johan_paulsson_1401_hi resized2

โดย โจฮัน พอลสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี แอ็กซิส คอมมูนิเคชั่นส์

“อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT)” ประเด็นไอทีที่ร้อนแรง สร้างกระแสตื่นตัวแก่ทุกอุตสาหกรรมตลอดปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทคาร์หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่ชาญฉลาดต่างๆ เช่นตู้เย็นอัจฉริยะที่เชื่อมต่อได้ ทำให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจต่างตระหนักถึงประโยชน์ของการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต  ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยรวมถึงเจ้าของธุรกิจเองต่างหันมาให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยให้แก่องค์กรของตน

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในวงการรักษาความปลอดภัยหลายท่านคาดการณ์ไว้ ‘4K Ultra HD’ ซึ่งเป็นมาตรฐานความละเอียดระดับใหม่ จะยังคงเป็นประเด็นร้อน และเป็นก้าวต่อไปของความมุ่งมั่นในวงการที่จะทำให้เกิดการพัฒนากล้องวงจรปิดให้มีความละเอียดของภาพมากขึ้นและมีมุมรับภาพที่กว้างขวางครอบคลุมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีการนำความคมชัดระดับ 4K มาใช้ในระบบวิดีโอตรวจการณ์-เฝ้าระวังอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้และปีต่อๆ ไป  เมื่อพูดถึง 4K เราจะพิจารณาถึงคุณภาพของรูปภาพเป็นประเด็นสำคัญ

ความท้าทายที่แท้จริงคือการเพิ่มคุณภาพให้กับรูปภาพสำหรับการตรวจการณ์เหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นและจำเป็นต้องดำเนินการตามความเหมาะสมทันที ไม่ว่าขณะนั้นจะมีสภาวะแสงเลวร้ายอย่างไร หรืออยู่ในสภาวะแวดล้อมอย่างไร  ตัวขับเคลื่อนสำคัญในอุตสาหกรรม คือ นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของรูปภาพเพื่อการใช้งานวิดีโอที่นำสมัย

ระบบการรักษาความปลอดภัยในรูปแบบ Video surveillance-as-a-service (VSaaS) เป็นประโยชน์ต่อการจัดการและจัดเก็บภาพวิดีโอที่ถ่ายโดยกล้องตรวจการณ์ไว้ยังพื้นที่จัดเก็บที่อยู่บนคลาวด์  ระบบวิดีโอตรวจการณ์-เฝ้าระวังที่ติดตั้งตามสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ ธนาคาร สนามบิน และระบบขนส่งสาธารณะ  สามารถใช้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการป้องกันหรือการสืบสวนอาชญากรรมได้  ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระบบวิดีโอตรวจการณ์-เฝ้าระวังบางส่วนได้รับแรงผลักดันจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลกq1755_closeup_hand_touch_closeup_1211_hi resized

ข้อมูลจาก Transparency Market Research คาดว่าตลาดระบบวิดีโอตรวจการณ์-เฝ้าระวัง และตลาด VSaaS จะมีมูลค่าถึง 42.81 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2562 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยจากปี 2556 ถึงปี 2562 เป็น 19.1% ต่อปี และถ้าแยกพิจารณาตามระบบของวิดีโอ คาดว่าตลาดระบบวิดีโอตรวจการณ์-เฝ้าระวังที่เป็นระบบไอพีจะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างช่วงเวลาที่ทำการคาดการณ์คือจากปี 2556 ถึงปี 2562 เป็น 24.2% ต่อปี

ตลาดฮาร์ดแวร์ของกล้องมีมูลค่า 9.49 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2555 และมีการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในระยะเวลาที่คาดการณ์ คือตั้งแต่ปี 2556 ถึงปี 2562 เป็น 17.3% ต่อปี  ซึ่งตลาดฮาร์ดแวร์เหล่านี้ประกอบด้วย กล้องตรวจการณ์ระบบอนาล็อกและกล้องตรวจการณ์ระบบไอพี เครื่องบันทึกและสตอเรจ  เครื่องแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นไอพี  และจอ  โดยในปี 2555 เครื่องบันทึกและสตอเรจ ครองส่วนแบ่งตลาดฮาร์ดแวร์มากที่สุดสูงถึง 37% ตามมาด้วยกล้องตรวจการณ์ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 32% แต่มีการคาดการณ์ว่าจะเสียตำแหน่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสตอเรจที่อยู่บนคลาวด์ (VSaaS)

แม้ คลาวด์คอมพิวติ้ง จะเป็นคำฮิตติดหูที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในวงการไอทีมาเป็นเวลาหลายปี แต่สิ่งเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราเป็นหลัก  ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพับลิค คลาวด์ซึ่งมีการใช้พื้นที่ในเซิร์ฟเวอร์ร่วมกันกับลูกค้ารายอื่น หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นไพรเวทคลาวด์ซึ่งข้อมูลและแอพพลิเคชั่นของแต่ละคนอยู่ในระบบของตนแต่เพียงผู้เดียวก็ตาม คลาวด์ คอมพิวติ้งยังทำให้เกิดประโยชน์ 3 ประการให้กับระบบเน็ตเวิร์คของคุณ

นั่นคือ การลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล สามารถปรับขยายการทำงานได้ และเปลี่ยนจากการเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CAPEX) ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX)  ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ว่าถ้าองค์กรเลือกจะใช้ระบบคลาวด์แบบไพรเวท  และอาจเลือกที่จะให้บุคคลภายนอกเป็นผู้ดูแลเรื่องการอัพเกรด อัพเดทและการซ่อมบำรุงที่ต้องทำเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับองค์กรของตน

การวิเคราะห์, ข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ (BI) และ บิ๊กดาต้า

เทคโนโลยีที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลยังนับเป็นเทคโนโลยีสำคัญในอุตสาหกรรมกล้องตรวจการณ์ในปีนี้และปีต่อๆ ไป เพื่อดึงเอาข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญออกมาจากข้อมูลมหาศาลทั้งที่เป็นข้อมูลที่มีโครงสร้างและข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างซึ่งกล้องได้เก็บรวบรวมไว้ (หรือที่เรียกกันว่า บิ๊กดาต้า)  ฝ่ายรักษาความปลอดภัยจะได้รับข้อมูลมากขึ้น จากแหล่งที่มาอื่นๆ เพื่มขึ้นอีกมาก

ด้วยความสามารถของกล้องระบบเน็ตเวิร์คที่ให้ภาพวิดีโอที่มีความละเอียดสูง และสามารถเชื่อมต่อได้จากทุกที่ทุกเวลา  การวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความจำเป็นในการช่วยให้องค์กรทำความเข้าใจกับข้อมูลจำนวนมหาศาล รวมถึงข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างเช่นรูปภาพและวิดีโอต่างๆ  แอพพลิเคชั่นที่ชาญฉลาดมากขึ้นก็มีความจำเป็นในการช่วยจัดหมวดหมู่และตีความข้อมูล เพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นกลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้งานได้

คุณสมบัติสามประการของบิ๊กดาต้า คือ ขนาด ความเร็ว และความหลากหลาย สามารถนำมาซึ่งข้อมูลสำคัญในช่วงวิกฤตด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม  ผู้ใช้งานสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ด้วยการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการมากที่สุด ด้วยการเริ่มต้นกับข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้น เช่น ข้อมูลการเฝ้าระวัง การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลผ่านทางสิ่งที่จับต้องได้ และข้อมูลกิจกรรมทางไซเบอร์ แล้วสร้างความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่างๆ ที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์ได้

สิ่งที่กล่าวมานี้คือสิ่งที่ไอพีปฏิวัติกล้องตรวจการณ์จากเดิมที่เป็นเครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งใช้แก้ปัญหาหลังจากเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว สู่การเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการการป้องกันเชิงรุก  ภาพวิดีโอสามารถใช้ควบคู่กับการวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ทราบถึงรูปแบบการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าในร้านค้าปลีก เวลาที่ลูกค้าใช้ในการชมของหรือกิจกรรมหนึ่งๆ หรือปลีกตัวออกจากจุดที่มีผู้คนหนาแน่น

เมื่อรวมข้อมูลเหล่านี้กับแหล่งข้อมูลที่มีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างอื่นๆ เช่น ตารางเวลาการขนส่งสาธารณะ  รายการโปรโมชั่นต่างๆ  ข้อมูลราคาของคู่แข่ง  ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย และข้อมูลจากนักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญ  จะสามารถทำให้คุณเห็นรูปแบบข้อมูลและความสัมพันธ์ต่างๆ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่  และนั่นคือความได้เปรียบในการแข่งขัน

การบีบอัดวิดีโอและการใช้แบนด์วิธ

เทคโนโลยีต่างๆ ในการบีบอัดวิดีโอ เป็นการลดและขจัดข้อมูลวิดีโอที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อให้สามารถส่งไฟล์วิดีโอดิจิตอลผ่านเน็ตเวิร์คอย่างได้ผล และจัดเก็บไว้ในดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์  ด้วยเทคนิคต่างๆ ในการบีบอัดที่มีประสิทธิภาพ จะสามารถลดขนาดของไฟล์ลงได้อย่างมากโดยมีผลกระทบต่อคุณภาพของภาพน้อยหรือไม่มีเลย  อย่างไรก็ตาม คุณภาพของวิดีโออาจได้รับผลกระทบ ถ้าขนาดของไฟล์ถูกลดลงด้วยการเพิ่มระดับการบีบอัดภาพจากเทคนิคการบีบอัดที่กำหนดไว้

มาตรฐานการบีบอัดวิดีโอมีหลายแบบ เช่น Motion JPEG, MPEG-4 Part 2 (หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า MPEG-4) และ H.254 เป็นมาตรฐานการบีบอัดวิดีโอใหม่ล่าสุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเป็นมาตรฐานสำหรับระบบวิดีโอตรวจการณ์-เฝ้าระวัง และในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมาก เช่น อุตสาหกรรมบันเทิง

ในขณะเดียวกันการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกล้องเช่น ความละเอียดของภาพและความไวแสงที่มีคุณภาพดีขึ้น ยังมีส่วนเพิ่มข้อมูลที่เกิดจากกล้อง จึงทำให้ความต้องการการบีบอัดวิดีโอที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มมากขึ้น  ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดต้องสร้างสมดุลความละเอียดของภาพด้วยการปรับปรุงอัลกอริทึมในการบีบอัด H.264 ด้วย เพื่อจะได้มั่นใจว่าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านเน็ตเวิร์คแบนด์วิธ และค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บได้  การทำงานร่วมกันของวิธีการลดเสียงรบกวนและลดบิตเรท ควรทำแบบคู่ขนานกับการตรวจสอบการเข้ารหัสวิดีโอใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

นอกจากการปรับปรุงระบบบีบอัดแบบ H.264 ในปัจจุบันแล้ว เทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจคือ H.265 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการออกอากาศและกระจายเสียง  การบีบอัดแบบ H.265 สามารถลดแบนด์วิธและลดพื้นที่จัดเก็บได้มาก (ถึง 50%) ภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม และคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะออกสู่วงการอุตสาหกรรมการรักษาความปลอดภัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า  และเป็นไปได้ที่จะมีการใช้งานครั้งแรกในกล้องที่มีความละเอียดสูงระดับไฮเอนด์  ทั้งยังเป็นที่คาดการณ์ว่า H.264 และ H.265 จะยังคงอยู่คู่กันในอุตสาหกรรมนี้เป็นเวลาอีกนาน

กล้อง