แซนดิสก์ คอร์เปอเรชั่น (NASDAQ: SNDK) ผู้นำด้านโซลูชั่นอุปกรณ์การเก็บข้อมูลแบบแฟลช ก้าวสู่ตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ SSD สำหรับผู้บริโภคในตลาดค้าปลีกพร้อมเปิดตัว SSD รุ่นใหม่ล่าสุดในกลุ่ม SSD แบบพกพา ไม่ว่าจะเป็นรุ่น SanDisk Extreme 500 ในขนาดเล็กสะดวกต่อการพกพา หรือรุ่น SanDisk Extreme 900 ซึ่งเป็น SSD แบบพกพา ในรูปแบบ Type C ที่เร็วที่สุดในโลก รวมถึงรุ่น SSD Plus ไดร์ฟ SSD 2.5 นิ้ว รุ่นใหม่ ซึ่งให้ความคุ้มค่าต่อเงินของผู้บริโภคด้วยความเร็วขึ้นกว่าฮาร์ดดิสก์เดิมสูงสุดถึง 23 เท่า ที่จะมาช่วยให้ชีวิตใหม่แก่คอมพิวเตอร์ตัวเดิม
เจษฎา ภวภูตานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย แซนดิสก์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่ม SSD กำลังกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยคุณสมบัติเด่นในการเข้าถึงข้อมูลและการบูทเครื่องที่เร็วกว่า แต่กลับใช้พลังงานที่น้อยกว่า จึงไม่เพียงเหมาะแก่การใช้กับโน้ตบุ๊คเท่านั้นแต่ยังรวมถึงผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านหรือใช้เพื่อการเล่นเกมส์ ที่ต่างเริ่มหันมาใช้ SSD เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มช่างถ่ายภาพและช่างถ่ายวิดีโอมืออาชีพ รวมถึงผู้ทำงานด้านกราฟฟิกต่างๆ ที่ต้องการความรวดเร็วในการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งและหลากหลายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ SSD ของแซนดิสก์ ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดของ SSD สู่กลุ่มต่างๆ ในท้องตลาดได้อย่างครอบคลุม
SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 900 – SSD แบบพกพารุ่นใหม่ พร้อมประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบัน
SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 900 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความจุของข้อมูลโดยสามารถจัดเก็บได้สูงสุด 1.92 TB* และยังทำงานได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์1พกพาโดยทั่วไปสูงสุด 9 เท่าตัว ผู้ใช้งานจึงสามารถทำงานได้อย่างง่ายดายแม้จะมีวิดีโอความละเอียด 4K มีการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงหรือการสร้างผลงานกราฟฟิกที่มีไฟล์ขนาดใหญ่
SanDisk Extreme 900 SSDs จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคม ด้วยความจุขนาด 480 GB 960GB และ 1.92TB ในราคา18,500 บาท 27,500 บาท และ 45,500 บาท ตามลำดับ พร้อมการรับประกัน 3 ปี
SSD แบบพกพา รุ่น SanDisk Extreme 500 มีขนาดที่เล็กเพียงครึ่งหนึ่งของสมาร์ทโฟน แต่มาพร้อมความเร็วที่สูงกว่าฮาร์ดดิสก์1พกพาทั่วไป สูงสุด 4 เท่าตัว ซึ่งผู้ใช้สามารถถ่ายโอนไฟล์วิดีโอหรือภาพได้ด้วยความเร็วสูงสุด 415MB/วินาที** โดยให้ความจุสูงถึง 480 GB* แต่กลับมีน้ำหนักที่เบา ทนทานต่อการใช้งานและให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็วและความปลอดภัยของข้อมูลตลอดระยะเวลาที่เดินทาง ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สะดวกต่อการพกพา มีความทนทาน ด้วยสไตล์สีดำที่ให้ความทันสมัยพร้อมกันชนที่ทำจากยาง รวมถึงวงแหวนที่ออกแบบมาสำหรับการคล้องกับกระเป๋า
SanDisk Extreme 500 Portable SSDs พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วโลก ด้วยความจุขนาด 120 GB, 240 GB และ 480 GB ในราคา 4,500 บาท 7,000 บาท และ 11,500 บาท ตามลำดับ สำหรับพร้อมการรับประกัน 3 ปี