Loxley

Loxley เปิดตัวธุรกิจ เซอร์วิส โพรไวเดอร์ ตั้งเป้าลุยให้บริการเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอัจริยะ “Intelligent Security” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Beyond Security…

highlight

  • ล็อกซเล่ย์ อีโวลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด” หรือ LET เปิดตัวในฐานะ เซอร์วิส โพรไวเดอร์ ชั้นนำที่สามารถบูรณาการเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเหนือระดับ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Beyond Security โชว์ 4 กลุ่มงานไฮเทค ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงผสานแพลทฟอร์มอัจฉริยะ เสริมศักยภาพงานรักษาความปลอดภัย 

Loxley โดดร่วมวงให้บริการเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย

ยุทธพร จิตตเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ล็อกซเล่ย์ อีโวลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด หรือ LET กล่าวว่า บริษัท LET มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ถือหุ้นโดย บมจ.ล็อกซเล่ย์ 100% โดยมุ่งเป้าเดินหน้าให้บริการเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ ทั้งการออกแบบ

บูรณาการระบบสารสนเทศ (System Integration Service) ระบบเครือข่าย แอพพลิเคชั่น รวมถึงงานบริการบำรุงรักษาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย มุ่งสู่การเป็นเบอร์หนึ่งของเซอร์วิส โพรไวเดอร์ ที่ให้บริการดูแลรักษาความปลอดภัยแบบโทเทิ่ล โซลูชั่นส์ (Total Solution) สอดรับกับประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0

จุดเด่นของ LET คือมีแพลทฟอร์มเป็นของตนเอง มีชื่อว่า บียอน แพลทฟอร์ม (BeyondPlatformซึ่งร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่าง บริษัท บราเซ็นท์ ประเทศสิงคโปร์ ในการพัฒนาแพลทฟอร์มอัจฉริยะด้านรักษาความปลอดภัย ผ่านบิ๊กดาต้า (Big Data) และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาผสานเข้ากับ

กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) โดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ (Drone ) ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับต่าง ๆ ในระดับเมือง จังหวัด และภูมิภาค บริหารจัดการแบบศูนย์รวมผ่านห้องปฏิบัติการ Single Command Control Center ภายใต้คอนเซ็ปต์ 3P : Predict, Prepare, Prevent และ 1M : Manage

เพื่อให้ได้โซลูชั่นส์ล้ำสมัย เข้ามาช่วยผู้ปฏิบัติงาน ยับยั้งภัยคุกคามและลดปัญหาการเกิดอาชญากรรมอย่างยั่นยืน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่ประชาชนคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่ เซฟ ซิตี้ หรือเมืองปลอดภัยได้อย่างแท้จริง

Loxley

สำหรับบริการของ LET ประกอบด้วย 4 กลุ่มงาน เทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ซึ่งสามารถออกแบบและให้บริการได้ตามความต้องการของลูกค้า ทั้งในด้านอุปกรณ์ เทคโนโลยี ระบบงาน และงบประมาณ เพื่อบูรณาการเป็นโทเทิ่ล โซลูชั่นส์ ได้แก่

กลุ่ม Public Safety

โดยมุ่งเน้นการออกแบบ ระบบการทำงานแบบรวมศูนย์ ผนวกกับเทคโนโลยีโปรแกรมวิเคราะห์ภาพเคลื่อนไหว ที่มีการทำงานแบบอัจฉริยะ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วแบบ Real Time พร้อมคัดกรองและสรุปย่อเหตุการณ์ ให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว สำหรับพื้นที่สาธารณะ มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ

กลุ่ม BeyondPlatform & Unmanned Security

ซึ่งกลุ่มงานเทคโนโลยีไร้มนุษย์ควบคุม และระบบบริหารจัดการ ผ่านการออกแบบการบริหารจัดการศูนย์ควบคุมและสั่งการพร้อมเชื่อมโยงระบบตรวจจับต่างๆ จากระยะไกลเข้ามาวิเคราะห์และสั่งการต่อแบบอัตโนมัติ ผ่านเทคโนโลยีจักรกลภาคพื้น จักรกลภาคอากาศ

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยีบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ระยะไกล เป็นต้น มีกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับองค์กร เช่น อาคารสำนักงานต่างๆ ร้านค้าปลีกที่มีสาขาจำนวนมาก หมู่บ้านจัดสรร ไปจนถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไป

กลุ่ม Airport Technology

ซึ่งเป็นงานในส่วนเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อระบบท่าอากาศยาน โดยน้นการออกแบบเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการระบบโดยสารภายในอากาศยานชั้นนำ ให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว อาทิ ระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า สัมภาระ ระบบริหารจัดการเช็คอินผู้โดยสาร ระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า 

กลุ่ม Special Technology

งานเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นการออกแบบระบบเพื่อภารกิจแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่หน่วยงาน ความมั่นคงระดับชาติ อาทิ ระบบ GSM Interceptor  ระบบ Jammer ระบบ Military Drone ระบบกล้อง Multi Sensor ระบบ Mesh Network 

รวมไปถึงระบบ Big Data ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลด้วยปัญญาประดิษฐ์ ให้แก่หน่วยงานความมั่นคงเพื่อระงับความเสียหายต่อเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

โดยในปัจจุบันตลาดซีเคียวริตี้จำเป็นต้องขายความเชื่อมั่นเป็นหลัก ดังนั้นนอกจากผลงานซึ่งเป็นเครื่องการันตีแล้ว LET ยังใช้กลยุทธ์การทำตลาดโดยร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกัน ทำตลาดในลักษณะแพ็คเกจร่วมกัน (บันเดิ้ล) ในราคาที่แข่งขันได้ ซึ่ง LET ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้บริการด้านงานความมั่นคง

และงานเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยร่วมกันแบบครบวงจร กับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง บมจ.เมืองไทยประกันภัย นอกจากนี้ยังจับมือกับ ธนาคารกสิกรไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในด้านการชำระค่าบริการที่ยืดหยุ่นตอบสนองความต้องการของลูกค้า

Loxley

ตั้งเป้าปี 63 รายได้แตะ 400 ล้าน

บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2563 อยู่ที่ 400 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตขึ้นปีละอย่างน้อย 10% โดยสัดส่วนรายได้มาจาก 4 กลุ่มงานดังนี้ กลุ่มงาน Public Safety 40กลุ่มงาน Beyond Platform 25%กลุ่มงาน Airport Technology 25% และกลุ่มงาน Special Technology 20สำหรับผลงานที่ผ่านมา

ซึ่งส่งมอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ระบบบูรณาการรักษาความปลอดภัยของตำรวจภูธรภาค 5 เฟสหนึ่ง ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ 4 จังหวัด จากทั้งหมด 8 จังหวัด เป็นต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามอาชญากรรมต่างๆ ได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที

นอกจากนี้ยังมีที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สถานีขนส่งหมอชิต) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ รวมถึงอาคารล็อกซเล่ย์เองก็ใช้ระบบของ LET

นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยในภาพรวมขนาดใหญ่ระดับเมืองหรือภูมิภาคแล้ว บริษัท LETยังมีบริการ LET Care สำหรับลูกค้าบุคคลทั่วไป บ้านเรือน สถานประกอบการต่างๆ ที่ต้องการระบบรักษาความปลอดภัยที่เหนือกว่าการแจ้งเตือนผู้บุกรุกหรือดูไลฟ์วิดีโอผ่านสมาร์ทโฟน

เพราะ LET Care สามารถตรวจจับความผิดปกติทั้งความร้อน อุณหภูมิ กลุ่มควันภายในบ้าน รวมถึงสามารถควบคุมแสงสว่าง เปิด/ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่อยู่อาศัย พร้อมส่งสัญญาณแจ้งเตือนหน่วยงานฉุกเฉินที่เกี่ยวข้อง อาทิ แจ้งสถานีตำรวจหากมีผู้บุกรุก แจ้งทีมแพทย์ฉุกเฉินหากเกิดอุบัติเหตุกับผู้พักอาศัย

ผสานกับการให้บริการของทีมตรวจสอบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน CCC (Command Control Communication) เพื่อตอบโจทย์ให้ครอบคลุมกับสังคมในยุคดิจิทัล และยังลดความยุ่งยากซับซ้อนด้วยการให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นที่เป็นมิตรกับผู้ใช้

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่