Nutanix แนะองค์กรเตรียมปรับตัวรับความท้าทายในการจัดเก็บ และกู้ข้อมูล จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และความยุ่งยากในการบริหารจัดการผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์ (Cloud) ที่หลากหลาย…
highlight
- Nutanix เปิดตัวโซลูชันใหม่เพื่อการจัดการเรื่องของ Backup และ Recovery ในชื่อ “Mine” เพื่อให้องค์กรบริหารจัดการ Enterprise Cloud Platform ได้จากจุดเดียวโดยสามารถเข้าไปจัดการทั้ง Primary และ Secondary Storage ได้
Nutanix พร้อมช่วยองค์กรเตรียมรับมือความท้าทายในยุคของ “ข้อมูล”
ทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท นูทานิคซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจที่ทางการ์ทเนอร์ เราพบว่าปัจจจุบันมีองค์กรธุรกิจต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น ในการจัดเก็บสำรองข้อมูล และกู้ข้อมูล ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ แม้ว่าจะมีการวางงบประมาณในการลงทุนโครงสร้างพิ้นฐานเพิ่ม
แต่ปัญหาที่ที่ทแ้จริงคือค่าใช้จ่ายในการพัฒนาการจัดเก็บข้อมูลยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้องค์กรต่าง ๆ ไม่สามารถยกระดับความสามารถในการดำเนินงานผ่านศูนย์ข้อมูล (Data Center) ได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งรวมไปถึงการบริหารจัดการข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์ (Cloud)
นอกจากนี้จากรายงาน IDC InfoBrief ภายใต้หัวข้อ “ความอยู่รอด และการเติบโตในโลกของมัลติคลาวด์” (Surviving and Thriving in a Multi-cloud World) ซึ่งรายงานระบุว่าองค์กรขนาดใหญ่ในปัจจุบันมีการใช้ระบบมัลติคลาวด์เป็นเรื่องปกติ มีลูกค้าผู้ตอบแบบสำรวจน้อยกว่า 30% ที่ใช้งานคลาวด์เพียงระบบเดียว
ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้งานคลาวด์แพลทฟอร์มที่ไม่เหมือนกันผ่านผู้ให้บริการหลายราย การทำงานร่วมกันของข้อมูลและแอปพลิเคชั่นต่างๆ ระหว่างระบบคลาวด์ที่หลากหลายนี้ จึงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทว่าการทำให้แอปพลิเคชั่นใดๆ ขององค์กรไปใช้งานบนคลาวด์ที่แตกต่างกันได้อย่างอิสระเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดคลาวด์ได้อย่างเต็มรูป
แบบ ยังเป็นเรื่องที่องค์กรส่วนใหญ่ยังหลีกเลี่ยง และทำได้ยากในทางปฏิบัติ การเพิ่มความสามารถให้กับบริการต่างๆ ของนูทานิคซ์ที่จะกล่าวต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้บริการคลาวด์ต่าง ๆ ให้กับบริษัทที่กำลังแสวงหาวิธีการใช้สมรรถนะของมัลติคลาวด์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ด้าน สุรักษ์ ธรรมรักษ์ Systems Engineer Manager ของ นูทานิคซ์ กล่าวว่า วันนนี้เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน (Digital Disruptors) หรือการนำเอาเทคโนดลยีมาใช้ทำธุรกิจ อย่างเช่น การสร้างบริการที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีกับชีวิต ผ่านอุปกรณ์พกพาของตัวผู้บริโภค
และระบบที่ถูกสร้างขึ้นจาก บริษัทผู้ทำหน้าที่ส่งมอบโซลูชันส์ (System Integrator หรือ SI) ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่ในการสร้างโซลูชั่นอาจจะไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เลย ก็ได้ แต่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการใช้ข้อมูล (Data) ในด้านต่าง ๆ และใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ Automatiom, IoT, AI, ฯลฯ
และแน่นอนว่าการที่ธุรกิจต้องเก็บข้อมูลอย่างมหาศาล ทำให้องค์กรจำเป็นต้องให้บริการของเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud Computing) ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการจากผู้ให้บริการคลาวด์จากภายนอก (Public Cloud) หรือแม้แต่การสร้างคลาวด์ภายในองค์กร (Private Cloud)
หรือแม้แต่การใช้คลาวด์แบบลูกผสม (Hybrid Cloud) ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นแนวโน้มการใช้คลาวด์จากหลาย ๆ ผู้ให้บริการ มาใช้งานรวมกันเพื่อที่จะปรับให้เกิดความเหมาะสมกับประเภทของธุรกิจที่มีการทำอยู่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด จนเป็นรูปแบบที่เราเรียกว่า”มัลติ-คลาวด์” (Multi-cloud)
แต่สิ่งที่น่ากังวลคือการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่น หรือการใช้คลาวด์ที่หลากหลายกับมาพร้อมความเสี่ยงมากขึ้น เพราะจะสร้างให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยีในรูปแบบที่หลากหลายในองค์กรเอง และทำให้ฝ่ายไอทีขององค์กรไม่สามารถบริหารจัดการได้จากชุดเครื่องมือเพียงหนึ่ง
แถมยังจะทำให้องค์กรต้องเผชิญความยุ่งยากในการจัดการ และนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นองค์กรวันนี้จำเป็นต้องปรับกระบวนในการดำเนินธุรกิจในเรื่องของการวางแผนลงทุนในเร่ืองของโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการบริหารจัดการพื้นที่ที่เก็บข้อมูลเพื่อสร้างการใช้งานที่เหมาะสมต่อหนึ่งโครงการการใช้งาน
ด้วยโซลูชั่นนูทานิคซ์ ไมน์ (Mine) ลูกค้าจะสามารถผนวกรวมการดำเนินงานการสำรองข้อมูลร่วมกับแพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับองค์กรของ นูทานิคซ์ (Nutanix Enterprise Cloud Platform) เพื่อให้บริการสำรองข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันทั้งหมด การทำงานร่วมกันระหว่าง ไมน์ และดาต้าแฟบริค HCI และหน้าจอบริหารจัดการ Prism โซลูชั่นไมน์จะสามารถ
- ลดความซับซ้อนในการสำรอง และกู้คืนข้อมูล ดังนั้น องค์กรจึงสามารถบริหารจัดการแหล่งจัดเก็บข้อมูลสำรองได้อย่างง่ายดายเทียบเท่ากับการจัดการแหล่งจัดเก็บข้อมูลหลัก
- ทำให้กระบวนการสำรองข้อมูลแบบครบวงจร ทั้งในด้านการจัดหา ทดสอบ ติดตั้ง และเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานโซลูชั่นอย่างเต็มรูปแบบ เป็นเรื่องง่าย
- สามารถปรับขยายระบบจัดเก็บข้อมูลหลัก และแหล่งจัดเก็บข้อมูลสำรองได้ง่าย และเป็นมาตรฐานวิธีการแบบเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องต่อผลการดำเนินงานและการเติบโตของธุรกิจ
ยกทัพโซลูชั่นเพื่อองค์กรลงตลาดไทย
ล่าสุดเพื่อช่วยให้องค์กรบรหารจัดการความหลากหลายของระบบ คลาวด์ที่ใช้อยู่ในองค์กร นูทานิกซ์ จึงได้พัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่สามารถช่วยองค์กรในประเทศไทยสามารถควบคุมปริมาณการใช้งาน คลาวด์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านหน้าจอควบคุมเดียว โดยเป็นโซลูขั่นที่ยกมาจากงาน NUTANIX.NEXT 2019 งานประจำปีของนูทานิกซ์ ที่สหรัฐอเมริกา อาทิ
นูทานิกซ์ Mine แพลตฟอร์มสำหรับระบจัดเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) ที่ลดความยุ่งยากจากสถาปัตยกรรมที่ ซับซ้อน และค่าใช้จ่ายสูงในสภาพแวดล้อม การสำรองข้อมูล ทำให้องค์กรสามารถปกป้อง และกู้คืนข้อมูล ของตนเองได้รวดเร็ว และมีต้นทุนที่ต่ำกว่า
และบริหารจัดการผ่านหน้าจอ Prism ปกติ อีกทั้งยังสามารถ ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์แบ็คอัพชั้นนำ โดยได้เปิดตัวกับ Veeam เป็นอันดับแรก และจะสามารถทำงานร่วม กับ Veritas, Commvault, HYCU, UNITRENDS ได้ในอนาคต
More Hardware Support นูทานิกซ์ Enterprise Cloud ซอฟท์แวร์รองรับฮาร์ดแวร์ แพลทฟอร์มใหม่ทั้งจากการเป็นพันธมิตรกับ HPE, Fujitsu และ Huawei โดยลูกค้าสามารถเลือก แอพพลิเคชั่น นูทานิกซ์ ซึ่งผลิตจาก HPE ได้ หรือจะใช้ ฟูจิสึ OEM นูทานิกซ์ กับ Server Primergy ของตน เองซึ่งในภูมิภาคนี้จะเริ่มจำหน่ายได้ในช่วงปลายปีนี้
และทาง นูทานิกซ์ และ หัวเว่ย ได้ทำการ Certifies นูทานิกซ์ Software ให้กับ Server ของทาง Huawei นอกจากนี้ในปัจจุบันทาง Nutanix สามารถรองรับ Hardware ของทาง Lenovo, DellEMC, Cisco และ IBM ได้อยู่แล้ว
นูทานิกซ์ Xi FRAME ขยายการรองรับ Multi-Cloud ด้วย Nutanix FRAME VDI Solutions จากเดิมนั้น Nutanix มี CALM เป็นหัวหอกของ โซลูชั่นสำหรับการดูแลจัดการ และติดตั้งแอพพลิเคชั่น สำหรับ Cloud ที่แตกต่างกันทั้ง Private, Public Cloud ต่าง ๆ สำหรับ FRAME นั้นเป็นโซลูชั่น VDI ที่ออกแบบ
มาสำหรับผู้ใช้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่สามารถติดตั้ง และเข้าถึง VDI ขององค์กรจาก Cloud ต่างๆได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น On-Premise บน Nutanix Cluster, AWS หรือ Azure ได้ ซึ่งจุดเด่นของ FRAME นั้นผู้ใช้สามารถเข้า
ถึง VDI หรือแอพพลิเคชั่นขององค์กรอย่างปลอดภัยผ่าน ทาง Web-Browser ใดๆได้ด้วยประสิทธิภาพที่รวดเร็วไม่ ว่าจะเป็นการเข้าถึงผ่านทาง Wirless หรือ Internet ก็ตาม
นูทานิกซ์ Xi BEAM โดยขยายขีดความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยบน Multi-Cloud ด้วยความสามารถแบบ Real-Time Compliance Module ที่สามารถตรวจสอบช่องโหว่ที่เกิดขึ้นบนระบบ Cloud ที่องค์กรใช้อยู่แบบทันที
พร้อมคำแนะนำไม่ว่างานของ องค์กรจะอยู่บน Public หรือ Private และมี Free-Trial 60 วันให้ทดลองใช้งานได้แล้ววันนี้
นูทานิกซ์ Cloud Native กล่าวได้ว่าองค์กรที่นำ DevOps มาประยุกต์ใช้ได้ประสพความสำเร็จ เนื่องจาก “Cloud Native” Application มี ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งได้พัฒนาความสามารถเพิ่ม เติมเพื่อรองรับ Cloud Native Application
ได้แก่ นูทานิกซ์ Karbon ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง และบริหาร จัดการ Kubernetes Cluster ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีค่าใช้ จ่าย, นูทานิกซ์ Buckets ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถสร้างบริการ Object Storage ที่เป็นแบบ S3-Compatible
นูทานิกซ์ ERA นี่คือโซลูชั่นใการบริหารจัดการ Database ด้วย บริการ Database Provisioning and Lifecycle Management และ นูทานิกซ์ Epoch ซึ่งทำหน้าที่ในการ Discovery Mapping และ Monitor Service ของ Cloud Native Application ที่ ทำงานกระจายอยู่ทั้งบน On-Premise และ Public Cloud
นูทานิกซ์ Cluster on AWS ซอฟท์แวร์มรางสามารถทำงานบน Public Cloud อย่าง AWS ได้ ซึ่ง Nutanix Cluster ที่ประกอบไปด้วย AOS และ AHV ทำงานบน AWS EC2 Bare Metal instance ทำให้ไม่มี Overhead โดยไม่จำเป็น องค์กรจึงสามารถสร้าง Hybrid Cloud ได้อย่างแท้จริง
ทั้งหมดช่วยให้สามารถจัดสรรลำดับของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์ในการสำรองข้อมูลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองค์กร พร้อมยกระดับสภาพแวดล้อม และลดระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการจัดการแหล่งจัดเก็บข้อมูลสำรองลงได้
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่