รพ.สมิติเวช (Samitivej) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผ่านมือถือ (Mobile Health) แก้ปัญหา Pain Point ด้วยความเข้าใจในความต้องการของผู้รับบริการ…
สมิติเวช ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวั
และ Ward Tracking ที่สามารถวางแผนการรั
Samitivej พร้อมรับยุค Healthcare 4.0 ด้วยบริการผ่านมือถือ
นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม รพ.สมิติเวช และ รพ.บีเอ็นเอช กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการดูแลเรื่องสุขภาพ สมิติเวชจึงเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้รับบริการ รวมถึงพร้อมรองรับ Healthcare 4.0
ด้วยการให้บริการทางสุขภาพผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่สะดวก รวดเร็ว ครบ จบ ด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียว ตั้งแต่ก่อนมาโรงพยาบาล ขณะอยู่ในโรงพยาบาล และกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ด้วยความมุ่งมั่นมากว่า 3 ปี ในการพัฒนาระบบบนพื้นฐานของความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของผู้รับบริการทั้งผู้ป่วยและญาติอย่างแท้จริง
ภายใต้แนวคิด #เราไม่อยากให้ใครห่วง อาทิ ไม่อยากรอนานทั้งพบแพทย์ และชำระเงิน กังวลระหว่างเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล และเป็นห่วงญาติขณะผ่าตัด ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในการรับบริการของโรงพยาบาล
สำหรับบริการด้านสุขภาพต่างๆ ที่สมิติเวชให้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Health) ได้แก่
แอปพลิเคชัน สมิติเวช พลัส (Samitivej Plus) การรอนานทั้งการพบแพทย์ และจ่ายเงิน เป็นปัญหาใหญ่ของผู้รับบริการ แต่ด้วยแอปพลิเคชัน สมิติเวช พลัส ผู้รับบริการ สามารถ รู้ระบบคิว ชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว ผ่านสมิติเวช FastPay
ซึ่งอยู่ในแอปพลิเคชั่น และยังสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงินได้ที่จุด FastPay Station โดยระบบนี้ได้เชื่อมต่อกับระบบบิลของโรงพยาบาลทำให้ผู้ใช้บริการเห็นค่าใช้จ่ายและสแกนเพื่อชำระเงินได้ทันที หลังจากเปิดให้บริการไปตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ช่วยลดเวลาการรอคอยของผู้ใช้บริการได้กว่า 60%
Samitivej LINE Official Account การที่ผู้รับบริการเกิดความเจ็บป่วยหรืออยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพนั้น แต่ไม่รู้จะหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ สมิติเวชได้แก้ปัญหาของผู้รับบริการด้วยช่องทาง Official LINE @Samitivej
ที่สามารถตอบปัญหาสุขภาพได้ โดยตอบมาแล้วมากกว่า 300,000 ครั้ง จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้บริการร่วม 100,000 คน
ใช้ Apple เทคโนโลยี สมิติเวชได้พัฒนาเทคโนโลยีผ่าน Apple Platform ในการดูแลสุขภาพ ที่ไม่จำกัดเฉพาะในโรงพยาบาล ด้วยการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Apple’s HealthKit รวมถึงการพัฒนา Digital Experience อื่นๆ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้รับบริการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้สัมผัสในปี 2019
Samitivej PACE ครั้งแรกในไทยกับการดูสถานะการผ่าตัดผ่านโทรศัพท์มือถือ ช่วยให้ญาติคลายความกังวลขณะคนไข้อยู่ในห้องผ่าตัด และยังช่วยให้คนไข้ได้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัด ซึ่งญาติสามารถรับลิงค์ที่เป็นข้อมูลของผู้ใช้บริการได้โดยตรงผ่าน Official LINE @Samitivej
Ward Tracking เพื่อคลายความกังวลให้กับผู้รับบริการ และญาติ ให้ได้ทราบถึงกิจกรรมทางการพยาบาลขณะรักษาในโรงพยาบาล เป็นระบบที่ผู้รับบริการจะรู้แผนการรักษา ขั้นตอน และเวลาการทำหัตถการ สามารถวางแผนการรักษาและกำหนดเวลาร่วมกับแพทย์และทีม
และสามารถเลือกห้องพักได้ด้วยตัวเอง สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรักษา ทราบถึงแผนการรักษาและระยะเวลาการพักฟื้น เชื่อมต่อข้อมูลทางการรักษากับระบบเบิกจ่ายของบริษัทประกัน เพื่อความรวดเร็วในการบริการผู้รับบริการ
นอกจากนี้ข้อมูลที่จะถูกเชื่อมต่อด้วยการเชื่อมต่อลงทะเบียนผ่าน แอพพลิเคชั่นของเราฯ โดยที่ผู้ป่วยหรือญาติ จะต้องเป็นผู้กรอกรายละเอียดเอง ซึ่งเมื่อกรอกเสร็จจะมีการป้องกันด้วยไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าดูได้ มีเพียงผู้ที่มีรหัสผ่านเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าดูได้
อีกทั้งยังสามารถไว้วางใจได้ว่าข้อมูลของผู้ป่วยจะไม่ถูกแฮกบัญชี เนื่องจากทางเราไม่ได้เชื่อมโยงระบบผ่านกับผู้ให้บริการภายนอก แต่ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ในเครือ ซึ่งมีการวางระบบให้เป็นไปตามมาตราฐานความปลอดภัย และเรายังมีการใช้ระบบที่จะสามาถช่วยเสริมในการทำงานจากผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลก
และก้าวสู่ยุค Healthcare 4.0 ได้อย่างที่เราตั้งใจ ทำมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านแนวคิด ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น #เราไม่อยากให้ใครป่วย ซึ่งจากแนวคิดนี้เราสามารถลดความเสี่ยงการเป็นโรคไขมันพอกตับในเด็กอ้วนได้กว่า 44% โดยเราสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการด้วยการทำ FibroScan
และเรายังสามารถลดการเกิดของโรคหลอดเลือดสมอง ตีบ แตก ตัน ได้กว่า 80% โดยใช้การตรวจ Stroke Screening เพียงปีล่ะครั้ง และลดอัตราการตายจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้ถึง 53% หากได้รับการส่องกล้องตรวจเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป
ขณะที่แนวคิด #เราไม่อยากให้ใครรอ ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถไปทำธุระ หรือทำสิ่งอื่นได้โดยระบบคิวจะแจ้งเตือนเมื่อถึวคิว ไม่ว่าจะเป็น คิวตรวจ คิวชำระ ทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกมากขึ้น จนวันนี้เราได้เดินหน้าสานต่อความตั้งใจด้วยแนวคิด #เราไม่อยากให้ใครห่วง ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้บริการได้
และในอนาคตทาง รพ.สมิติเวช จะยังคงเดินหน้าต่อด้วยแนวคิด #เราไม่อยากให้ใคร…. อย่างต่อเนื่องโดยในปี 2562 จะเห็นอย่างน้อยอีก 2 แนวคิด
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของสมิติเวช ที่ผสานนวัตกรรมซึ่งวิเคราะห์จาก Pain Point ของผู้ใช้บริการ มารวมกันไว้ใน Smart Phone รูปแบบ Mobile Health ภายใต้คอนเซปต์ #เราไม่อยากให้ใครห่วง
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่