หัวเว่ย ตั้งเป้า No.2 สิ้นปี เล็งใช้ A.I. ในมือถือรุ่นใหม่ แย้ม…!! เห็นในปี 60

• Facebook
• Twitter
• Line

หัวเว่ย เตรียมรุกตลาด สมาร์ทโฟน ในไทยต่อเนื่อง  หลังครึ่งปีแรกของปี 2560 เติบโตกว่า 8 เท่า (จำนวนเครื่อง) และสร้างรายได้มากกว่า 5 เท่า ทำให้สามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 10.7% เผยเตรียมออกสินค้าตัวใหม่ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น IoT, Cloud และ A.I.

ทศพร นิษฐานนท์  รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลประกอบการตึ่งปีแรกของปี 2560 ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกยังคงเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 โดยพบว่าทั่วโลกสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 73 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 20.6%

โดยในส่วนของตลาดประเทศไทยเพิ่มขึ้น 20.6% โดยเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 8  เท่า (จำนวนเครื่อง) และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า โดยเราเชื่อว่ามาจากการที่แบรนด์ หัวเว่ย สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บิโภคได้มากขึ้น

ในด้านของแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ ที่ทันสมัยที่หัวเว่ยได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 10.7% โดยเพิ่มขึ้น 1.2% ในเช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 

4 กุญแจความสำเร็จของ หัวเว่ย

ความสำเร็จของเราในวันนี้กิดขึ้นจากความแข็งแกร่งของเราทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยหัวเว่ยให้ความสำคัญต่อเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาด โดยคำนึงเรื่องของความต้องการของผู้บริโภค และเทคโนโลยีที่จะช่วยตอบสนองต่อไลฟ์สไตด์ที่แตกต่างกันเป็นหลัก

โดยการที่เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการได้นั้น เนื่องจากเรามีการลงทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) และศูนย์พัฒนานวัฒกรรมร่วม (joint Innovation Centers) อยู่ในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก โดยตลอดช่วง 10 ปี เราลลงทุนไปมากกว่า 45 พันล้านดอลล่าร์

และเรายังได้ลงทุนในการสร้าง ช่องทางในการจัดจำหน่าย (Retail Store) ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีมากกว่า 42,300 แห่งทั่วโลก โดยประเทศไทยปัจจุบันมีอยู่ 41 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเรายังมีเป้าหมายที่จะขยายเพิ่มต่อเนื่องโดยในสิ้นปี 60 นี้น่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 60 แห่ง

และเรายังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างแท้จริง โดยล่าสุดเราได้นับการจัดอันดับบน “Fortune’s Global 500” ให้เป็นแบรนด์ที่มีการยอมรับในอับดับที่ 82 และนิตยสาร Forbes’ the World Most Valuable Brand ได้จัดอันดับให้เราอยู่ที่ 88

ในส่วนของ บริการหลังการขาย เรายังคงยึดเอาความต้องการของผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง โดยได้ดำเนินการขยายศูนย์บริการ (Huawei Customer Service Center) เป็น 14 แห่งในไทย พร้อมจุดรับเครื่องเพื่อส่งต่อศูนย์บริการ (Collection Point) กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ 

นอกจากนี้เรายังเป็นผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนเพียงรายเดียวที่มีบริการรับเครื่องถึงที่ สำหรับลูกค้าที่ประสบปัญหาจากการใช้งานเครื่องซึ่งเราเรียกว่า บริการ “Door to Door Service”

พร้อมผนวกเทคโนโลยี A.I. เข้าในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่

สำหรับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีของหัวเว่ยในอนาคต คือการมุ่งสู่การเป็นสังคมอัจฉริยะซึ่งกำลังเกิดขึ้นการการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่ผสานเข้าไปในทุกมิติของไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น

โดยเราเล็งที่จะผลิตเครื่องรุ่นใหม่ที่ใส่ชิพเซ็ตระบบประมวลผลแบบ “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial Intelligence) เข้าไว้ในเครื่องซึ่งคาดว่าจะเห็นภายในปีนี้ ซึ่งในส่วนรายละเอียดว่าจะสามารถเชื่อมโยง หรือจะอัจริยะอย่างไรนั้น คงยังไม่สามารถบอกได้เนื่องจากเป็นความลับทางธุรกิจของเรา

แต่เราเชื่อว่าการที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคของอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และคลาวด์ (Cloud) ย่อมหมายถึงความต้องการของผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในผู้นำในด้านเทคโนโลยีเราจึงไม่อาจหยุดหยั่งที่จะพัฒนาได้

เนื่องจากปรัญญาของเราคือการมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ผสานทั้งเทคโนโลยีแห่งอนาคต และนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปฏิวัติสังคมอัจฉริยะ และแนวทางการพัฒนาสมาร์ทโฟนอัจฉริยะก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ขึ้น

เราจึงออกแบบตัวดีไวซ์ เพื่อเชื่อมต่อ และสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีคลาวด์ เพื่อมอบประสบการณ์ของไลฟ์สไตล์แบบอัจฉริยะที่เป็นเลิศอย่างครบวงจรให้กับผู้บริโภค โดยในปีนี้ เราสามารถก้าวมาเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคซื้อใช้งานเป็นอันดับ 3 ในตลาดสมาร์ทโฟนไทย แต่เรามีเป้าหมายที่จะขยับเป็นอันดับ 2 ให้ได้ภายในปี 2560 นี้

รับชมวีดีโองานแถลงข่าวได้ด้านล่างนี้

• Facebook
• Twitter
• Line