ที่การประชุม M2M World Congress ในกรุงลอนดอน หัวเว่ย ได้ประกาศกลยุทธ์และนวัตกรรม Narrow Band Internet of Things (NB-IoT) ของบริษัท เพื่อผลักดันการใช้งาน IoT และโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในแง่ของสังคมและเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังได้สาธิตวิธีการสร้างระบบนิเวศที่ทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุศักยภาพสูงสุดของ NB-IoT ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับ โวดาโฟน ในการเปิดตัว Vodafone NB-IoT Open Lab ที่เมืองนิวบูรี่ สหราชอาณาจักร
เทคโนโลยี NB-IoT ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะ Low Power Wide Area (LPWA) ที่ได้รับการปรับให้เป็นมาตรฐานโดยกลุ่ม 3GPP เทคโนโลยีดังกล่าวนำเสนอคุณประโยชน์สำคัญมากมาย ทั้งรองรับการเชื่อมต่อได้กว่า 100,000 จุดต่อเซลล์ อายุแบตเตอรี่นาน 10 ปี ครอบคลุมระยะไกลด้วยค่าสัญญาณ 20db บนเครือข่าย GSM ความปลอดภัยเหนือกว่าด้วยระบบตรวจสอบสองทางและระบบเข้ารหัสบนส่วนต่อประสาน ทั้งยังมอบความเสถียรบนเครือข่ายในการใช้งาน IoT และโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะ
“การใช้งาน IoT ถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการพลิกโฉมการเชื่อมต่อของธุรกิจและเมืองต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในแง่ของสังคมและเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี NB-IoT เช่น ระบบมิเตอร์อัจฉริยะ และระบบจอดรถอัจฉริยะนั้น จะเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อมีนวัตกรรมและความร่วมมือในเรื่องของ NB-IoT เพื่อทำให้มั่นใจว่าการเชื่อมต่อจะปลอดภัย มีเสถียรภาพ และทนทาน” พอล สแกนลัน ประธานฝ่ายให้คำปรึกษาด้านธุรกิจและเครือข่ายของหัวเว่ย กล่าว “หัวเว่ย ร่วมด้วยพาร์ทเนอร์ของเรา กำลังเดินหน้าต่อยอดนวัตกรรม NB-IoT อันล้ำหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายหลักๆในการใช้งาน IoT และโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะ
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นสปอนเซอร์ระดับแพลตตินั่มของการประชุม M2M Congress เราเชื่อว่า นี่เป็นเวทีสำคัญที่นำบรรดาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมารวมตัวกัน เพื่อพูดคุยในเรื่องของนวัตกรรมและแนวปฏิบัติที่ดี สู่การพัฒนาเทคโนโลยี NB-IoT อย่างยั่งยืน เพื่อนำเสนอการใช้ IoT และโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะ และทำให้โลกของเรามีการเชื่อมต่อถึงกันได้ดียิ่งขึ้น