Eleader January 2015
ผมจะไปปลูกถั่ว (พิตาชิโอ้) อยู่แถวเชียงคาน หลังจากเกษียณ” คือความใฝ่ฝันและเป้าหมายหนึ่งของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของวงการเน็ตเวิร์กของเมืองไทยอย่าง ณัฐวุฒิ ปิ่นทองคำ ผู้จัดการแผนกการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)
LEADER : 2557 อินเตอร์ลิงค์ พบเจอและมีความสำเร็จแค่ไหน อย่างไร?
ณัฐวุฒิ : ถ้าถามถึงกลุ่มอินเตอร์ลิงค์ ในปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ก็ต้องบอกว่าช่วงต้นปีก็มีส่วนที่กระทบกับเราบ้างในแง่ของปัญหาการเมือง แต่พอหลังจากที่ปัญหานั้นถูกแก้ให้ชัดเจนขึ้น ทุกอย่างก็เริ่มจะเดินต่อไปได้ทำให้งบประมาณต่างๆ ที่หยุดไปก็ได้รับการอนุมัติออกมาอย่างต่อเนื่อง หากมองจริงๆ แล้วงานที่เรารับผิดชอบอยู่นั้นเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานที่มันไม่ได้มีผลกระทบกับธุรกิจอื่นๆ เพราะมันเป็นเหมือนโครงสร้างของประเทศ เพราะจะเห็นว่า ไม่ว่าเรื่องของการสร้างอาคาร, ไฟฟ้า, ระบบสื่อสารหรือสาธารณูปโภคต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วหยุดไม่ได้ ทำให้ไตรมาส 2 ต่อ 3 นั้นยังคงมีกำไรอยู่ คาดว่า ณ วันที่เราปิดครบทั้ง 4 ไตรมาสแล้วน่าจะเป็นไปตามเป้าหรือทะลุเป้าที่ตั้งไว้
ถามว่าอะไรที่โดดเด่นที่สุดในธุรกิจของเรา ตอบได้เลยว่าคือธุรกิจโทรคมนาคมซึ่งเราก็พึ่งจะกระโดดเข้ามาเต็มตัว ด้วยการที่เราได้ทีมผู้บริหารที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ทำให้เราสามารถรุกตลาดไปที่กลุ่มของผู้ให้บริการโทรคมนาคมและไอซีที ด้วยการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ อีกส่วนหนึ่งที่โดดเด่นก็คือ ทีวีดิจิตอลที่ตอนนี้ก็เข้ามาใช้บริการของ อินเตอร์ลิงค์เทเลคอม ณ ตอนนี้เราให้ทั้งบริการสายไฟเบอร์ออฟติก, MPLS รวมถึงศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ ณ วันนี้ก็มีกลุ่มของสถาบันการเงินเข้ามาใช้งานเกินกว่า 80% ของความสามารถในการรองรับแล้ว และกำลังจะขยายขนาดของดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มเติม เพื่อรองรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ELEADER : ปีที่ผ่านมาเปิดตัวธุรกิจใหม่ด้านบริการโทรคมนาคม อะไรทำให้ตัดสินใจอย่างนั้น?
ณัฐวุฒิ : จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเข้าสู่ธุรกิจนี้เรามองว่ามีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสายสัญญาณ เราทำธุรกิจนี้มาขึ้นปีที่ 27 เราทำให้กับคู่ค้าที่เป็นทั้งกลุ่มที่เป็นและไม่เป็นผู้ให้บริการ ในฝั่งของผู้ให้บริการก็มีการเลือกที่จะใช้สายสัญญาณที่มีคุณภาพในระดับหนึ่ง และในเรื่องของการบริการให้ได้อย่างมีคุณภาพนั้น เรามองว่าก็มีช่องว่างของการให้บริการอยู่เยอะ จึงเลือกที่จะเข้ามาสู่ตลาดนี้โดยเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับคู่ค้าเดิมของเรามากกว่าเป็นคู่แข่ง
สำหรับเราในแง่ของการใช้บริการอย่างสายไฟเบอร์ออฟติก เราก็เลือกสายไฟเบอร์ที่มีคุณภาพสูงสุด เพราะว่าอย่างบางรายอาจจะเลือกสายที่มีความสามารถรองรับแค่ 70% แต่สำหรับเราในฐานะที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. เราก็เลือกใช้สิ่งที่ดีที่สุด เพราะเราตั้งเป้าว่าเราจะเป็นผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญเรื่องของไฟเบอร์ออฟติกที่ดีที่สุด ซึ่งตรงกับปฏิญญาหลักขององค์กรของเราก็คือ “เราต้องทำอย่างดีที่สุดมีคุณภาพสูงสุดบนราคาต่ำที่สุดด้วยคุณภาพสูงสุด
ELEADER : แผนปีหน้าของแต่ธุรกิจ?
ณัฐวุฒิ : ปีหน้าในส่วนของการขายสินค้าก็จะเน้นไปที่เรื่องของมาตรฐาน Open Cabling ซึ่งเป็นเรื่องของการใช้สายสัญญาณอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา คือที่ผ่านมาเรามีลูกค้าหน้าใหม่ค่อนข้างมาก รวมถึงลูกค้ากลุ่มเก่าที่ไม่มีความรู้ในเรื่องสัญญาณก็มีอยู่ ทำให้ปีหน้าเราก็จะเน้นไปในเรื่องของการทำการตลาดด้วยการให้ความรู้มากขึ้น และให้ความสำคัญกับสถาบันการศึกษามากยิ่งขึ้น โครงการที่ทำในเรื่องของการประกวดในเรื่องของการใช้สายสัญญาณการเดินทางให้ความรู้ต่างๆ ในเรื่องสายสัญญาณก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ปีหน้าคาดว่าจะทำอย่างเข้มข้นมากขึ้น มีการขยายตลาดมากยิ่งขึ้น
ELEADER : ความท้าทายของชีวิตในวันนี้คืออะไร?
ณัฐวุฒิ : คำถามนี้ตอบได้เลยว่าทุกวันนี้ทุกอย่างท้าทายหมด ตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ก็เจอแต่ความท้าทาย ถ้าจะให้ทบทวนตั้งแต่ทำงานมาทุกงานที่ผ่านมาล้วนท้าทายและแตกต่างกันทั้งสิ้น การเข้ามาทำงานที่กลุ่มอินเตอร์ลิงค์ก็เช่นกันทำให้ต้องเจอความท้าทายใหม่ๆ อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขยายตัวของบริษัทที่วันนี้คนมากขึ้นการแข่งขันในธุรกิจสูงขึ้น มีธุรกิจใหม่ๆ ให้เราบริหารจัดการตลอดเวลา
ELEADER : วางแผนหลังเกษียณไว้อย่างไร?
ณัฐวุฒิ : เอาจริงๆ ก็ยังไม่ได้มีแผนที่ชัดเจน แต่สิ่งที่ผมอยากจะทำก็คือไปปลูกถั่วแต่ไม่ใช่ถั่วธรรมดาอย่างถั่วลิสงอย่างนั้นหลอก แต่จะเป็นพิตาชิโอซึ่งผมได้รับความรู้จากท่านอาจารย์ท่านหนึ่งที่สนิทสนมกับครอบครัว ท่านบอกว่าที่ดินบริเวณเชียงคานนั้นเหมาะกับการปลูกถั่วพิตาชิโอมาก ซึ่งจากการที่ได้ไปดูสวนของอาจารย์ท่านนี้แล้วก็ทึ่ง! ว่าถั่วราคาแพงแบบนี้ก็สามารถปลูกในพื้นที่เมืองไทยได้ผลผลิตอย่างดีไม่แพ้ของที่มาจากอิตาลี ก็ไม่แน่ว่าต่อไปนับจากนี้ ที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วอาจจะรู้จักผมในชื่อของเกษตรกรผู้ผลิตถั่วพิตาชิโอคนไทยก็เป็นได้