สำนักข่าว Reuters รายงานว่า บริษัทผู้พัฒนาการวางระบบเครือข่ายอย่าง Ericsson ชนะคู่แข่งรายสำคัญอย่าง “China Telecom” และ “China Unicom” ในการประมูลคลื่น 5G โดยให้ส่วนแบ่งแก่ Ericsson ที่ชนะประมูลไป 3%
ส่วนผู้ชนะรายต่อมาที่ได้ส่วนแบ่งในสัญญา 5G ต่อจาก Ericsson ประกอบด้วย Huawei, ZTE และกิจการของรัฐอย่าง Datang Telecom
ส่วน Nokia ที่คาดหวังแย่งส่วนแบ่งการตลาดของ Ericsson กลับไม่ได้ส่วนแบ่งในการร่วมสัญญาคลื่น 5G ในครั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลจากเอกสารประกวดราคาที่บริษัทสัญชาติจีนเปิดเผยออกมา ขณะที่เอกสารดังกล่าว ไม่ได้เปิดเผยเปอร์เซนต์ของผู้ชนะ
ซึ่งการประมูลสัญญา 5G ตอนนี้ คือ การประมูลในสัญญาฉบับที่ 2 ครอบคลุมสถานีส่งสัญญาณ 5G นับพันสถานี โดยในเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา Nokia ได้ส่วนแบ่งในสัญญา 5G จำนวน 4% ในสัญญาฉบับที่ 1
ก่อนหน้านี้ Ericsson ถูกเตือนว่า อาจจะสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศจีน เนื่องจากการแบนซัพพลายเออร์ด้านอุปกรณ์ที่มาจากจีนในประมูล 5G ที่สวีเดน ซึ่งการแบนดังกล่าวทำให้ส่วนแบ่งของ Ericsson ใน China Mobile ลดลงไป 2% เหลือส่วนแบ่งเพียง 11% ในปี 2563
ต้องยอมรับว่า รัฐบาลในสหภาพยุโรปควบคุมบริษัทจีนที่สร้างเครือข่าย 5G อย่างเข้มงวด หลังจากมีแรงกดดันจากทำเนียบขาวของสหรัฐฯ โดยได้อ้างว่าอุปกรณ์ของ Huawei อาจถูกรัฐบาลจีนใช้เพื่อสอดแนม แต่ Huawei พยายามปฏิเสธข้อกล่าวหา “การเป็นภัยความมั่นคง” อยู่บ่อยครั้ง
ขณะที่ Nokia ที่กลับมาเติบโตหลังแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้สำเร็จ จนได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น ได้กล่าวว่า Nokia ทราบผลการประกวดราคาในประเทศจีนแล้ว
“เราเคารพการตัดสินใจของลูกค้า และยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจของ China Telecom และ China Unicom ต่อไปในอนาคต” ตัวแทนของ Nokia กล่าว
น่าจับตาว่าตลาดจีนตอนนี้มีการแข่งขันที่สูงและอ่อนไหวต่อราคา ท่ามกลางปริมาณการใช้งาน 5G ที่ถูกนำไปใช้จริงสูงขึ้น ทำให้การปฏิเสธความน่าสนใจของตลา่ด 5G ในประเทศจีน อย่างจะเป็นเรื่องไม่ง่ายนักในเวลานี้
