หัวเว่ย เปิดตัว โซลูชั่น Intent-Driven CloudCampus ผสานเทคโนโลยี เอไอ (AI), บิ๊กดาต้า (Big Data) และคลาวด์ (Cloud) ในสถาปัตยกรรมเครือข่าย ลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (Opex) เพิ่มผลตอบแทนการลงทุน (ROI) เร่งธุรกิจองค์กรให้เป็นดิจิทัลได้เร็วขึ้น
Huawei Intent-Driven CloudCampus
เมื่อไม่นามานี้ หัวเว่ย ได้ออกมาเปิดตัวโซลูชั่น Intent-Driven CloudCampus และสวิตช์แบบตั้งโปรแกรมได้สำหรับเครือข่ายองค์กร ในงาน Huawei Western Europe Partner Summit 2018 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยชูความสามารถทางสถาปัตยกรรมแบบใหม่สำหรับ Intent-Driven Network (IDN)
โดยโซลูชั่น CloudCampus จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถสร้างเครือข่ายแบบมีสายและไร้สายสำหรับอนาคต เพื่อมอบประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดสำหรับผู้ใช้งาน การจัดหาบริการ การปฏิบัติการและซ่อมบำรุง แบบอัตโนมัติ และการเข้าใช้งานแบบผสมผสาน
โดยจากดัชนีชี้วัดด้านการเชื่อมโยงสื่อสารทั่วโลกประจำปี 2017 (2017 Global Connectivity Index) ของหัวเว่ย ที่ได้สำรวจองค์กรจำนวน 3,000 แห่งในอุตสาหกรรมต่างๆ พบว่า การเชื่อมโยงระบบสื่อสารทำให้องค์กรต่างๆ สามารถขยายธุรกิจออกไปนอกภูมิภาค
และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น ช่วยพัฒนาทั้งด้านความสามารถในการผลิต ประสิทธิภาพ รวมถึงขีดความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดให้ดีขึ้น ดังนั้นหัวเว่ยได้นำเอาแนวคิดการออกแบบที่มีความอัจฉริยะ เรียบง่าย ผสมผสาน ปลอดภัย และเปิดกว้างมาใช้ โดยได้เปิดตัวโมดูล 2 ส่วน
ได้แก่ CampusInsight ซึ่งเป็น campus network insight engine ตัวใหม่ และโซลูชั่นเครือข่ายอัตโนมัติ Software-Defined Campus (SD-Campus) สำหรับ CampusInsight นั้น จะช่วยสร้างระบบคาดการณ์ และบำรุงรักษาตัวเองได้ในระบบปิด
ที่มาพร้อมความสามารถในการมองเห็นที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้งานแต่ละคนในแบบเรียลไทม์ ขณะที่ SD-Campus นำเครือข่ายเสมือนจริงและเครือข่ายกายภาพแบบอัตโนมัติมาใช้อย่างครอบคลุมตลอดทั้งวงจร ตั้งแต่การวางแผนและการติดตั้งวางระบบ ไปจนถึงการปฏิบัติการ และซ่อมบำรุง
“การเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับองค์กรนั้น กำลังมีการขยายขอบเขตจากผู้คนไปสู่สิ่งของและสิ่งแวดล้อม”
มิสหวัง ซือหง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่าย Campus Network ของหัวเว่ย กล่าวว่า โซลูชั่น CloudCampus ของเราจะช่วยองค์กรต่าง ๆ สร้างเครือข่ายดิจิทัลอัจฉริยะที่เชื่อมจุดมุ่งหมายด้านธุรกิจและสถาปัตยกรรมเครือข่ายเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล
ด้าน โรหิต เมห์รา รองประธานฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของ IDC ได้ให้ความเห้นเพิ่มว่า องค์กรธุรกิจในปัจจุบันจะได้ประโยชน์มากมายจากการใช้แนวคิดการสร้างเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานไอทีเพื่อธุรกิจเป็นหลัก ผู้จำหน่ายที่สามารถนำเทคโนโลยี AI/ML
และโมเดลที่มีพื้นฐานด้านการวิเคราะห์มาต่อยอดในการทำเครือข่ายอัตโนมัติ ซึ่งจะมีความคล่องตัวกว่าและสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม และปลอดภัย ซึ่งในอนาคต การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถเปิดตัวธุรกิจใหม่ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น
เครือข่ายจึงต้องตอบสนองความต้องการของตลาดและการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วฉับไว ก่อให้เกิดความท้าทายใหม่สำหรับเครือข่าย CloudCampus ของหัวเว่ยจะยังคงพัฒนาต่อไปโดยยึดหลักการของ Intent Driven Network (IDN) และค่อย ๆ เพิ่มโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์การใช้งานเฉพาะด้านมากยิ่งขึ้น ในการนี้ หัวเว่ยได้วางเป้าหมายที่จะทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายองค์กรสามารถเข้าใจจุดประสงค์ทางธุรกิจของผู้ใช้งานระดับองค์กรได้อย่างแท้จริง รวมถึงติดตั้งใช้งาน และจัดการเครือข่ายในแนวทางอัตโนมัติและอัจฉริยะ เพื่อเป็นการวางรากฐานให้กับแพลตฟอร์มดิจิทัลขององค์กร
ขณะที่ ผศ. อัครินทร์ คุณกิตติ ผู้อำนวยการสำนักบริการคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้กล่าวเสริมถึงโครงการ CloudCampus ที่ได้ดำเนินการร่วมกับหัวเว่ย ว่า หัวเว่ยและสจล. ประสบความสำเร็จในการร่วมมือติดตั้งระบบเครือข่าย SDN สำหรับสถานศึกษา
CloudCampus ของหัวเว่ยช่วยให้ สจล. สามารถให้บริการระบบเครือข่ายเสมือนจริงที่เชื่อมโยงทุกเครือข่ายในมหาวิทยาลัยและดาต้าเซ็นเตอร์เข้าเป็นหนึ่งเดียว ระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัยสามารถส่งถ่ายข้อมูลที่ความเร็ว 100 กิกะบิตต่อวินาที มีแบนด์วิธที่กว้าง
และมีความปลอดภัยสูง ไปยังคณะต่างๆ และนักศึกษา รวมไปถึงมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นผ่านการผนวกรวมทั้งระบบสายและไร้สาย นอกจากนี้ ด้วยระบบเครือข่ายใหม่ สจล. จะมุ่งมั่นรักษาความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยต่อไป
เครื่องมือใหม่ๆ ใน CloudCampus
CampusInsight 2.0 : (Campus network insight engine หรือระบบเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกในเครือข่ายองค์กร) อาศัยเทคโนโลยี Telemetry อันล้ำยุค CampusInsight จะเก็บรวบรวมข้อมูลเครือข่ายและการใช้งานจากอุปกรณ์เครือข่ายได้ทั้งแบบเรียลไทม์และแบบออนดีมานด์
ขณะเดียวกันก็จะใช้เทคโนโลยีบิ๊กดาต้า และ AI วิเคราะห์ความบกพร่องของเครือข่ายและคาดการณ์ล่วงหน้า ดังนั้น จึงสามารถตรวจจับสิ่งที่อาจเป็นปัญหาได้มากถึง 85% โดยอัตโนมัติ
SD-Campus 2.0 : (โซลูชั่นจัดการเครือข่ายองค์กรอัตโนมัติตลอดอายุการทำงาน) เหมาะสำหรับเครือข่ายองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ SD-Campus นี้ใช้ Software-Defined Networking (SDN) และเทคโนโลยีคลาวด์เพื่อใช้ระบบอัตโนมัติในการติดตั้งใช้งานเครือข่าย
การเปิดใช้งานเครือข่ายเสมือน และการบริหารจัดการนโยบายที่มุ่งเน้นผู้ใช้งานหรือแอพพลิเคชั่น คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ลงได้ถึง 80%
สวิตช์ Agile แบบใหม่ S5730-HI และ S6720-HI ที่รองรับ SD-Campus : สวิตช์ Agile เหล่านี้รับรองการป้อนคำสั่งเต็มรูปแบบ โดยพัฒนาต่อยอดจากชิป Ethernet Network Processor (ENP) ของหัวเว่ย
มีการผนวกรวมเทคโนโลยีมีสายและไร้สายเข้าด้วยกันโดยอาศัยฟังก์ชั่น Access Controller (AC) แบบเนทีฟ และรองรับ SD-Campus เฉพาะด้านแบบต่างๆ
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Reporters)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่
