Dell Technologies Capital หน่วยงานเพื่อการร่วมลงทุนสำหรับ Dell Technologies ประกาศความเคลื่อนไหวหลังจากที่ได้เปิดตัวสู่สาธารณะครบหนึ่งปี และดำเนินการลงทุนเสร็จสิ้นไปทั้งหมด 24 โครงการใหม่ เตรียมเดินหน้าลงทุนเพิ่ม
Dell Technologies Capital ประการพร้อมลงทุนต่อเนื่อง
เดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอล ประกาศความเคลื่อนไหวด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ได้เปิดตัวสู่สาธารณะครบหนึ่งปี จากเดือนพฤษภาคม 2560 – เมษายน 2561 ได้ดำเนินการลงทุนเสร็จสิ้นไปทั้งหมด 24 โครงการใหม่
และการลงทุนอื่นๆ ที่ตามมาภายหลังในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของอัตราการลงทุนโดยเฉลี่ยต่อปีที่ 100 ล้านเหรียญ ตั้งแต่ปี 2555 เดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอล ได้ดำเนินการลงทุนใน 81 โครงการที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มสตาร์ทอัพที่อยู่ในขั้นต้นของการดำเนินงานโดยกระจายเพื่อให้ครอบคลุมเทคโนโลยีด้านต่างๆ ในวงกว้าง ในปีที่ผ่านมา
โดย 1ใน 3 ของการลงทุนใหม่ๆ มุ่งเน้นที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (ML) และการลงทุนส่วนที่เหลือเน้นที่เรื่องการรักษาความปลอดภัย โครงสร้างพื้นฐานยุคหน้า (Next-Gen Infrastructure) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ถือเป็นพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของกลุ่มธุรกิจภายใต้เดลล์ เทคโนโลยีส์
ในปีที่แล้ว มี 11 บริษัทที่ “exit” ออกมาจากทีมการร่วมลงทุน โดยสามบริษัทที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอได้ออกหุ้น IPOs ในช่วงเจ็ดเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอล คือนักลงทุนสถาบัน (institutional investor) รายแรกของ Zscaler (NASDAQ: ZS)
ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกระดับแนวหน้าในการปรับเปลี่ยนรูปแบบด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายสำหรับยุคสมัยของคลาวด์ โดยบริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทมหาชนในเดือนมีนาคม 2561 นอกจากนี้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอลยังลงทุนในบริษัท MongoDB (NASDAQ: MDB)
และกลายเป็นบริษัทมหาชนในเดือนตุลาคมปี 2560 และในบริษัท DocuSignl (NASDAQ: DOCU) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ โดยการเสนอขายหุ้น IPOs ทั้งหมดดังกล่าวมีมูลค่าตลาดรวมกันสูงเกินกว่า 11 พันล้านดอลลาร์
แสดงให้เห็นถึงความสามารถของทีมในการในการระบุโอกาสการลงทุนตั้งแต่ในช่วงเริ่มต้น และช่วยสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทสตาร์ทอัพ ทั้งนี้ พอร์ตโฟลิโอของเดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอล ยังรวมถึงบริษัทสตาร์ทอัพต่างๆ ที่มีอัตราการเติบโตสูงเกิน 100% โดยหลายบริษัทมีรายได้สูงเกิน 50 ล้านเหรียญ
สก็อตต์ ดาร์ลิ่ง ประธาน เดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอล กล่าวว่า เราดีใจกับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตอบรับที่ดีจากตลาดในการเปิด IPOs ของ Docusign MongoDB และ Zscaler ทั้งนี้ คุณค่าที่แท้จริงที่เรานำมาสู่เดลล์ เทคโนโลยีส์
และบริษัทสตาร์ทอัพในพอร์ตโฟลิโอของเรา เกิดจากการทำงานร่วมกัน ซึ่งช่วยให้เราสามารถมอบโซลูชันที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของเทคโนโลยีที่เกิดใหม่
โดยทีมการลงทุนของเดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอล ประกอบไปด้วยมืออาชีพด้านอุตสาหกรรมที่มีประสบการณ์ที่มาพร้อมความเชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวทั้งเรื่องของการลงทุนและการดำเนินงาน ซึ่งนอกจากจะสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกในการระบุเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอนาคตได้เป็นอย่างดีแล้ว
ยังรวมถึงความรู้และทักษะที่จะช่วยให้บริษัทในพอร์ตโฟลิโอสามารถขยายธุรกิจได้ประสบความสำเร็จ โดยทีมยังมุ่งไปที่การลงทุนในขั้นเริ่มต้นในเทคโนโลยีเกิดใหม่หลายๆ ด้านด้วยกัน ซึ่งครอบคลุมแต่ไม่ได้จำกัด
ทั้งในส่วนของอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) AI ML โครงสร้างพื้นฐานที่ควบคุมโดยนักพัฒนา (developer-led infrastructure) โครงสร้างพื้นฐานยุคหน้า การประมวลผลแบบเซิร์ฟเวอร์-เลส (server-less computing) และการรักษาความปลอดภัย
ไฮไลท์สำคัญของพอร์ตโฟลิโอ
บรรดาบริษัทที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอของ เดลล์ เทคโนโลยี แคปิตอล ยังคงสร้างความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนมากที่สุดในอุตสาหกรรมให้กับลูกค้าระดับเอ็นเตอร์ไพร์สที่ได้รับการจัดอันดับใน G2000:
· Cylance หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพที่เป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยบนไซแบอร์ของอุตสาหกรรม ประกาศ รายได้ GAAP ตลอดช่วง 12 เดือนสูงเกินกว่า 100 ล้านเหรียญ ภายในระยะเวลาเพียง 39 เดือนหลังจากที่ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกสู่ตลาด
· หน่วยประมวลผลอัจฉริยะ (IPU) ของ Graphcore คือหน่วยประมวลผลแรกที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ โดยแพลตฟอร์ม IPU ของ Graphcore IPU ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงสมรรถนะการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายในการเร่งการทำงานของแอปพลิเคชัน AI
ทั้งในระบบคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กร ซึ่งเดลล์ เทคโนโลยีส์ แคปิตอล มีส่วนร่วมในการนำระดมทุนในระดับซีรีส์ A ในปี 2560 และนับแต่นั้นมา บริษัทได้ประสบความสำเร็จในการระดมทุนทั้งสองรอบ คือ ซีรีส์ B ที่นำโดย Atomico และซีรี่ส์ C ที่นำโดย Sequoia Capital
· Minio’s คือ โอเพ่น ซอร์ส สำหรับ object storage ที่เติบโตเร็วที่สุดด้วย docker pulls ที่มากกว่า 70 ล้าน องค์กรธุรกิจใช้ Minio ในการสร้างไพรเวท คลาวด์ สตอเรจ ที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และสามารถทำงานร่วมกับ Amazon S3 ได้
· Moogsoft คือผู้นำทางการตลาดในการนำ AI เข้ามาใช้ในการดำเนินงานด้านไอที (AIOps) โดยบริษัทได้สร้างโซลูชัน AIOps ซึ่งช่วยลดปริมาณการแจ้งเตือนด้านไอทีและคิวในการรอรับการแก้ไขระบบงาน (tickets) ได้สูงถึง 99%
เพื่อช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีประสิทธภาพมากขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ทั้งนี้ Moogsoft เพิ่งระดมทุนเป็นจำนวนเงิน 40 ล้านดอลลาร์ในซีรีส์ D จากการนำของโกลด์แมน แซคส์
· RedLock ช่วยป้องกันภัยคุกคามระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบ Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure และ Google Cloud RedLock เป็นพันธมิตรการเปิดตัวที่สำคัญสำหรับ Amazon GuardDuty และ Cloud Security Command Center สำหรับ Google Cloud Platform
ข้อได้เปรียบของ Dell-VMware-Pivotal
ด้วยการลงทุนและความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรม เดลล์ เทคโนโลยี แคปิตอล ได้มอบความเชื่อมโยงที่สร้างคุณค่าให้กับหน่วยธุรกิจภายใต้เดลล์ เทคโนโลยีส์
· BlueData ได้มอบแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Big-Data-as-a-Service (BDaaS) ชั้นนำ และยังเป็นพันธมิตรที่ได้รับการคัดเลือกในโปรแกรม Technology Connect Partner ของเดลล์ อีเอ็มซี
โดยทั้งสองบริษัทมีสัมพันธภาพในการเข้าสู่ตลาด ที่ให้ศักยภาพในเรื่องของความคล่องตัวอย่างที่ต้องการ และการประหยัดค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ Big Data รวมถึง data science และ ML ภายในองค์กร
· การผสานรวมการทำงานของไคลเอ็นต์เพื่อการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง (Advanced Threat Protection client) ของ Cylance เข้ากับ Dell Endpoint Security Suite Enterprise และพร้อมสำหรับการใช้งานได้กับทั้งเดสก์ท็อปแบบเดิม และกับเดสก์ท็อปแบบ VDI นอกจากนี้ Cylance
ยังสนับสนุน Workspace ONE Trust Network ของ VMware ซึ่งรวมการจัดการและการรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ รวมถึงอุปกรณ์ปลายทาง และเครือข่ายด้วยระบบคาดการณ์ล่วงหน้าของ Cylance และการรักษาความปลอดภัยโดยอัตโนมัติ
· Edico Genome มอบโซลูชันที่ปรับแต่งการทำงานล่วงหน้าและพร้อมใช้ได้ทันทีหลังจากการติดตั้งโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงฟังก์ชันการทำงานร่วมกับ เดลล์ เทคโนโลยีส์ เพื่อช่วยให้สามารถวิเคราะห์จีโนมทั้งหมดได้ภายใน 22 นาทีเมื่อเทียบกับการใช้ซอฟต์แวร์มาตรฐานที่ต้องใช้เวลามากกว่า 24 ชั่วโมง
· Faction คือบริษัทที่นำเสนอ Multi-Cloud Platform ในเชิงการบริการ ที่ให้บริการแอปพลิเคชันอันทรงประสิทธิภาพและการควบคุมการใช้แอปพลิเคชันบนระบบโครงสร้างพื้นฐานพับบลิคคลาวด์ที่หลากหลาย ทั้งนี้ Faction
ทำงานร่วมกับเดลล์ อีเอ็มซี และ VMware Cloud บน AWS ในการช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ในสภาพแวดล้อมคลาวด์บน vSphere ด้วยประสิทธิภาพการทำงานแบบ on-premise สำหรับบริการ AWS ในวงกว้างได้อย่างครอบคลุม
· Graphcore ใช้ความสามารถในการผสานรวมทั้งในส่วน OEM และผลิตภัณฑ์ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ ในการนำนวัตกรรมของแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีการประวลผล AI/ML ไปสู่ผู้ใช้ในวงกว้างยิ่งขึ้น
· Minio ให้บริการ multi-cloud object storage สำหรับ Pivotal Cloud Foundry (PCF) ทั้งนี้ แอปพลิเคชันกลายเป็นสิ่งที่สามารถใช้ร่วมกันได้หลายระบบ
ด้วยการทำให้ API ให้เป็นมาตรฐาน สามารถรองรับการทำงานของ Amazon S3 ได้ไม่ว่าจะอยู่บนโครงสร้างระบบคลาวด์แบบใดก็ตาม โดย Minio ปรับใช้งานในลักษณะแพคเกจ BOSH หรือ Pivotal Tile ได้ภายในไม่กี่นาที
*รายชื่อของบริษัททั้งหมดที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอได้ที่ https://www.delltechnologies.com/en-us/capital/ventures/portfolio.htm
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่