อินเตอร์ลิงค์ (Interlink)เดินหน้าจัดโครงการ Cabling Centest ต่อเนื่อง พร้อมคัดเลือกนักศึกษาจากเวที ส่งชิงแชมป์ในเวทีในระดับอาเซียน (World Skill Asian) และเตรียมต่อยอดแชมป์สู่เวทีระดับโลก (World Skills) ต่อเนื่อง...
highlight
- นักศึกษาจากสถาบันวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Technological College หรือ netc) คว้าแชมป์จากเวทีการแข่งขันสุดยอดฝีมือสายสัญญาณปี 7 (Cabling Contest 2019) พร้อมคว้าถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท และเป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน Asean Skills และ World Skills
- หากพิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่าหลาย ๆ โครงการของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เมืองอัจริยะ (Smart City) หรือการผลักดันให้เกิดการใช้ข้อมูล (Big Data) เพื่อต่อยอดสู่โอกาสใหม่ ๆ ก็ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีอย่างสายสัญญาณแทบทั้งสิ้น แน่นอนว่าการที่ตลาดมีความต้องการในด้านโครงสร้างพ้ืนฐานสายสัญญาณ
เผยโฉมหน้าผู้ชนะ Interlink Cabling Centest ปีที่ 7
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคของดิจิทัลมากขึ้น ทำให้ความต้องการในด้านโครงสร้างพิ้นฐานทางดิจทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี แต่ปัจจัยที่สำคัญปัญหาที่สำคัญที่สุดในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยังคงติดอยู่ที่การขาดแคลนฝีมือแรงงานที่มีทักษะมากเพียงพอกับความต้องการ
ณัฐวุฒิ ปิ่นทองคำ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิ
จัดโครงการการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะสายฝีมือสายสัญญาณมาอย่างต่อเนื่องจนก้าวสู่ปีที่ 7 โดยมุ่งหวังให้เป็นเวทีในการพัฒนาศักยภาพ นักเรียน นักศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับอาชีวะศึกษา จากทั่วประเทศ ที่มีความสนใจในด้านสายสัญญาณ (Networks Cabling)
ได้เพิ่มพูนทักษะฝีมือได้ตามมาตราฐานทัดเทียมกับนานาประเทศ ซึ่งจากการคัดเลือกตัวแทนจากทุกภาค เพื่อเข้าแข่งขันรอบสุดท้าย และชิงถ้วยพระราชทาน พร้อมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 400,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งขันในเวทีระดับโลกอย่าง World Skill Asian และ World Skills
โจทย์ยากขึ้น เพื่อยกระดับให้เท่าทันระดับโลก
สำหรับรูปแบบของการแข่งขันเราได้ตั้งโจทย์ให้มีความยาก สอดรับกับเวทีการแข่งในระดับโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้เรียนรู้ และพัฒนาทักษะได้อย่างทัดเทียม โดยโจทย์ก็ยังคงเเบ่งเป็นทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติเช่นเดิม อาทิ การแข่งขันหัวต่อกับสายสัญญาณ LAN, การแข่งขันหัวต่อกับสาย Coaxial เป็นต้น
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าเยาวชนในประเทศไทยยังมีความแตกต่างกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งประทศอย่างเวียดนาม หรือสิงค์โปร์ นั้นมีการสนับสนุนกันอย่างจริงจัง ทำให้เยาวชนมีทักษะที่ดีกว่า ประเทศไทย แต่ไม่ได้หมายความว่าเยาวชนไทยไม่เก่ง
เนื่องจากเยาวชนไทยที่เคยเข้าแข่งขันในรุ่นก่อน ที่มีโอกาสไปแข่งในเวทีระดับโลก ก็สามารถทำผลงานได้ดี ได้รับรางวัลชมเชย แต่ยังไม่ถึงกับระดับแชมป์เท่านั้น ส่วนหนึ่งของความแตกต่างนี้เกิดขึ้นจากความพร้อมที่เยาวชนไทยมีน้อยกว่า
โดยเยาวชนไทยที่ อินเตอร์ลิ้งค์ ได้คัดเลือกจากเวทีแข่งขันในระดับภูมิภาค ก่อนจะมาแข่งในเวทีสุดท้ายมีความไม่เท่ากัน เนื่องจากอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ฝึกฝีมือทักษะสายสัญญาณนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างมีราคาสูง ทำให้สายสถาบันที่ต้องการส่งเยาวชนไม่มีงบเพียงพอต่อการที่จะซื้ออุปกรณ์ไปให้เยาวชนที่เป็นนิสิตนักศึกษา
ภายในสถาบันของตนให้ได้ฝึกให้คุ้นเคย และเชี่ยวชาญได้ แต่สถาบันต่าง ๆ ก็มีความพยายามที่จะฝึกอบรม อย่างต่อเนื่องทำให้เยาวชนที่เข้าร่วมเริ่มมีทิศทางของทักษะดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่ผ่านมา อินเตอร์ลิ้งค์ เองก็พร้อมที่ช่วยเหลือมาตลอดด้วยการ จัดแคมปัสทัวร์เพื่อมอบความรู้ ต่อเนื่องมาตลอดในทุก ๆ ปี
ร่วมไปถึงการลดราคาอุปกรณ์ให้แก่สถาบันที่ต้องการนำอุปกรณ์ไปพัฒนาทักษะให้แก่เยาวขนภานในสถาบัน อย่างไรก็ดีจากโครงการที่เราได้ทำมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดความตื่นตัวมากขึ้นในหมู่ของสถาบัน ทำให้มีสถาบันที่เข้ามาเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 20% จากสถาบันเดิมที่เคยส่งเข้าแข่งขันต่อเนื่อง
ซึ่งในการแข่งขันสุดยอดฝีมือสายสัญญาณปี 7 (Cabling Contest 2019) ในปีนี้หลังที่เยาวขนที่เข้าแข่งขัน และผ่านการสอบที่เข้มข้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่า ผู้ชนะเลิศได้แก่
นายนัฐพล เทียบชัยภูมิ สถาบันวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน Asean Skills และ World Skills
ขณะที่ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นายณรงค์ฤทธิ์ พูลสวัสดิ์ สถาบันการอาชีพนครศรีธรรมราช โดยได้รับถ้วยเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท
และ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นางสาวชื่นนภา มีพูล สถาบันวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ โดยได้รับถ้วยเกียรติยศจากรัฐมนตรีว่ากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท
ตลาดยังขาดคน แต่ทักษะของผู้ให้บริการไม่เท่ากัน
ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา แม้ว่า อินเตอร์ลิ้งค์ จะพยายามสร้างบุคลากรผ่านโครงการนี้มาตลอด แต่ต้องยอมรับว่าก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะในยุคที่เรื่องของโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญอย่างทุกวันนี้
ซึ่งหากพิจารณาให้ดีก็จะเห็นว่าหลาย ๆ โครงการของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เมืองอัจริยะ (Smart City) หรือการผลักดันให้เกิดการใช้ข้อมูล (Big Data) เพื่อต่อยอดสู่โอกาสใหม่ ๆ ก็ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีอย่างสายสัญญาณแทบทั้งสิ้น แน่นอนว่าการที่ตลาดมีความต้องการในด้านโครงสร้างพ้ืนฐานสายสัญญาณ
ทำให้เกิดผู้ให้บริการขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ให้บริการทีมีอยู่ส่วนใหญ่ไม่มีบุคลากรที่มีทักษะฝีมือได้มาตราฐาน และส่งผลทำให้เกิดความเสียหายให้แก่ภาคธุรกิจจำนวนมาก เพราะต้องลงทุนใหม่เพื่อแก่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการวางโครงสร้างสายสัญญาณที่ไม่ได้มาตราฐาน
หากประเมินค่าความเสียหายในภาพรวม ก็จะพบว่าองค์กรที่ต้องวางระบบโครงสร้างใหม่ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม นั้นต้องใช้งบรวมกว่า 30-40 ล้านบาท เลยทีเดียว ซึ่งมองให้ดีประเด็นนี้ถือเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างมากที่สกัดกันไม่ให้ประเทศสามารถพัฒนาได้ตามเป้าหมายของรัฐ
ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำให้เกิดความสามารถในการแข่งขันที่ทัดเทียมกับนานาประเทศ และเป็นเหตุผลที่ อินเตอร์ลิ้งค์ พยายามจัดการแข่งขันพัฒนาทักษะฝีมือสัญญาณมาตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่า อินเตอร์ลิ้งค์ จะพยายามสนับสนุน และพลักดัน เต็มที่ก็สามารถทำได้เพียงในขอบเขตที่จำกัด
โดยโครงการแข่งขันสุดยอดฝีมือสายสัญญาณปี 7 (Cabling Contest 2019) ในแต่ล่ะปีนั้นสามารถรองรับเยาวชนเข้าร่วมโครงการได้เพียง 50 ราย และจากเยาวชนผู้เข้าทั้งหมดก็มีเพียงบ้างส่วนเท่านั้นที่จะเข้าสู่ตลาดของฝีมือสายสัญญาณ เพราะเราเป็นองค์กรเอกชนเพียงรายเดียวที่ทำเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ตลาดต้องการแรงงานในด้านนี้มากกว่า 1 หมื่นราย แม้ว่าจะมีความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐหลาย ๆ หน่วยงานแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะสร้างคนให้ได้ความต้องการของตลาด
การสร้างสถาบันพัฒนาฝีมือสายสัญญาณยังดำเนินการต่อ
ในเรื่องของโครงการในการสร้างสถาบันพัฒนาฝีมือสายสัญญาณ ที่ อินเตอร์ลิ้งค์ เคยวางแผนไว้ ที่ยังไม่เกิด ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าด้วยการที่รัฐบาลยังไม่นิ่งในเรื่องของนโยบาย มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงที่ผ่านมา ทำให้โครงการนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากเท่าไร
แต่ อินเตอร์ลิ้งค์ ไม่อยากรอจึงเดินหน้าจับมือกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ ผ่านโครงการแคมปัสทัวร์แทน เพื่อให้เกิดแรงกระตุ้นในภาคการศึกษาโดยเฉพาะในส่วนของอาชีวะศึกษาที่เป็นสถาบันที่สร้างบุคลากรที่มีทักษะเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่แล้ว
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน : ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบ และข้อมูลบางส่วนจาก : www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ eleaderfanpage