“กลุ่ม ปตท.” ร่วมกับ “ไรส์” จัด D-Next: Demo Day 2018 แสดงผลงาน 15 สตาร์ทอัพระดับโลก ตอบโจทย์ New S-Curve

D-Next: Demo Day 2018 แสดงผลงาน 15 สตาร์ทอัพ ตอบโจทย์ New S-Curve

ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. มุ่งที่จะนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กรขนาดใหญ่

New S-Curve

ในยุคดิจิตอลที่แข่งขันกันด้วยความเร็วในการพัฒนางานนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยกลุ่มปตท. ได้เปิดตัวโครงการร่วมกับ RISE ภายใต้ชื่อโครงการ “D-NEXT by PTT Digital x RISE” มาเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจากกว่า 300 ทีม จาก 22 ประเทศทั่วโลก มาคัดเลือกให้เหลือ 15 ทีม

ที่เหมาะสมกับธุรกิจทั้ง 6 ด้านของกลุ่ม ปตท. ได้แก่ Energy & Utility Management, Operation & Maintenance, Health & Environment, Sales & Marketing, Finance และธุรกิจอื่นๆ เช่น Human Resources  เป็นต้น

โดยสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีมนี้ จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่นำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้แก้ปัญหาให้กับธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีโอกาสขยายธุรกิจร่วมกันกับ  PTT Digital ให้เติบโตแข็งแกร่งเทียบเท่าสากล โดยงาน D-NEXT: Demo Day 2018 ในวันนี้

เป็นครั้งแรกของการโชว์ผลงานของสตาร์ทอัพซึ่งได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์ธุรกิจกลุ่ม ปตท. ในระดับต้นแบบ (Prototype) แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมในการพัฒนาไปสู่ธุรกิจร่วมกับกลุ่ม ปตท. ตอบโจทย์การสร้าง อุตสาหกรรมแห่งอนาคต

New S-Curve

ด้าน อรวดี  โพธิสาโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 12  สัปดาห์ใน Bootcamp สตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีม ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.และพันธมิตรจาก RISE รวมทั้งมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ

ที่ตอบสนองความต้องการต่อธุรกิจในกลุ่ม ปตท. ให้หน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้ทดสอบการใช้งานเพื่อพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติม โดยสตาร์ทอัพทั้ง 15 ทีม ที่ร่วมโชว์ผลงานในงาน D-Next: Demo Day 2018 จะได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการDigital Transformation ของกลุ่ม ปตท.

และมีโอกาสร่วมงาน ตลอดจนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ PTT Digital และกลุ่ม ปตท. ต่อไปในอนาคต ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่ม ปตท. ที่จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมและแนวคิดการทำงานแบบสตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการที่รอบรู้ กล้าคิด กล้าทำสิ่งใหม่ และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล ด้านการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสตาร์ทอัพ ไปพร้อมๆกับยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กรขนาดใหญ่

New S-Curve

ด้าน คุณหญิง จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ร่วมก่อตั้ง RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรและสตาร์ทอัพ กล่าวว่า RISE เล็งเห็นว่า การผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิตอลอย่างผู้ที่ได้เปรียบในระดับสากลนั้น องค์กรขนาดใหญ่ มีส่วนสำคัญต่อการสร้าง New-S Curve ให้กับประเทศเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดและธุรกิจบริการใหม่ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากในองค์กร แต่มีความรวดเร็วในการดำเนินงานและสามารถทำงานในรูปแบบพาร์ทเนอร์ที่เติมเต็มความเชี่ยวชาญทางธุรกิจขององค์กรขนาดใหญ่ ร่วมกันขยายตลาดให้เติบโตอย่างรวดเร็วได้  

โดยปัจจุบัน เศรษฐกิจดิจิตอล มีแนวโน้มเติบโตถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาเซียนถือว่า เป็นภูมิภาคที่ได้เปรียบตรงที่เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ด้วยจำนวนประชากรรวมกว่า 620 ล้านคน รองจากจีนและอินเดีย

New S-Curve

โดยงาน D-Next: Demo Day 2018 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่สตาร์ทอัพในภูมิภาคอาเซียนและประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมถึงนักลงทุน และผู้บริหารกลุ่ม ปตท. จะได้สร้างเครือข่ายเพื่อร่วมมือกันต่อยอดการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล

สำหรับสตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ (D-NEXT Award) จากผลการตัดสินของคณะกรรมการ ได้แก่ ทีม BBP (Barguest Building Performance) สตาร์ทอัพด้านEnergy Tech จากประเทศสิงคโปร์ ที่นำเสนอระบบควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารด้วยอัลกอริทึ่มอัจฉริยะแบบ Real-time 

New S-Curve

ทำให้เพิ่มหรือลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศภายในอาคารได้อย่างเหมาะสมด้วยระบบอัตโนมัติ ลดการใช้พลังงานลงได้สูงสุดถึง 40 % ตลอดจนลดค่าใช้จ่าย และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดย BBP จะคิดค่าบริการตามสัดส่วนพลังงานที่ช่วยให้ธุรกิจประหยัดลงได้ 

นอกจากนี้ ยังมีสตาร์ทอัพที่ได้รับรางวัล Fan Favorite Award ได้แก่ ทีม Up Up App สตาร์ทอัพด้าน HR Tech จากประเทศเวียดนาม นำเสนอแอพพลิเคชั่นในรูปแบบเกมที่ช่วยสร้างความผูกพันของพนักงาน

ด้วยการสะสมคะแนนแลกรับของรางวัล ตามเป้าหมาย และผลลัพธ์ของการดำเนินงานที่ตั้งไว้ ช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน ทำให้วัดผลการดำเนินงานได้เร็วขึ้น และเพิ่มความผูกพันที่พนักงานมีต่อองค์กร

New S-Curve

ส่วนขยาย

* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุมุ่งเพื่อโจมตี หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง 
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Digital Content)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่