ATSI
สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) โดยคุณเจนจิรา ประยูรรัตน์ นายกสมาคม ได้ร่วมลงนามในเอกสาร MOU กับคุณลัดดา สำเภาทอง นายกสมาคมธุรกิจร้านอาหาร ณ วันที่ 16 พฤษภาคมนี้ โดยทั้งสองสมาคมฯ มีภารกิจร่วมกันที่จะ transform ธุรกิจร้านอาหารให้ก้าวทันยุคดิจิทัล

“ยกระดับร้านอาหารไทย ใส่ใจวัฒนธรรม ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยี”

คุณลัดดา กล่าวว่า สมาคมธุรกิจร้านอาหาร มุ่งหวังยกระดับมาตรฐานร้านอาหารไทย และให้ความสำคัญกับการสื่อถึงวัฒนธรรมของไทยด้วย เป็นการขายรสชาติพร้อมด้วยคุณภาพ และด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในหลากหลายกิจกรรมของธุรกิจ ทั้งการบริหารจัดการร้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม POS, การใช้สื่อยุคใหม่ในการเข้าถึงลูกค้าและบริการในรูปแบบใหม่ๆ เช่น บริการ delivery ส่งอาหารไปถึงบ้านของลูกค้า เพิ่มเติมจากการมาทานที่ร้านเพียงอย่างเดียว

ขณะที่คุณเจนจิรา หญิงแกร่งจากวงการไอทีไทย ก็กล่าวว่า ซอฟต์แวร์ไทยถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในธุรกิจร้านอาหาร ตั้งแต่ POS, CRM, ERP และโปรแกรมอื่นๆเพื่อส่งเสริมกิจกรรมของธุรกิจ ให้ทำได้ดีขึ้น เร็วขึ้น และประหยัดขึ้น ดังจะเห็นได้จากร้านอาหารจำนวนมากในขณะนี้ที่เด็กเสิร์ฟใช้ tablet มารับออเดอร์ แล้วบันทึกรายได้เข้าระบบ เพื่อให้เจ้าของร้านอยู่ที่ไหนก็สามารถบริหารจัดการร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งสองท่านเห็นตรงกันว่า ธุรกิจร้านอาหาร มีปัญหาที่ซ่อนไว้อยู่ใต้พรมจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตของพนักงานในร้าน, คุณภาพของอาหารและการบริการ, การสร้างรายได้ให้อยู่รอดและเติบโตได้, ทั้งยังต้องแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ในหลากหลายรูปแบบด้วย

ทั้งสองสมาคมเห็นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเข้าไปช่วยส่งเสริมการบริหารงานเป็นระบบและสร้างความเข้มแข็งให้กับเจ้าของร้านอาหารที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจร้านอาหารที่ส่วนใหญ่เป็น SME จากทุกภาคในประเทศ ผ่านกิจกรรมการอบรมสัมมนา ให้เรียนรู้ที่จะเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการบริหารร้าน, การทำ business matching ระหว่างเจ้าของร้านอาหารกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นสมาชิกของ ATSI, โครงการ Digital Entrepreneur Awards ที่มอบรางวัลให้กับผู้ประกอบการธุรกิจที่นำ IT เข้าไปใช้เปลี่ยนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ, รวมไปถึงการนำพาร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการฯ รับเงินสนับสนุนด้านดิจิทัลของภาครัฐ

ทั้งยังมีแผนจะนำแพลทฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ Digital Transformation Expert Platform ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของ ATSI มาปรับใช้เพื่อสอนบุคคลากรในธุรกิจร้านอาหารทางออนไลน์ เช่น การสอนภาษาอังกฤษอย่างง่ายให้กับเด็กเสิร์ฟทั่วประเทศ ให้เข้าถึงได้เร็วจากมือถือได้ทุกที่

และเชื่อว่าเราจะได้เห็นธุรกิจร้านอาหารไทยเข้มแข็งและเติบโตมากขึ้น จากการร่วมมือในครั้งนี้ ไปจนถึงกลายเป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารเชื้อสายไทยแท้มากขึ้น และเติบโตไปเปิดตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากประเทศแถบ AEC ในอนาคตอันใกล้นี