บราเดอร์ (Brother) เผยผลสำเร็จหลังเดินหน้าเปลี่ยนกลยุทธ์ 5 ปีทำให้มีอัตราการเติบโตไม่น้อย กว่า 7% เตรียมสานต่อความสำเร็จโดยตั้ง “ธีรวุธ” นั่งแท่น MDคนใหม่ พร้อมกลยุทธ์ใหม่ “3CS” เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงผ่านคอนเซปต์ “Towards the next level” เพื่อพร้อมรับมือการเปลี่ยนของรูปแบบธุรกิจยุคใหม่….
บราเดอร์ ดัน ‘ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ’ รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เสริมแกร่งทีมบริหาร วางกลยุทธ์ นำองค์กรสร้างการเติบโตท้าทายกระแสเศรษฐกิจด้วยคอนเซปต์ “Towards the next level” พร้อมรับมือ “การเปลี่ยนแปลง” จากปัจจุบันสู่อนาคตด้วยกลยุทธ์ 3C’s โดยในปีงบประมาณ 2561 (เม.ย. 61 – มี.ค. 62) บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มเป็น 7% ซึ่งสูงกว่า ที่คาดการณ์ไว้แต่เดิมที่ 5%
Brother เผยผลสำเร็จกลยุทธ์ 5 ปี ทำบริษัทฯโต 7%
โทโมยูกิ ฟูจิโมโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมาที่ บราเดอร์ ได้เปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโต ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของเศรษฐกิจ และธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงยึดมั่นในเรื่องของการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด
ซึ่งผลของการวางกลยุทธ์ที่มองไปยังอนาคต และตีโจทย์ความต้องการของลูกค้าศูนย์กลาง ทำให้ บราเดอร์ สามารถพัฒนา นวัตกรรม และบริการหลังการขยาย ได้อย่างตรงใจ อีกทั้ง บราเดอร์ ยังขยายความเชื่อดังกล่าวไปยังพันธมิตรซึ่งเป็นคู่ค้าของเรา ทำให้ บราเดอร์ มีการเติบโตเฉลี่ยดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
การกำหนดบทบาทที่ชัดเจนให้กับฝ่ายต่าง ๆ ทำให้เกิดความคิดนอกกรอบ ทำให้ บราเดอร์ ได้แนวทางการทำงานใหม่ ๆ ที่ของทีมที่มุ่งไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางทำให้ที่ผ่านมา บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) มีการเติบโตเฉลี่ยขึ้นทุกปี
และเพื่อสานต่อปรัชญา “At Your Side“ การดำเนินธุรกิจของ บราเดอร์ และผลักดันให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดได้ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน บราเดอร์ จึงเตรียมที่จะแต่งตั้งให้ “ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด
ให้ก้าวขึ้นไปนั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เพื่อสานกลยุทธ์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำ และรับมือต่อการแข่งขันที่ และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยจะมีผลในวันที่ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562 ที่จะถึงนี้
Transform for the Future ยังคงเป็นแนวทางในการบริหาร
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด และว่าที่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจของ บราเดอร์ ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2021 บราเดอร์ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการเตรียมพร้อมรับมือต่อ “การเปลี่ยนแปลง” (Transform)
มาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คือบทพิสูจน์ ให้เห็นถึงผลสำเร็จของการเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่ง บราเดอร์ จะยังคงเดินหน้าสานต่อสิ่งที่ทำมา โดยตั้งเป้าหมายที่จะทรานส์ฟอร์มใน 3 ส่วนหลัก
ได้แก่ Business Transform, Operational Transform และ Talent Transform แต่จะเพิ่มรายละเอียดในแต่ละส่วน เพื่อตอกย้ำให้เห็นภาพชัดเจนและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ซึ่งตลอด 3 ปีนับจากนี้ บราเดอร์ จะวางรากฐานที่มั่นคงในทุกมิติ ผ่านกลยุทธ์ 3C’s ภายใต้คอนเซปต์ “Towards to next level”
เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในส่วนของ ลูกค้า (Customer) บราเดอร์ จะยังคงดำเนินธุรกิจ เพื่อสนองตอบความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า (Customer Satisfaction) และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หลากหลาย มีราคาที่สมเหตุสมผล ตอบโจทย์ทุก “ทุกความต้องการ” (Life Style) รวมไปถึงบริการหลังการขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติตลอดระยะเวลาที่ 21 ปีที่ผ่านมาของการดำเนินธุรกิจของ บราเดอร์ ในไทย
ในขณะที่ในส่วนของ พันธมิตรด้านช่องทางการขาย (Channel Partner) นั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า บราเดอร์ นั้นทำธุรกิจโดยการขายสินค้าผ่าน Business Partner 100% ขณะที่ภาพรวมตลาด ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้คู่ค้าบางรายของ บราเดอร์ ประสบปัญหาในการปรับตัว
ดังนั้น บราเดอร์ จึงจะเน้นการทำงานใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายมากขึ้น โดย บราเดอร์จะไม่เป็นเพียงแค่ผู่ขายเพียงเท่านั้น แต่จะเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการขายในกลุ่มธุรกิจองค์กร หรือการขายแบบ Contractual Business รวมไปถึงรูปแบบของการทำ Online Business ที่กำลังขยายตัวอยู่ในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างมาก
ขณะที่ส่วนของการ ขับเคลื่อนกลยุทธ์สานต่อการเป็นผู้นำธุรกิจ (Company) บราเดอร์ จะเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์ เพื่อให้ก้าวสู่การผู้นำทางธุรกิจ โดยจะปรับปรุง และพัฒนาให้มีกระบวนการทำงานที่สั้นลง (Process Improvement)
แต่ยังคงไว้ซึ่งความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และถูกต้องมากยิ่งขึ้น ทั้งภายใน และภายนอก แต่ยังคงไว้ซึ่งความแม่นยำ และถูกต้อง โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อความสะดวกสบายสำหรับลูกค้า และคู่ค้า ซึ่ง บราเดอร์ เล็งที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่ออำนวยความสามารถสะดวกสบายสำหรับลูกค้า และคู่ค้าของ บราเดอร์
ละอีกด้านคือ การเดินหน้าพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กร (People Development) โดย บราเดอร์ จะพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในองค์กร ทั้งทางด้านความสามารถ และจิตใจ พร้อมที่จะสนับสนุนให้คลื่นลูกใหม่ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจในฐานะผู้นำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ บราเดอร์ ได้ดำเนินการมาตลอด
โดยสิ่งยืนยันถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจคือตัวเลขที่ GFK ได้ออกมาเปิดเผยว่าในปี 2561 ที่ผ่านมา บราเดอร์นั้นสามารถครองแบ่งส่วนทางการตลาด (Market Share) ได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑืในกลุ่ม ML MFC (48%), CL MFC (30.4%) ที่บราเดอร์สามารถครองส่วนแบ่งได้มากเป็นอันดับ 1
ขณะที่อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ML PRT ก็สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 29.1% ถือเป็นอันดับ 2 ของตลาด ขณะที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม CL PRT (18.4%) และInk Tank MFC (26.7%) แม้ว่าจะไม่ติดอยู่ในอันดับต้นๆ แต่ก็ถือว่ามีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น โดยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของตลาด
ต่อยอดบริการด้วยความรู้สึกด้านรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค 4.0
วรศักดิ์ ประดิษฐ์กุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การนำระบบและเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาใช้เพิ่มศักยภาพด้านงานบริการ เป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักของ บราเดอร์ ที่ใช้รองรับการเติบโตทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี
เพื่อครองความเป็นผู้นำด้านงานบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง บราเดอร์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างมาก เพราะเชื่อว่าการส่งมอบบริการที่ดีเยี่ยม ต้องมาจากพื้นฐานจิตใจ และความคิดของผู้ให้บริการที่ได้รับการพัฒนาอย่างดียิ่ง
บราเดอร์ จึงได้ลงทุนออกแบบ และพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “The Power of Thinking” ซึ่งเป็นชุดของหลักสูตรอันประกอบด้วย Think Plus+ Program, Think BIG Program และ Think Smart Program
โดย บราเดอร์ ยังมีแผนที่จะนำระบบ แชทบอท (Chatbot) มาใช้ ภายใน 2562 ซึ่งจะทำให้บราเดอร์ขยายขีดความสามารถในการพัฒนางานบริการได้ดีขึ้น โดยงานบริการพื้นฐานจะเป็นส่วนที่ Chatbot เข้ามาช่วย ในขณะที่ทีมบริการจะเข้ามาในขั้นที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
“ปัจจุบันระบบดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดสอบใช้โดย บราเดอร์ ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนนำมาใช้ในประเทศไทยในปลายปี 62“
โดย บราเดอร์ สามารถนำกำลังคนไปพัฒนาด้าน Training Chatbot รวมทั้งคิดกลยุทธ์งานบริการอื่น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ทีมมีความเข้มแข็งในแบบ น้อยด้วยปริมาณแต่มากด้วยคุณภาพ ถือเป็นหัวใจหลักของการบริหารงานให้สอดรับกับโลกอนาคต
การนำระบบและเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาใช้เพิ่มศักยภาพด้านงานบริการ เป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักของบราเดอร์ ที่รองรับการเติบโตทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อครองความเป็นผู้นำด้านงานบริการอย่างต่อเนื่อง การนำระบบ “Chatbot” เข้ามาใช้จะทำให้บราเดอร์ขยายขีดความสามารถในการพัฒนางานบริการได้ดีขึ้น
โดยงานบริการพื้นฐานจะเป็นส่วนที่ Chatbot เข้ามาช่วย ในขณะที่ทีมบริการจะเข้ามาในขั้นที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น บริษัทฯ สามารถนำกำลังคนไปพัฒนาด้าน Training Chatbot รวมทั้งคิดกลยุทธ์งานบริการอื่นๆ ได้อีกด้วย
ซึ่งจะทำให้ทีมมีความเข้มแข็งในแบบ น้อยด้วยปริมาณแต่มากด้วยคุณภาพ ถือเป็นหัวใจหลักของการบริหารงานให้สอดรับกับโลกอนาคต ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าที่ติดต่อผ่าน Brother Contact Center เฉลี่ย 6,000 รายต่อเดือน
ในปี 2562 บราเดอร์จะสร้างโมบายแอปพลิเคชันด้านงานบริการ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงของลูกค้า ภายใต้ชื่อ “Brother Support Center” ที่สามารถ download ผ่าน device ต่างๆ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของบราเดอร์สามารถติดต่อกับบราเดอร์ได้ตลอดเวลา
ซึ่งเป็นหนึ่งกลยุทธ์ Omni Channel Solution ของบราเดอร์ที่จะพัฒนาเพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้หลากหลายช่องทางยิ่งขึ้น เชื่อมโยงช่องทางต่างๆ ทั้ง Voice, Non-Voice, และ Social Network รวมให้เป็นหนึ่งเดียว และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ
และจะทำให้บราเดอร์ กลายเป็นแบรนด์ที่ทราบถึง Customer Journey เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนากลยุทธ์ในด้านต่างๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดต่อไป
“การนำระบบ และเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาใช้เพิ่มศักยภาพด้านงานบริการ เป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักของบราเดอร์ ที่รองรับการเติบโตทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อครองความเป็นผู้นำด้านงานบริการอย่างต่อเนื่อง“
ผสานงานบริการกับแนวคิดการคืนกลับสู่สังคม
พรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงิน และการบริหาร บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การสนับสนุนพนักงานจากกิจกรรมสันทนาการในกลุ่มเล็กๆ สู่การผนึกพลังที่ยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อคืนกลับสู่สังคม คือการเปิดโอกาสให้พนักงานได้เป็นผู้ริเริ่มคิด
และทำโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายขององค์กร คือหนึ่งกลยุทธ์ที่บราเดอร์นำมาใช้ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของความเป็น “ทีมเวิร์ค” ที่บราเดอร์ เราคิดเสมอว่าเราคือบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งที่มีสมาชิกในครอบครัวที่มีความหลากหลาย และไม่เคยปิดกั้นความหลากหลายนั้น ๆ
แต่นำความหลากหลายที่มีมาทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและเปิดอิสรภาพเพื่อให้แต่ละคนทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบและมีความถนัด และนำสิ่งที่ได้มาเป็นพลังบวกเพื่อนำไปสร้างประโยชน์แก่สังคมต่อไป เรามีการตั้ง Staff Welfare Committee ขึ้น
เพื่อพัฒนาโปรเจค ที่หลากหลายที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ (Health Project) ที่ขยายจากภายในองค์กรสู่การเป็นกิจกรรมระหว่างองค์กร ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ โดย บราเดอร์ ยังเดินหน้าสานต่อโครงการ “วิ่งฝันปันน้ำใจ เพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง“ หรือ Brother Run & Share อย่างต่อเนื่อง เพื่อ คืนกำไรของบริษัทฯ กลับสู่สังคม
โดยในปี 2562 นี้โครงการ Brother Run & Share ถูกจัดขึ้นเป็นปีที่ 5 เพื่อนำรายได้จากการจัดงานทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ มอบให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี กองทุนมะเร็งโลหิตวิทยาผู้ใหญ่ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ได้ โดยในปีนี้สามารถระดมยอดเงินบริจาคได้สูงถึง 1,564,190 บาท
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมเรื่องการพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่ด้วยการส่งเสริมด้านการศึกษา และสร้างประสบการณ์จริงเพื่อเติมเต็มความพร้อมก่อนก้าวสู่โลกของการทำงาน นอกจากนี้ บราเดอร์ยังเดินน้าทำกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องต่อการอุทิศองค์ความรู้ด้านงานบริการ
ซึ่งเมื่อไม่นานนี้อ บราเดอร์ ได้ร่วมลงนามความร่วมมือ (MoU) กับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดสุโขทัยและสถาบันการอาชีวศึกษา 6 แห่งประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุโขทัย วิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรง วิทยาลัยการอาชีพศรีสัชนาลัย วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุโขทัย และวิทยาลัยสารพัดช่างสุโขทัย
จัดกิจกรรม “The Academic Cooperation Program“ ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือทางวิชาการในการฝึกอบรมทางเทคนิคในการซ่อมเครื่องพิมพ์เพื่อถ่ายทอดความรู้ เพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ในสายงานอาชีพ รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้เพื่อบริการสังคมในพื้นที่
นอกจากนี้ บราเดอร์ยังได้ขยายโครงการไปในภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี อีก 2 แห่ง ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานีและวิทยาลัยเทคนิคกาญจนดิษฐ์ พร้อมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.สุรินทร์ อีก 3 แห่ง ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์, วิทยาลัยการอาชีพสังขะ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์
จากความสำเร็จของโครงการทำให้ บราเดอร์ ประเทศไทย สามารถคว้ารางวัล Brother Global Charter Award ในสาขา Social Contribution จากโครงการดังกล่าวได้สำเร็จอีกด้วย
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัฟฟ์ศุภวายุภักษ์ (บรรณาธิการและผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่