Ericsson

อีริคสัน (Ericsson) และอินเทล (Intel) เผยความร่วมมือพัฒนาแฟลตฟอร์ม Software-Defined Infrastructure (SDI) ที่สามารถช่วยจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่น รับความต้องการเทคโนโลยี Network Functions Virtualization (NFV), Distributed cloud และ 5G…

Ericsson จับมือ Intel พัฒนา SDI สำหรับการสื่อสารยุค 5G ผ่าน Cloud

อีริคสัน และอินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมมือกันเป็นเวลาหลายปีในการพัฒนา software-defined infrastructure (SDI) โดยผลของการวิจัยทำให้เกิดแพลทฟอร์มของระบบการจัดการโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ที่ทำให้โครงสร้างมีความคล่องตัวยืดหยุ่น โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ

สอดคล้องกับแนวโน้มเทคโนโลยี Network Functions Virtualization (NFV)*, Distributed cloud** และ 5G ซึ่งผู้ให้บริการการสื่อสารหลายรายเริ่มหันไปใช้อุปกรณ์โครงข่ายที่สามารถรองรับมาตรฐานทั่วไปได้ เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนของโครงสร้างพื้นฐาน

อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการยังมีความต้องการให้มีความสามารถในการบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์สำหรับการดำเนินการที่มีความคล่องตัวในการส่งมอบบริการใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้ใช้โครงสร้างพื้นฐานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

ซึ่งล่าสุด อีริคสัน และอินเทลได้ออกมาเผยถึงร่วมมือในการพัฒนาแพลทฟอร์มการบริหารจัดการอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ที่นำความยืดหยุ่น และคล่องตัวของเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้ในการจัดการชั้นของโครงสร้างฮาร์ดแวร์ สำหรับผู้ให้บริการสื่อสารด้วยแพลทฟอร์มการบริหารจัดการแบบใหม่นี้จะช่วยให้สามารถนำเสนอบริการใหม่ ๆ

เข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว มีการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างคุ้มค่า และลดต้นทุนด้านการลงทุนสำหรับโครงข่ายส่วนหนึ่งของข้อตกลงในพันธะสัญญา ทั้งสองบริษัทจะทำการพัฒนาร่วมกันในส่วนของซอฟท์แวร์ของอีริคสันที่เรียกว่า Ericsson SDI Manager software

Ericsson

และการออกแบบของอินเทล Intel Rack Scale Design (Intel RSD) พร้อมยกระดับขีดความสามารถของโซลูชั่นส์ด้วยระบบการจัดการขั้นสูง โดยความร่วมมือในการพัฒนานี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถลดภาระในการใช้อุปกรณ์ที่มาจากหลายยี่ห้อ ด้วยผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์แบบ End-to-End ของอีริคสัน และนวัตกรรมสถาปัตยกรรมใหม่ล่าสุดจากอินเทล

สร้างโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องควบคุมจากศูนย์กลาง

ลารส์ มาร์เต็นสัน หัวหน้างานฝ่ายโครงสร้างคลาวด์และ NFV ภายใต้หน่วยบริการด้านธุรกิจดิจิทัลของอีริคสัน กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของอีริคสันกับอินเทลมาอย่างยาวนาน ทำให้เราได้ผลงานที่ประสบความสำเร็จร่วมกัน การร่วมมือกันครั้งนี้จะเน้นในการพัฒนาส่วนของซอฟท์แวร์ที่ใช้ในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์

และทำให้เราเห็นว่ามันเป็นความสำเร็จที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถของผู้ให้บริการด้านการสื่อสารให้สามารถใช้งานโครงสร้างแบบเปิดของระบบคลาวด์และ NFV ตามแนวทางของระบบ Edge ซึ่งแต่เดิมจะต้องทำในศูนย์ข้อมูลกลาง (Centralized Data Center) เท่านั้น

ด้วยความร่วมมือระหว่างอินเทล และอีริคสันได้สร้างความเข้มแข็งในการแข่งขันให้กับทั้งสององค์กร และสามารถดำเนินการตามแนวทางของอีริคสันในการนำเสนอ Software Defined Infrastructure

ด้าน ซานดร้า ริเวอร่า รองประธานอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์แพลทฟอร์มเครือข่ายของอินเทล กล่าวว่า 5G จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง เร่งรัดการพัฒนาแอพพลิเคชั่น รวมทั้งกระตุ้นการสร้างนวัตกรรมการใช้งานและการพัฒนาบน Edge  ด้วยความร่วมมือระหว่างอินเทลกับอีริคสันในการสร้างการบริหารจัดการแบบใหม่

บนโครงสร้างพื้นฐานจะตอบสนองต่อความต้องการผู้ให้บริการด้านการสื่อสารในการกำจัดอุปสรรคต่างๆ  ลดค่าจ่าย และสามารนำเสนอบริการใหม่ ๆ บน 5G และ Edge ด้วยความรวดเร็วยืดหยุ่นคล้ายการทำงานบนระบบคลาวด์ โดยโครงข่ายของผู้ให้บริการจะมีความฉลาดมากขึ้นและสามารถตั้งค่าโปรแกรมการดำเนินการได้อย่างอัตโนมัติ

Ericsson

ทั้งนี้ในส่วนของความร่วมมือกัน อีริคสันและอินเทลจะทำการพัฒนาซอฟท์แวร์ใหม่ที่เรียกว่า Ericsson SDI Manager software และ Intel RSD รองรับให้ลูกค้าปัจจุบันสามารถใช้งานได้ นวัตกรรมของการพัฒนาซอฟท์แวร์ และฮาร์ดแวร์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันทำให้เกิดเป็นแพลทฟอร์มฮาร์ดแวร์ใหม่ของอีริคสัน

และมีผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ใหม่ของอินเทลที่จะสามารถร่วมจำหน่ายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจเจ้าอื่น ๆ หรือแม้แต่ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้เช่นกัน Ericsson SDI ที่ทำงานบน Intel RSD ในการบริหารจัดการการใช้งานฮาร์ดแวร์ เหมาะสำหรับการใช้งานหนักทุกประเภท งานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

งานที่ต้องการสร้างบริการใหม่อย่างรวดเร็ว งานที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะการทำงาน และใช้งานฮาร์ดแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดย Intel RSD เป็นสถานปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานอุตสาหกรรมในวงกว้าง โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถแยกส่วนได้

ซึ่งแตกต่างจากสถาปัตยกรรมแบบศูนย์ข้อมูลกลาง (Centralized Data Center) ในปัจจุบันที่มีข้อจำกัดในด้านการสร้าง การบริหารจัดการ และการขยาย โดย อีริคสัน และอินเทล มีแผนเปิดตัวโซลูชั่นส์ใหม่นี้ที่งาน Mobile World Congress 2109 เมืองบาร์เซโลน่า วันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม

Network Function Virtualization (NFV) คือ การทำให้ฟังก์ชั่นส์เครือข่ายเป็นแบบเสมือน และสร้างให้เป็นจริงขึ้นมาด้วยฮาร์ดแวร์สำหรับใช้งานเฉพาะทาง การใช้งาน NFV โดยทั่วไปจะใช้เซิร์ฟเวอร์ในการรันซอฟท์แวร์เวอร์ชันต่าง ๆ ของบริการเครือข่ายที่เมื่อก่อนเคยอาศัยฮาร์ดแวร์เป็นพื้นฐาน

ซึ่ง NFV จะทำให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารสามารถจัดการโครงข่ายของตนเองตามความต้องการ โดยการปรับฟังก์ชันการทำงานสามารถทำได้โดยการอัพเดทซอฟท์แวร์เท่านั้น ทำให้การให้บริการแก่ลูกค้าไม่หยุดชะงัก ในกรณีที่ต้องการอัพเกรดโครงข่าย

Distributed Cloud หมายถึง การเติบโตขึ้นของการใช้งาน 5G/ IoT จะตอบสนองต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยทั้งนี้ในแต่ละธุรกิจจะมีความต้องการทรัพยากรของโครงสร้างพื้นฐานที่แตกต่างกัน ทั้งทางด้านความเร็ว ความหน่วง การประหยัดพลังงาน ต้นทุนราคา และอื่น ๆ

โดยโครงสร้างพื้นฐานในการประมวลผลจะต้องสามารถทำได้ที่สถานีฐานที่มีการกระจายตัวอยู่ครอบคลุมทั่วไป ซึ่ง Distributed Cloud จะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบ Edge Computing ที่เป็นพัฒนาการจากระบบ Centralize Cloud ในปัจจุบัน

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง 
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com, www.ericsson.com

สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่