ในปัจจุบันเราได้หยิบเทคโนโลยี IoT มาใช้ในหลาย ๆ รูปแบบ ส่วนหนึ่งคือการนำเสริมประสิทธิภาพของกล้อง กลายเป็น เทคโนโลยีจดจำใบหน้า ที่จะช่วยความปลอดภัยและประสิทธิภาพในด้านต่างๆ
ลองนึกภาพเมื่อคุณเดินเข้าร้านขาประจำ แล้วพนักงานรู้ทั้งชื่อ ทั้งของที่คุณชื่นชอบ ทั้งสเปก และงบที่ลงตัว พร้อมเสนอโปรโมชันในสิ่งที่คุณอยากได้ หรือเมื่อคุณเดินเข้าโรงแรมแล้ว Reception รู้ลักษณะห้องพักโดยไม่ต้องถามคุณเลย เราจะรู้สึกดีแค่ไหน ทั้งหมดนี้ทำได้เพียงเดินเข้าไปให้กล้องเห็นเท่านั้น
ปัจจุบันเทคโนโลยีที่กล้องก้าวหน้าบวกกับราคาที่ถูกลง ทำให้มีการนำระบบมาใช้อย่างแพร่หลายเป็นอย่างมาก โดยทางบริษัทวิจัยอย่าง MarketsandMarkets ได้วิเคราะห์ว่า อัตราเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่มกล้องไอพีคาเมร่านี้เพิ่มขึ้นถึง 25% ต่อปี
โดยในปี 2563 จะมีมูลค่ารวมในตลาดทั่วโลกถึง 6.18 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเทคโนโลยีสำคัญนั่นคือ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ซึ่งมันจะไม่ถูกจำกัดเฉพาะด้านความปลอดภัย และไม่ได้อยู่เฉพาะที่สถานตรวจคนเข้าเมือง หรือสแกนหน้าก่อนเข้าออฟฟิศแต่เพียงอย่างเดียว แต่สามารถไปทำอย่างอื่นได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย
ลักษณะการใช้งานใหม่ที่กำลังฮอตฮิตคือ การนำมาใช้ในด้านการตลาดและวิเคราะห์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะการนำมาผสานการทำงานกับระบบการตลาดสำหรับปรับแต่งผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชันให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็ว
ทาง Axis.com ได้ออกมาวิเคราะห์ไว้ว่า เราควรเริ่มตื่นตัวในการใช้เทคโนโลยีนี้ให้หลากหลายรูปแบบเพื่อที่จะก้าวนำหน้าคู่แข่ง อย่ามัวแต่มองโลกแคบว่าเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าต้องใช้กับงานด้านความปลอดภัยเหมือนที่เห็นกันในหนังแนวสืบสวนไซไฟแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งในอนาคต เทคโนโลยีนี้มีส่วนที่จะช่วยให้ร้านค้าต่าง ๆ ยกระดับการบริการของตนเอง และเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่จะเพิ่มรายได้มากขึ้น