บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (ABeam) กางแผนธุรกิจเตรียมลุยทำตลาดไทยเต็มรูปแบบ หลังธุรกิจบริษัทที่ปรึกษาเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมีแนวโน้มเติบโต พร้อมตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง ภายใน 3 ปี ระบุปีที่ผ่านมา มีรายได้ 600 ล้านบาท และภายในปี 2561 คาดเพิ่มเป็น 700 ล้านบาท
ABeam ประกาศพร้อมช่วยองค์กรไทยเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เผยตลาดไทยมีศักยภาพสำหรับธุรกิจที่ปรึกษาธุรกิจที่จะช่วยองค์กรพลิกโฉมธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยภาคเอกชนในทุกอุตสาหกรรมให้ความสำคัญเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ดิจิทัล
บวกกับมีปัจจัยหนุนจาก รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายเดินไทยแลนด์ 4.0 ระบุปีที่ผ่านมา มีรายได้ 600 ล้านบาท โดยในปี 2561 ตั้งเป้ามีรายได้เติบโตเป็น 700 ล้านบาท ชี้ธุรกิจบริษัทที่ปรึกษามีแนวโน้นเติบโตจากการช่วยลดช่องว่างเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
กางแผนธุรกิจเตรียมลุยทำตลาดไทยเต็มรูปแบบ จับกลุ่มลูกค้าบริษัทญี่ปุ่น บริษัทไทย และบริษัทข้ามชาติ ตั้งเป้าขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง ภายใน 3 ปี
อิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในยุคดิจิทัลทำให้มีคู่แข่งทางธุรกิจมาจากทุกทิศทาง และการก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลก็ไม่ได้เป็นเรื่องของอนาคตอีกต่อไป โดยบริษัทต่าง ๆ เริ่มมีการเชื่อมต่อเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ คู่แข่งสำคัญก็คือ สภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัล โดยผู้บริโภคมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจทางธุรกิจเสมือนเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้วงจรธุรกิจหรือวงจรผลิตภัณฑ์มีอายุที่สั้นลงมาก ฉะนั้น การก้าวผ่านคลื่นความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
องค์กรธุรกิจต้องระบุคู่แข่งทางธุรกิจให้ถูกต้อง นำเทคโนโลยีมาใช้ เพิ่มมูลค่าของข้อมูล สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และมีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ เรากำลังปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างอยู่มากกว่าจะเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล
“เอบีม คอนซัลติ้ง ไม่ใช่ผู้ให้บริการที่ปรึกษารายใหม่ แต่เราคือ บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจสัญชาติญี่ปุ่นที่ก่อตั้งมากกว่า 20 ปี และมีสาขาไปทั่วโลก อีกทั้งมีผลงานที่น่าเชื่อถือ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นรายใหญ่อยู่ในทุกอุตสาหกรรม”
บางบริษัทสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในด้านข้อมูลทางธุรกิจอย่างชาญฉลาด ขณะที่หลายบริษัทต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่ การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ และอื่น ๆ ซึ่งการใช้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้
ธุรกิจจำนวนมากได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากที่มุ่งเน้นกำไรจากสินค้าและบริการ ไปสู่การเป็นแพลทฟอร์ม และใช้ประโยชน์จากข้อมูล รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานหลักด้วยกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เช่น บริษัท จีอี และ โคมัตสึ ได้เปลี่ยนผ่านธุรกิจจากการขายสินค้าและบริการมาเป็นดิจิทัลแพลทฟอร์มในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดีในประเทศไทยมีความตื่นตัวขับเคลื่อนธุรกิจและอง์กรเข้าสู่ดิจิทัล 4.0 โดยขณะนี้ภาคเอกชนให้ทุกอุตสาหกรรมให้ความสำคัญและวางเป้าหมายปรับเปลี่ยนองค์กรในขณะที่รัฐบาลยังคงมีเป้าหมายเดินหน้าประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยหนุนให้แต่ทุกภาคธุรกิจตื่นตัวและกำลังเรียนการปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อเป็นองค์กรดิจิทัล
ทั้งนี้ส่งผลให้มองหาบริษัทที่ปรึกษาเข้าไปช่วยลดช่องว่างและเปลี่ยนผ่านโมเดลธุรกิจไปสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งเอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) ให้บริการที่ปรึกษาหลากหลายด้าน โดยบริการหลัก ๆ ได้แก่
ด้านกลยุทธ์ และการดำเนินงาน (Strategy & Operations) บริการที่ปรึกษาในการพัฒนากลยุทธ์ การบริหารจัดการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ การปรับปรุงระบบการดำเนินงาน การวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการควบคุมให้มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการบริหารความเสี่ยง
ที่ปรึกษาผู้บริหารระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (CIO Advisory) บริการที่ปรึกษาวางแผนกลยุทธ์ด้านไอที การบริหารโครงการสำหรับเชื่อมต่อระบบ Non-SAP การใช้ไอที (IT) ในกระบวนการทางธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนการสร้างสรรค์และดำเนินกลยุทธ์ในการใช้บริการไอที (IT) จากหน่วยงานภายนอก
โซลูชั่นองค์กรแบบบูรณาการ (Integrated Enterprise Solution) – บริการที่ปรึกษาการติดตั้งโซลูชั่นล่าสุด SAP S/4HANA การอัพเกรดระบบ SAP การเพิ่มฟังก์ชันของระบบ SAP เดิม และการวางระบบ SAP มาตราฐานสากล มีสัดส่วน
การบำรุงรักษาแอพพลิเคชั่นองค์กรภายนอก (Application Maintenance Outsourcing) จัดหาผู้ให้บริการด้านการบำรุงรักษาแอพพลิเคชั่น และขบวนการทางธุรกิจ การติดตั้งระบบการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ และการวางระบบคลาวด์
ขยายองค์กรรองรับความต้องการตลาดไทย
ด้าน สุปรีดา จิรวงศ์ศรี ผู้บริหารระดับสูง บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 600 ล้านบาท และในปีนี้ ตั้งเป้ามีรายได้เติบโต 700 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวโน้มการเติบโตที่น่าจับตา และยังตั้งเป้าหมายขึ้นเป็นเบอร์ 1 บริษัทที่ปรึกษาในประเทศไทย โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่สำนักงานอีกเท่าตัว พร้อมจะคัดเลือกที่ปรึกษาที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นจาก 200 คนเป็น 400 คน
ภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้บริษัทฯ มีความพร้อมรองรับความต้องการด้านการปรึกษาธุรกิจจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ในธุรกิจไฟแนนซ์, ลิสซิ่ง,ยานยนต์,และธุรกิจอาหาร เน้นกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นที่มีสาขาในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทขนาดใหญ่ของไทย และบริษัทข้ามชาติ
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่