การเข้ามาของเทคโนโลยี IoT นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์ โดย IoT จะมีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ลองมาดูกันว่าเราจะได้เห็นอะไรในอีก 3 ปีข้างหน้า
IoT Mobility ยุคที่การคมนาคมปลอดภัยมากขึ้น
1.ในปี 2020 เราจะเข้าสู่โลกที่ทุกสิ่งรอบตัวเราได้เชื่อมต่อเข้าหากันผ่านระบบเครือข่ายกลาง เราสามารถที่จะไปไหนมาไหนได้ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
เพราะรถทุกคันจะมีการส่งข้อมูลไปประมวลผลบนระบบคลาวด์โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ถูกส่งเข้ามา โดยจะเป็นการแทร๊คกิ้งข้อมูลทุกอย่างเช่น สภาพอากาศ สภาพถนน หรือจุดที่มีการเกิดอุบัติเหตุเพื่อแจ้งให้รถคนอื่น ๆ ทราบแบบ Real-time และให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง
รวมทั้งรถทุกคันจะมีการติดตั้งเซนเซอร์เพื่อแจ้งต่อผู้ขับ ในกรณีที่ผู้ขับ ขับรถไปในจุดอับที่อาจจะมองไม่เห็นคนเดินถนน ซึ่งจะทำให้ผู้ขับรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อต้องขับรถยนต์
2.ยังอยู่กันที่รถยนต์ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของยุค Mobility โดยในพื้นที่ชุมชน หรือ พื้นที่ที่การคมนาคมยังไม่ดีนัก จะมีรถยนต์ของหน่วยงานท้องถิ่นภาครัฐมาคอยให้บริการกับประชาชน โดยรถยนต์ดังกล่าวจะใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (AI) โดยจะให้ประชาชนระบุตารางเวลาที่จะให้ไปรับชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้ายายคนหนึ่งระบุตารางไว้ว่าจะให้มารับเพื่อไปโรงพยาบาล รถยนต์ก็จะมารับแบบอัติโนมัติ และระหว่างนั่งรถก็สามารถติดต่อกับหน่วยแพทย์เพื่อวินิจฉัยขั้นต้นได้อีกด้วย และตรวจรักษาเสร็จ ระบบก็จะส่งข้อมูลต่าง ๆ ให้กับสมาชิกในครอบครัวได้รับทราบทันที
3.ระบบการขนส่ง จะมีความปลอดภัยมากขึ้น เมื่อมีการนำเซ็นเซอร์ไปติดไว้ที่รถยนต์เกือบทุกส่วน ซึ่งเซ็นเซอร์จะแจ้งเตือนเมื่อเกิดการเสื่อมสภาพของอะไหล่รถ พร้อมทั้งสภาวะของคนขับ
โดยเซ็นเซอร์จะรู้ทันที่ถ้าคนขับมีอาการง่วง เพราจะวัดถึงระดับเปลือกตาที่ค่อยๆ รี่ลงจนถึงจุดที่อันตราย ซึ่งข้อมูลทุกอย่างที่เซ็นเซอร์วัดได้จะเชื่อมต่อผ่านศูนย์ข้อมูลกลางที่มีคนคอยมอนิเตอร์อยู่ตลอด
สรุปโดยรวมนี่คือการนำ IoT และ AI มาประยุกต์ใช้ในระบบจนส่ง และข้อมูลที่ถ่ายทอดมานั้นเป็นการคาดการ์จากเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าเราจะได้เห็นรูปแบบทั้งหมดในต่างประเทศก่อน แต่ถ้าโชคดีที่ประเทศไทยสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เราก็อาจจะมีโอกาศได้เห็นในเร็ววัน