คามิลเลี่ยน กลุ่มธุรกิจใหม่ในเครือวันเดอร์แมน ธอมสัน เปิดตัวในไทย พร้อมนำเสนอการสร้างคอนเทนต์ให้กับแบรนด์อย่างทรงพลัง ร่วมสร้างปรากฎการณ์ในโลกดิจิตัลและโซเชียลเน็ตเวิร์ค เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค
วันเดอร์แมน ธอมสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรและครอบคลุมทั่วโลกให้กับลูกค้า ทั้งงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูล การให้คำปรึกษา อีคอมเมิร์ซ และการให้บริการทางเทคโนโลยี ซึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท 2 บริษัทในกลุ่มดับบลิวพีพี อันได้แก่บริษัท เจ. วอลเตอร์ ธอมสัน เอเจนซี่โฆษณาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และบริษัท วันเดอร์แมน เอเจนซี่ชั้นนำด้านดิจิตัล เสริมความแข็งแกร่งทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูล และเทคโนโลยี เปิดตัว “คามิลเลี่ยน” กลุ่มธุรกิจใหม่ล่าสุดที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสร้าง ผลิต และส่งคอนเทนท์ต่างๆ ของลูกค้าไปสู่ผู้บริโภคอย่างตรงจุดครบทุกทัชพอยท์ในยุคที่ดิจิตัลและโซเชียลเน็ตเวิร์คแพร่หลาย พร้อมนำพาให้ผู้บริโภคเข้าสู่วงจรของการซื้อสินค้าหรือบริการ (Purchase Funnel) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน สื่อดิจิตัลและโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีแพลทฟอร์มและช่องทางที่สามารถใช้ค้นหาข้อมูล เลือกซื้อสินค้าหรือบริการ รวมไปถึงแบ่งปันสารหรือคอนเทนท์ต่างๆ ที่พวกเขาชื่นชอบได้มากมาย
ทั้ง ยูทูป เฟซบุก เว็บไซต์ข่าว หรือแม้แต่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ต่างๆ ในขณะนี้ ผู้บริโภคมิได้สนใจว่าพวกเขารับ คอนเทนท์จากแบรนด์ต่างๆ อย่างไรตราบใดที่คอนเทนท์จากแบรนด์เหล่านั้นมีความน่าสนใจ สนุกสนาน สอดรับกับตัวผู้บริโภคแต่ละคน และมีความเกี่ยวพันกับตัวผู้บริโภคในทางใดทางหนึ่ง ในทางกลับกัน หากผู้บริโภคคิดว่าคอนเทนท์นั้นๆ ไม่น่าสนใจ พวกเขาก็สามารถกดหรือเลื่อนข้าม ตั้งค่าตัวกรอง หรือบล็อกคอนเทนท์นั้นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงสำคัญมากที่แบรนด์ต้องสร้างคอนเทนท์ที่มีความครีเอทีฟและมีคุณภาพ มีรากฐานจากข้อมูลเชิงลึก มีประสิทธิภาพ สอดรับกับผู้บริโภคแต่ละคน
เพื่อให้ คอนเทนท์เหล่านั้นสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อแบรนด์ทั้งการให้ความสนใจและการจดจำ ในโอกาสนี้ วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย จึงก่อตั้ง “คามิลเลี่ยน” ในฐานะกลุ่มธุรกิจใหม่ล่าสุดที่พร้อมจะให้บริการด้านการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนท์ต่างๆ ของลูกค้าร่วมกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ในเครือวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย อันได้แก่ดีกรี (Degree) ไมรัม (Mirum) จีทีบี (GTB) และเวิรฟ พับบลิค รีเลชั่นส์ คอนซัลแตนท์ซี (Verve Public Relations Consultancy)
ด้วยคอนเซ็ปต์ “Fast, Great Content” เกิดเป็นจุดแข็งของคามิลเลี่ยน
คามิลเลี่ยนก่อตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย ก่อนจะขยายสาขามายังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีสาขาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศอินโดนีเซีย และสาขาล่าสุดที่ประเทศไทย
โดยคามิลเลี่ยนในประเทศไทยบริหารงานโดยบุคลากรชั้นนำอย่าง กฤชญา กู้ธนวัฒน์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Head of Social & Content และ ซามิ ชีร์แมน (Sami Shirman) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น Creative Director of Innovation คามิลเลี่ยนมีวิสัยทัศน์เพื่อสร้างงานคอนเทนท์ที่ดีที่สุดให้กับแบรนด์ ซึ่งแต่ละคอนเทนท์นั้นต้องสอดรับกับความต้องการของทั้งลูกค้าและผู้บริโภค และต้องสามารถนำเสนอได้อย่างตรงจุด ถูกช่องทาง รวมถึงในราคาที่เหมาะสม
คติในการทำงานของคามิลเลี่ยนคือ ‘Fast, Great Content’ โดย คามิลเลี่ยนทำหน้าที่เป็น ‘The Content Station’ ซึ่งมีหน้าที่ให้บริการลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เรียกได้ว่า ครบวงจร รวมถึงการทุ่มเทความสามารถ ผลักดันให้ทั้งลูกค้าและแบรนด์บรรลุผลทางธุรกิจ ผ่านคอนเทนท์ที่จะนำเสนอ ไปจนถึงการผลิตและกระจายสู่ช่องทางต่างๆ คามิลเลี่ยนให้บริการ 4 ด้านหลัก อันได้แก่
1) การสร้างคอนเทนท์ (Content Creators) โดยทีมงานที่มีหน้าที่ผลิตคอนเทนท์และบริหารช่องทางสื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของเอง (Owned Channels) เพจของแคมเปญต่างๆ และผลิตคอนเทนท์ให้กับสื่อซื้อ (Paid Channels) และช่องทางสื่อที่ผู้เป็นเจ้าของสื่อยินดีช่วยนำเสนอและแชร์คอนเทนท์ (Earned Channels)
2) การผลิตคอนเทนท์ (Content Production) โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านการผลิตและสตูดิโอตัดต่อที่สามารถใช้งานได้ทุกเวลา ฝ่ายตัดต่อของคามิลเลี่ยนมีทักษะอย่างครบวงจร ทั้งด้านการจัดองค์ประกอบ ปรับแต่งสี สร้างแอนิเมชั่น งานวิชวล
เอฟเฟค งานสื่อสิ่งพิมพ์ ภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์หรือสำหรับโรงภาพยนตร์ สื่อแบบอินเตอร์แอคทีฟ รีวิว บล็อก และอื่นๆ
3) การกระจายคอนเทนท์ (Content Amplifiers) ซึ่งหมายความถึงการส่งคอนเทนท์ไปยังสื่อประเภทที่ยินดีให้การสนับสนุนแบรนด์ทั้งแบบที่ไม่ต้องใช้งบประมาณซื้อและที่ต้องใช้งบประมาณซื้อ รวมไปถึงการทำการตลาดร่วมกับผู้มีอิทธิพลทางความคิด
4) การบริหารจัดการคอนเทนท์ (Content Nurturers) โดยอาศัยความร่วมมือกับลูกค้าและแบรนด์เพื่อนำเสนอคอนเทนท์ไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ โดยใช้เทคนิคปรับเปลี่ยนเป้าหมายของสาร (Content Retargeting) รวมถึงการนำเสนอสารอย่างตรงจุด
คอนเทนท์ของแบรนด์มิใช่เพียงสินทรัพย์ของแบรนด์ แต่เป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสื่อทุกประเภท ทั้ง Paid, Owned, Earned
เพราะคามิลเลี่ยนเชื่อมั่นว่า ‘การสร้างคอนเทนท์ในรูปแบบเดียวสำหรับทุกกลุ่มผู้บริโภคไม่ได้ผลอีกต่อไป’ คามิลเลี่ยนจึงเริ่มต้นการทำงานและสร้างคอนเทนท์ของแบรนด์ตามความต้องการของลูกค้า ด้วยการสรุปวงจรพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย โดยใช้แผนภาพของทั้งฝั่งผู้บริโภคและแบรนด์เพื่อช่วยให้แบรนด์มองเห็นวิธีการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้บริโภคผ่านสื่อในช่องทางต่างๆ ทั้ง Paid, Owned, Earned อย่างชัดเจน
คามิลเลี่ยนเริ่มต้นสร้างสรรค์และผลิตคอนเทนท์ให้สอดรับกับวงจรการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการทุกขั้นตอน พร้อมนำเสนอกลยุทธ์การกระจายคอนเทนท์นั้นๆ ตามความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด หลังจากนั้น คามิลเลี่ยนจะดำเนินการประเมินผลหลังจากได้กระจายคอนเทนท์ของแบรนด์สู่สื่อต่างๆ กระบวนการนี้มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการทดสอบ วัดค่า และปรับเปลี่ยนกระบวนการนำเสนอคอนเทนท์ของแบรนด์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นไปตามต้องการ
คามิลเลี่ยนจึงให้ความสำคัญกับผู้บริโภค ช่องทางสื่อ และชิ้นงานคอนเทนท์ของแบรนด์อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้แผนงานการสร้างสรรค์คอนเทนท์นั้นสามารถเติมเต็มกระบวนการเลือกซื้อสินค้าหรือบริการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิผลในทุกขั้นตอน โดยใช้เวลาและค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าชิ้นงานที่รังสรรค์ออกมานั้นมีคุณภาพระดับมาสเตอร์พีซ และเป็นไปตามความต้องการของแบรนด์อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกเหนือไปจากนี้ คามิลเลี่ยนยังเน้นด้านการสร้างและสรรหาบุคลากรที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความเชี่ยวชาญ เชื่อมั่นในพลังของคอนเทนท์ที่ดี และพร้อมทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยปัจจุบันคามิลเลี่ยนมีผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 22 คนและจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกตลอดทั้งปีน
กฤชญา กู้ธนวัฒน์ Head of Social & Content ของคามิลเลี่ยนกล่าวเพิ่มเติมถึงความรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเอเจนซี่ระดับแนวหน้าอย่างคามิลเลี่ยน รวมถึงการมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับทีมงานหลายท่านที่เปี่ยมความสามารถ ในโอกาสที่คามิลเลี่ยนเริ่มต้นดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นปีแรก ในฐานะธุรกิจหนึ่งของวันเดอร์แมน
ธอมสัน เราจึงคาดหวังว่าจะช่วยสร้างรายได้ร้อยละ 10 ให้กับวันเดอร์แมน ธอมสันได้ในปี 2562 นี้ และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 10-15 ในปีต่อๆ ไป โดยเราจะมุ่งมั่นสำรวจ ค้นหา และรับฟังความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเจาะลึกและรังสรรค์กลยุทธ์ใหม่ๆ อันจะส่งผลต่อทั้งการสร้างแคมเปญดิจิตัล และโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงบรรลุเป้าหมายทางการเติบโตในอนาคตอีกด้วย”
ปี 2562 นี้ถือเป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวันเดอร์แมน ธอมสัน ซึ่งเริ่มต้นจากการควบรวมกิจการ และการก่อตั้งคามิลเลี่ยนสาขาประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้จะช่วยให้วันเดอร์แมน ธอมสันแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและรองรับการเติบโตทางธุรกิจในปีต่อๆ ไป