กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้าจัดหน้า DITP EXP 2018 ผสานความร่วมมือ รัฐ เอกชน สร้างเครือข่ายความเข้มแข็งรับเศรษฐกิจใหม่ (Digital Economy)
DITP ผสานความร่วมมือ รัฐ เอกชน สร้างเครือข่ายความเข้มแข็งรับเศรษฐกิจ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าจัดงาน CLMVT Executive Program on New Economy 2018 ครั้งที่ 2 หวังสานความร่วมมือ หน่วยงานภาครํฐ และเอกชน สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจยุตดิจิทัล (Digital Economy)
พร้อมดึงผู้บริหารระดับแนวหน้าจาก 5 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) เข้าร่วม เชื่อส่งผลดี ทั้งในเรื่อง องค์ความรู้ใหม่จากผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์ระดับโลกจาก Stanford Uiversity และเกิดความร่วมมือในระดับภูมิภาคมากขึ้น
สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดโครงการต่อเนืองนี้ ไม่เพียงแต่เพื่อสร้างความมือ แต่ยังเป็นการส่งเสริมการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ อาทิ Growth Hacking, Building an International Brand, Innovation Investment for Corporate และ Outward Mindsets
ซึ่งจะได้ความรู้ผ่านการ Pitching จาก วิทยากรของ Stanford Uiversity และจากพี่เลี้ยงซึ่งเป็นนักธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการนี้ในปีก่อนหน้า ร่วมไปถึงมีโอกาสร่วมพัฒนาธุรกิจ Start Up ใน Silicon Valley และยังร่วมไปถึงซึ่งน่าจะสามารถช่วยให้เกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขในระดับนโยบายของแต่ล่ะประเทศ
และความร่วมมือในครั้งสิ่งที่จะได้นอกเหนือองค์ความรู้ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มนักธุรกิจ จากเอกชน กลุ่มหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากภาครัฐ ซึ่งจะช่วยจะเปิดโอกาสให้สามารถขยายธุรกิจ และสร้างความเข้มแข็งร่วมกันของกลุ่มประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะในยุคที่เราต้องเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีทันสมัย
อาทิ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI-Artificial Intelligence) เครื่องมืออัจฉริยะทั้งหลายที่เชื่อมโยงกับระบบอินเตอร์เน็ท (IoT-Internet of Things) จึงต้องเข้าใจกระบวนการทำงานเทคโนโลยีมาสร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจ เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพราะโลกยุคหน้าหมุนเร็ว เปลี่ยนแปลงเร็ว
ร่วมถึงต้องสร้างความเข้าใจ ทั้งในแง่มุมของกฏระเบียบ ที่แตกต่างกันในแต่ล่ะประเทศ ซึ่งเป็นสิ้วที่เราต้องร่วมกัน “จัดระเบียบ และสร้างความเข้าใจ” ของแต่ละประเทศให้ตรงกัน วันนี้ผู้ประกอบการจึงต้องหูไวตาไว และก้าวให้ทันความเปลี่ยนแปลง ถึงจะสร้างความเข้มแข็งร่วมกัน และสร้างอำนาจต่อรองได้
จันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า โครงการ CLMVT Executive Program on New Economy 2018 ถือเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทางการค้า และส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ (Strategic Pertnership) ระหว่างประเทศไทย และกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน
เพื่อก้าวสู่โลกการค้ายุคใหม่ไปด้วยกัน โดยการร่วมกลุ่มในครั้งนี้ จะข่วยทำให้เกิดการสร้างความเข้าใจร่วมกัน ทั้งในส่วนของการ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ที่ได้วางยุทธศาสตร์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน และยังเป็นการสานต่อยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงการค้าในภูมิภาค (Connectivity) ของเรา
ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารระดับสูงทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงนักธุรกิจชั้นนำ จากทั้ง 5 ประเทศ แลกเปลี่ยนมุมมอง ร่วมกันออกแบบกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อผลักสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิด ไปสู่การสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระดับใหญ่ขึ้นในระดับประเทศ และระดับภูมิภาคในอนาคต
ด้าน พรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กล่าวว่า โครงการนี้ได้ออกแบบเป็นหลักสูตรระยะเวลา 4 วัน ภายใต้แนวคิด Creative CLMVT โดยจะใช้เวลา 3 วันครึ่ง ในการอบรมให้ความรู้ใหม่ ๆ ที่ครอบคลุมทั้ง นวัตกรรม เทคโนโลยี การตลาด
และร่วมถึงการลงสนามเพื่อศึกษาตัวอย่างของการบริหารธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการค้ายุคใหม่ อาทิ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ทำให้หลักสูตรนี้ไม่ถูกจำกัดที่อยู่แต่ในห้องเรียนเท่านั้น เรามั่นใจว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะรับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการเข้าร่วมกิจกรรมนี้
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุประสงค์มุ่งเพื่อโจมตีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Digital Content)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่
