ในปี 2561 จะนับเป็นปีที่สำคัญของการพัฒนาระบบไอทีของหน่วยงานต่างๆ หลายเทคโนโลยีที่พูดถึงกันมาหลายปีไม่ว่าจะเป็น คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กเดต้า หรือกระทั่งอินเทอร์เน็ตออฟธิง (IoT)
นับตั้งแต่ปี 2559 เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ IoT อย่างมาก โดยข้อมูลที่น่าสนใจจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ระบุชัดเจนว่า มีการขออนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ IoT เพิ่มขึ้นจากหลักแสน เป็นหลายล้านชิ้นในปี 2559 และยังเพิมขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี2560 และปีต่อไป
การนำเข้าอุปกรณ์เป็นการส่งสัญญาณว่า ธุรกิจชั้นนำเริ่มนำ IoT มาใช้กับธุรกิจ
Smart City เป็นอันดับแรกของแนวคิดในการทำ IoT มาใช้ กับการพัฒนาเมือง โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ต ขอนแก่น และเชียงใหม่ ที่วันนี้ได้นำ IoT มาใช้ในด้านต่างๆ เช่น กล้อง IP Camera เซ็นเซอร์ตรวจวัดอากาศ ควบคุมการจราจร รวมถึงการใช้ในภาคธุรกิจการท่องเที่ยว
ธุรกิจค้าปลีก (Retail) เป็นธุรกิจที่มีการปรับตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาจากผลกระทบที่ได้รับจากธุรกิจ eCommerce วันนี้ Retail นำ IoT มาใช้ในการเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าผ่านเซ็นเซอร์ และกล้อง IP Camera รวมถึงการใช้เซ็นเซอร์มาสร้างประสบการใหม่ๆ ในการขายเช่น การนำเสนอโปรโมชัน ณ จุดขาย
เกษตรเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ใช้ IoT เช่นกัน การเกษตรแนวใหม่หรือ Smart Farm เป็นรูปแบบของการนำ IoT มาใช้ในการตรวจวัดและควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนเกษตรให้เหมาะสมกับการเติบโตของผัก และผลไม้ ปัจจุบันมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจหลายรายที่ประสบความสำเร็จ
ผมกำลังจะสะท้อนว่า IoT เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวมาแล้วและกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เปรียบเสมือนรถด่วนที่เข้าจอดสถานีกรุงเทพและกำลังจะออกจากชานชาลาครับ หากคุณเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังค้นหาความแตกต่างในบริการหรือสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้ลูกค้า IoT คือหนึ่งเทคโนโลยีที่ต้องศึกษา
