ล่าสุดธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ICBC จับมือบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เร่งปรับโครงสร้างพื้นฐานทางไอที และศูนย์ข้อมูลใหม่ วางเป้าหมาย 3 ปี ก้าวสู่การเป็นธนาคารที่ลูกค้ามั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลในระดับสากล

หลายๆคนคงเคยคุ้นชินกับคำว่า “สังคมไร้เงินสด” หรือ Cashless Society มาบ้างแล้ว ซึ่งในความเป็นจริง ปัจจุบันประเทศไทยเราได้มีการใช้รูปแบบของเงินที่ผ่านแอพพลิเคชั่น หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆกันมากขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ทางวีซ่าเองก็ออกมาเปิดเผยผลสำรวจ พฤติกรรมการใช้กระเป๋าเงินออนไลน์ หรือ Mobile Wallet

โดยพบว่า 9 ใน 10 ของคนไทยสนใจที่จะชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินออนไลน์ หรือ Mobile Wallet หากมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่น่าไว้วางใจ รวมถึงข้อเสนอจูงใจและบริการเสริมอื่นๆ อาทิ โปรแกรมสิทธิพิเศษต่างๆ หรือการสะสมแต้ม พอยส์เพื่อแลกของรางวัล อีกทั้งธนาคารต่างๆก็ได้มีการพัฒนา และลงทุนอย่างต่อเนื่องทางด้านระบบใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่อง

และเมื่อไม่นานมานี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้ลงนามกับผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรรายใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็น American Express, JCB, Mastercard, UnionPay, VISA และผู้ให้บริการทางการเงินในไทย ได้แก่ สมาคมธนาคารไทย, สภาสถาบันการเงินของรัฐ, สมาคมธนาคารนานาชาติ, สมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ไทย, สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

บริษัท National ITMX จำกัด และบริษัท Thai Payment Network จำกัด โดยมีเป้าหมายคือการสร้างมาตรฐานเดียวกัน, ลดความซ้ำซ้อน ด้วยการใช้มาตรฐานคิวอาร์โค้ด (QR Code) เพื่อผลักดันการพัฒนาระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน โดยมีเป้าหมายคือการสร้างมาตรฐานเดียวกัน ลดความซ้ำซ้อน ลง ซึ่งแน่นอนว่านี่ถือเป็นแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญของวงการธนาคารไทย

ล่าสุดธนาคารผู้ให้บริการจากจีนอย่าง ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ก็ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าด้วยเช่นกัน โดยได้ประกาศว่าทางธนาคารได้เตรียมยกระดับขีดความสามารถของธนาคารด้วยการจับมือกับทางไอบีเอ็ม ปรับโครงสร้างพื้นฐานไอที และศูนย์ข้อมูล ของธนาคารใหม่ 

ICBC

ICBC พร้อมก้าวสู๋บริการที่ดีกว่าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

โดย หลิน ชื่อเฉียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) กล่าวว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไอบีเอ็มจะให้บริการด้านการบริหารและดำเนินงานปฏิบัติการด้านไอทีและระบบการรองรับแผนฉุกเฉินแก่ธนาคาร ในลักษณะ Managed Services ครอบคลุมระบบโครงสร้างพื้นฐาน

และระบบปฏิบัติการของศูนย์ข้อมูล ระบบงานสำรองและกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติและเหตุการณ์ไม่คาดคิด การรักษาความปลอดภัย และการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจต่างๆ ด้วยมาตรฐานระดับโลกของไอบีเอ็ม ข้อตกลงนี้ยังครอบคลุมถึงการให้บริการแก่บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) อีกด้วย

ความร่วมมือกับไอบีเอ็ม และการปรับรูปแบบส่วนงานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของธนาคารในครั้งนี้จะช่วยทำให้ธนาคารก้าวไปสู่โมเดล Managed Services ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาปรับปรุงบริการ และกระบวนการด้านไอที ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล ระบบการรองรับแผนฉุกเฉิน

รวมถึงการสนับสนุนจากทีมงานมีความสามารถด้านไอทีของไอบีเอ็ม สิ่งเหล่านี้จะนำสู่ไปการเสริมศักยภาพบริการต่างๆ ของธนาคาร เพิ่มความคล่องตัว เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อันจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับความพอใจสูงสุดเมื่อใช้บริการของธนาคาร

โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจข้ามพรมแดนระหว่างไทยกับจีน นอกจากนี้ การที่ธนาคารมีเครือข่ายที่เข้มแข็งในประเทศจีนถือเป็นจุดแข็งซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกลยุทธ์การเติบโตของทางธนาคาร และทำให้สามารถปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยได้ เช่น โครงการพร้อมเพย์ เป็นต้น

อีกทั้งยังเป็นการ ยกระดับบริการของธนาคารให้สามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่จะได้รับบริการในช่องทางและเวลาลูกค้าสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย

ICBC

ด้าน พรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการให้บริการของไอบีเอ็ม ประเทศไทย ในด้าน IT Managed Services และระบบการรองรับแผนฉุกเฉินสำหรับธุรกิจ

รวมถึงความเป็นผู้นำในโซลูชันด้าน ค็อกนิทิฟ แพลตฟอร์มคลาวด์ ซอฟต์แวร์ และระบบคอมพิวติ้ง ที่เราได้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธนาคารชั้นนำ บริษัทประกัน ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และองค์กรธุรกิจทั่วประเทศไทยมาเป็นเวลา 65 ปี

 

สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่