คดีฟ้องร้องดังกล่าวเกิดขึ้นตั่งแต่ปี 2011 จากการที่ผู้บริหารของ Oracle ตัดสินใจระงับการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่รันบนชิป Itanium โดยอ้างว่าได้ข้อมูลมาจากวิศวกรของ Intel หลายคนมองว่า Oracle กำลังจะตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาชิปซอฟแวร์ Itanium และหันไปโฟกัสกับชิป Xeon ที่ได้รับความนิยมกว่าแทน
ขณะที่ Intel และ HPE ออกมาปฏิเสธว่ายังไม่มีแผนจะหยุดพัฒนาชิป HPE จึงตัดสินใจฟ้อง Oracle ด้วยข้อกล่าวหาว่า Oracle ละเมิดข้อตกลงที่ว่า แต่ละฝ่ายจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของอีกฝ่ายที่มีลูกค้าร่วมกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกล่าวหาด้วยว่า Oracle พยายามบังคับให้ลูกค้าที่ใช้งานเซิร์ฟเวอร์ของ HPE และรันซอฟต์แวร์ของ Oracle ย้ายไปใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Oracle แทน ซึ่ง HPE ระบุด้วยว่าสูญเสียรายได้ไปจำนวนมาก จากการตัดสินใจของ Oracle ในครั้งนั้น
ขณะที่ทาง Oracle ฟ้องกลับว่า HPE ไม่จริงใจกับ Oracle และลูกค้าเกี่ยวกับอนาคตการใช้งานชิป Itanium รวมถึงอ้างด้วยว่า HPE จ่ายเงินให้ Intel หลายล้านเหรียญ เพื่อให้พัฒนาชิป Itanium ต่อ ซึ่งในปี 2012 ศาลสูงในเขต Santa Clara ตัดสินให้ Oracle มีความผิดและสั่งให้พัฒนาซอฟต์แวร์ต่อไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจาก HP ซึ่งทาง Oracle ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อก่อนที่คำตัดสินล่าสุดจะทำให้ Oracle อาจสูญเงินกว่า 3 พันล้านเหรียญ หลังคำตัดสินล่าสุดออกมา Oracle แถลงว่าจะยังไม่ยอมและยื่นอุทธรณ์ทั้งคำตัดสินในปี 2012 และคำตัดสินล่าสุดต่อไป โดยระบุว่าชิป Itanium ไม่ได้รับการพัฒนาต่อและไม่มีรุ่นใหม่ออกมาตั้งแต่ปลายปี 2012 (เพียงปีกว่าๆ หลังการตัดสินใจหยุดซัพพอร์ทซอฟต์แวร์ของ Oracle) ขณะที่สัญญาก็ไม่ได้ระบุว่า Oracle จะต้องซัพพอร์ท HPE ไปตลอดเช่นกัน