหาและจับคู่ (Match) ทั้งลูกจ้างและงานที่เราอยากได้ไว้ด้วยกัน
ซึ่งสามารถระบุความต้องการ โลเคชั่นในการทำในงาน และสามารถเซิร์ชหาทุกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับงานโดยไม่ขาดตกแม้แต่งานเดียว ทั้งนี้ ระบบของ The Job ยังช่วยให้การหางานไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของใครของมัน แต่ยังสามารถแชร์งานที่เราได้ให้กับเพื่อน ๆ
หรือแนะนำแชร์ข้อมูลต่างๆภายใต้โปรไฟล์ ที่หน้าจะตาจะคล้ายๆกับเฟสบุ๊คในการแชร์เรื่องราวการทำงาน สมัครงาน การเตรียมตัวหรือเป็นการพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้วิเคราะห์ว่า ใน 1 ปี จะมีเด็กจบใหม่อยู่ประมาณ 4 แสนคน ซึ่งระบบ The Job จะเข้ามาช่วยลดอัตราการว่างงานได้ถึง 20%
โดยตนได้ทำงานด้านการ recruit คนมามากว่า 20 ปี จึงทำให้ได้เห็นปัญหาของคนสมัครงาน และการจ้างงาน จึงเข้าถึงคนที่ประสบปัญหาและเข้าไปแก้ไขอุปสรรคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ข้อดีของการเข้ามาเป็นสตาร์ทอัพรุ่นใหญ่ก็คือ รู้ว่าผู้ใช้งานของเรามีความต้องการแบบไหน รู้ว่าเขาตามหาสิ่งไหนเป็นพิเศษ
จึงเป็นข้อได้เปรียบในการเจาะกลุ่มเป้าหมายและความต้องการได้ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการเปิดรับความคิดเห็น ไอเดีย หรือมุมมองจากเด็ก รุ่นหลังๆ เนื่องจากกลุ่มคนพวกนี้มีความคิดสร้างสรรค์ และก้าวทันเทคโนโลยีเป็นอย่างดี เราจึงต้องเปิดรับเด็กรุ่นใหม่เข้ามาช่วยทำให้ระบบจับคู่งานอัจฉริยะของ The Job มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
รุ่นใหญ่ ไม่แพ้ รุ่นใหม่!!
จากการสอบถาม ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่
ซึ่งในความเป็นจริง “ผู้ประกอบการรุ่นใหญ่” ก็มีแนวคิดการทำธุรกิจนวัตกรรมที่สร้างสรรค์และตอบโจทย์สังคมไม่แพ้กับ “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่” อีกทั้งยังมาพร้อมกับประสบการณ์ และคอนเนคชั่น ทำให้โมเดลธุรกิจของพวกเขานั้นมีความน่าสนใจ เป็นประโยชน์ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การสร้างคุณค่าให้กับสังคม
ต่อเนื่องไปจนถึงการสร้างงานสร้างอาชีพ นอกจากนี้ ยังพิสูจน์ให้เห็นอีกว่าอายุที่มากขึ้นไม่ใช่อุปสรรคหรือปัญหาในการเริ่มต้น เพราะเพียงแค่รู้จักสรรหาโอกาสและเติมช่องว่างที่ยังขาดก็สามารถประสบความสำเร็จได้ชนิดที่ไม่มีคำว่า “สายเกินไป”
อย่างไรก็ตาม มีผู้ประกอบการหลายคนอาจจะกลัวเรื่องของการทำเริ่มต้นทำธุรกิจเมื่อตอนที่อายุมากขึ้น แต่ข้อดีของการทำธุรกิจในวัยเก๋าจริงๆแล้วก็มีความน่าสนใจหลายประการทั้ง การมีองค์กรภาครัฐและเอกชนที่ช่วยสนับสนุนและเตรียมพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
เช่น หน่วยงานด้านส่งเสริมผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน มีความกล้าตัดสินใจและเผชิญกับปัญหา เนื่องด้วยเป็นวัยที่ผ่านการเรียนรู้และการตัดสินใจอะไรมามาก รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรทำให้ตัดสินใจทันทีโดยไม่ลังเล นอกจากนี้ ยังมีข้อได้เปรียบในการรู้จักคนที่กว้างขวางกว่า ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของการทำธุรกิจ
เช่น พันธมิตร หุ้นส่วน ที่ปรึกษา และอดีตเพื่อนร่วมงานในหลากหลายสาขา รวมทั้งการมีประสบการณ์ทั้งการดำเนินชีวิต การทำงาน และผ่านการรู้จักกลุ่มบุคคลในหลากหลายประเภท ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
และวันนี้ผู้ประกอบการรุ่นใหญ่ที่มีแนวคิดการทำธุรกิจนวัตกรรมเจ๋งๆไม่แพ้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยกลุ่มคนต้นแบบเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนจาก NIA เช่นเดียวกัน ในอีกแง่มุม ถือเป็นประโยชน์ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การสร้างคุณค่าให้กับสังคม ต่อเนื่องไปจนถึงการสร้างงานสร้างอาชีพที่ไม่จำกัดเรื่องวัยอีกด้วย
ในโอกาสครบรอบขวบปีที่ 10 ของการเป็นองค์การมหาชน NIA มุ่งเดินหน้าสู่การเป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนบริษัท องค์กร และหน่วยงานต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบนวัตกรรมของประเทศ ผ่านกลไก และการประสานงานให้เกิดการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในฐานะผู้ประสานระบบ (System Integrator)
เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการได้รับการสนับสนุนให้กับเยาวชน นักศึกษา ผู้ประกอบการ และผู้สนใจการพัฒนานวัตกรรมทุกระดับ นอกจากนี้ ยังมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ INNOVATION NATION หรือประเทศแห่งนวัตกรรมอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่