แบงก์ชาติเตรียมเปิด National e-Payment ระบบโครงสร้างระบบการชำระเงินใหม่ของไทย ซึ่งมีแพลนเปิดตัวโครงการ Any ID เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจะเชื่อมโยงเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก, เลขที่บัญชีธนาคาร และหมายเลขโทรศัพท์มือถือเข้าไว้ด้วยกัน ให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้สะดวก รวดเร็วขึ้น
National e-Payment
โครงการดังกล่าวเริ่มเป็นรูปแบบอย่างชัดเจนเมื่อปลายปีทีแล้ว ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์น
สำหรับโครงการนี้คาดว่าจะสามารถให้หน่วยงานภาครัฐสามารถรับจ่ายเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ภายในเดือนธันวาคม 2559 และเริ่มโอนเงินสวัสดิการประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารได้ในเดือนกันยายน 2559 ทั้งนี้ ประชาชนจะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม สะดวก ปลอดภัย และง่าย โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิรับเงินสวัสดิการจากภาครัฐ จะมีช่องทางการรับเงินช่วยเหลือที่สะดวกขึ้น
การรับจ่ายเงินกับหน่วยงานภาครัฐจะมีช่องทางที่รวดเร็วมากขึ้น ในขณะที่ภาครัฐสามารถจ่ายเงินสวัสดิการ เช่น สวัสดิการนมแม่ เป็นต้น ถึงมือประชาชนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถูกกลุ่มเป้าหมาย และที่สำคัญคือจะมีฐานข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ในการประเมินผลนโยบายปัจจุบันเพื่อนำไปพัฒนานโยบายสวัสดิการสังคมในอนาคตได้ รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรับจ่ายเงินของภาครัฐผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยในการบริหารจัดการเงินงบประมาณให้รวดเร็วลดค่าใช้จ่าย และโปร่งใสมากขึ้น
นอกจากนี้ ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับสวัสดิการและการช่วยเหลือที่รวดเร็ว ถูกต้อง ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม รวมทั้งการเข้าถึงบริการการเงินขั้นพื้นฐานได้อย่างสะดวก ค่าใช้จ่ายต่ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล รัฐบาลอยากจะกระจายบัตรซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องพกเงินสด ปลอดภัย อันนี้ได้เรียนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่าเหมือนไก่กับไข่ ถ้าเราผลักดันมือถือต่อไป อาจจะทดแทนบัตรได้ด้วย แต่ทุกวันนี้อาจจะต้องใช้คู่กันไปก่อน บางคนถามว่าไปผิดทางหรือไม่ เราบอกว่าไม่ เราอยากทำอิเล็กทรอนิกส์ แต่ช่วงรอยต่อแบบนี้เราอยากให้การเปลี่ยนแปลงมีประสิทธิภาพที่สุด
เห็นได้ชัดว่ามีข้อได้หลายๆอย่างที่ทำให้เกิดประโยชน์แก่ตัวภาครัฐเอง แต่ก็มีข้อเสียที่ยังต้องเจอคือ ประชาชนจะเกิดการแย่งชิงเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถจำเลขได้ง่าย ๆ เพราะการทำธุรกรรมต่าง ๆ สามารถทำผ่านทั้งสามอย่างได้อย่างเช่น หมายเลขบัตรประชาขน หมายเลขบัญชี หมายเลขโทรศัพท์ แต่คงไม่มีใครนั่งจำเลขบัญชี หรือเลขไอดีการ์ด คงต้องเลือกจำแต่เบอร์โทรศัพท์
อีกหนึ่งอย่างคือ ถ้าความปลอดภัยไม่ดีพอ อาจจะเปิดช่องทางให้แฮกเกอร์สามารถขโมยเบอร์และนำไปทำธุรกรรมอื่นได้ ฉะนั้นต้องดูว่ารัฐจะสามารถจัดการกับปัญหานี้อย่างไร เพราะถ้าผู้ใช้ไม่ทันระวังและปล่อยมัลแวร์เข้ามาในโทรศัพท์ อาจจะเกิดความเสียหายที่ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพย์ได้อย่างง่ายดาย